กรุงเทพฯ – โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ สอน รองประธานสภา ‘ปดิพัทธ์’ เป็นผู้นำต้องระมัดระวังตัว ด้าน ‘อี้ แทนคุณ’ จี้ ประธานสภา ทั้งดำเนินคดี ทั้งปลด เหตุ โพสต์ภาพคู่เบียร์ ลงโซเชียล เสี่ยงผิด พ.ร.บ.ควบคุมแอลกอฮอล์
วันที่ 14 สิงหาคม 2566 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นกรณี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฏร คนที่หนึ่ง จากพรรคก้าวไกล โพสต์ภาพคู่คราฟต์เบียร์ ผ่านเพจ เฟซบุ๊ก Padipat Suntiphada – ปดิพัทธ์ สันติภาดา โดยยืนยันว่า มีการโพสต์ภาพคราฟต์เบียร์จริง และเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แน่นอน
ทั้งนี้ ในหลักการของ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ควบคุมเรื่องการโฆษณาไว้ มีเจตนารมณ์เพื่อปกป้องสังคม ไม่ให้มีการโฆษณา มาตรา 32 ระบุใจความสำคัญไว้ 2 กรณี คือ ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อประโยชน์ในทางการค้า คือ การโฆษณาเสนอขายหรือส่งเสริมการขายกฎหมายห้าม และอีกกรณี คือ ห้ามแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมกับการมีข้อความหรือพฤติการณ์ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงใจให้คนอื่นอยากจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังกล่าว ซึ่งเป็นหลักกฎหมายใช้บังคับกับทุกคน
นายราเมศ กล่าวอีกว่า ประการต่อมาที่ต้องวินิจฉัยต่อ คือ ข้อความที่โพสต์ “เอาแล้วๆๆๆๆ พิษณุโลกมีคราฟท์เบียร์ตัวแรกอย่างเป็นทางการแล้วครับ เป็นของดีพิดโลก นอกจากกล้วยตากและหมีชั่วครับ” ถือว่าเป็นข้อความหรือพฤติการณ์ ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้คนอื่นอยากจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ ตอบได้ตรงกันอีกเช่นกัน คือ “มีข้อความที่อวดอ้างชักจูงใจให้คนอื่นดื่ม เพราะบอกว่าเป็นของดี” สื่อสารออกไปเพื่อให้คนอื่นอยากดื่ม เข้าองค์ประกอบกฎหมายทุกประการ ต้องดำเนินคดีเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมตัดสินตามกฎหมาย ผิดถูกก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
นายราเมศ ระบุว่า นายปดิพัทธ์ เป็นถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฏร การปฏิบัติตนตามหลักกฎหมายบ้านเมือง คือ สิ่งสำคัญ เรื่องนี้ให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ความเห็นของตนเองแค่ความเห็นส่วนตัว อาจจะมีใครเห็นต่างจากนี้ก็ได้ แต่นายปดิพัทธ์ เป็นบุคคลสาธารณะ ในฐานะประชาชนมีสิทธิที่จะติติงได้ว่า “ท่านผู้ทรงเกียรติไม่ควรทำสิ่งนี้” จะมีแนวในการแสดงออกอย่างไร ก็ควรคำนึงถึงสังคมและกฎเกณฑ์กติกาบ้าง เชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นประเด็นในวันสองวันนี้แน่นอน
‘อี้ แทนคุณ’ จี้ ‘ประธานวันนอร์’ ดำเนินคดี-ปลด ‘ปดิพัทธ์’
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า ถือเป็นการทำผิด มาตรา 32 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แม้สุราพื้นถิ่นจะเป็นเรื่องที่สนับสนุนส่งเสริมอาชีพ และการนำผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม แต่การโฆษณาชวนเชื่อโดยตรงหรือโดยอ้อม ย่อมผิดกฎหมายชัดเจน
อีกทั้ง นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เป็นถึงรองประธานสภาฯ สมควรที่จะรู้และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมทั้งมาตรฐานทางจริยธรรมที่กำกับดูแลนักการเมืองไม่ให้ประพฤติชั่ว เพราะการดื่มแอลกอฮอล ์ย่อมทำให้ขาดสติและขาดความยับยั้งชั่งใจ เหมือนก่อนหน้านี้ที่มี ส.ส.ของก้าวไกลขาดสติ ขาดวุฒิภาวะ ไปกระทืบซ้ำคนล้มและเกิดวิวาทเพราะเมา เชื่อว่าหากมีสติสัมปชัญญะที่ดี ย่อมไม่ทำแบบอย่างที่เลวให้กับเยาวชนและสังคม
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ยังเรียกร้องให้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา พิจราณาดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว และประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้เด็ดขาด มิให้เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ เชื่อว่าประชาชนคาดหวังการรักษากฎหมายของนักการเมือง มิให้ทำให้รัฐสภาต้องด่างพร้อย เพราะการกระทำของคนไม่กี่คนจากพรรคก้าวไกลอีก
