X

“ที่ปรึกษา รมว.ทส” ทำความเข้าใจเครือข่ายภาคี นำร่องสร้างปะการังเทียมเกาะพะงัน

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ ( 22 ก.ค. 63 ) ที่โรงแรมบรรจงบุรี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี  นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดการประชุมเครือข่ายผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการใช้ประโยชน์จากขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมไปจัดวางเป็นปะการังเทียม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตลอดจนคณะผู้บริหารในสังกัดกระทรวง ทส. คณะทำงานจากบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด อาจารย์และนักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลชุมชนชายฝั่ง ประมงพาณิชย์ และผู้ประกอบการท่องเที่ยวและเดินเรือ เข้าร่วมประชุมจำนวนกว่า 500 คน

นายยุทธพล  อังกินันทน์  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า  ประโยชน์จากขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมไปจัดวางเป็นปะการังเทียมนำร่องที่ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานีเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จะช่วยเสริมศักยภาพด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและระบบนิเวศทางทะเล สร้างที่อยู่อาศัยและแหล่งหลบภัยของสิ่งมีชีวิตวัยอ่อน และที่สำคัญในส่วนของอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลมีส่วนร่วมอย่างมากในการที่จะขับเคลื่อนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล
สำหรับโครงการดังกล่าวทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด (เชฟรอนประเทศไทย) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (จุฬาฯ) เมื่อราวเดือนเมษายน พ.ศ. 2562 และการจัดงานครั้งนี้ เป็นการชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ และเสริมสร้างความรู้ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ท้องทะเลไทย

อย่างไรก็ตาม การนำขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมจำนวน 7 ขาแท่นไปจัดวางเป็นปะการังเทียม จะช่วยเสริมศักยภาพด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและระบบนิเวศทางทะเล สร้างที่อยู่อาศัยและแหล่งหลบภัยของสิ่งมีชีวิตวัยอ่อน ซึ่งการนำขาแท่นหลุมผลิต มาใช้ทำปะการังเทียมนั้น มีการดำเนินการในหลายพื้นที่ทั่วโลก สำหรับประเทศไทยเอง มูลนิธิเพื่อสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ได้ศึกษาการใช้โครงสร้างเหล็กชนิดเดียวกับขาแท่นมาจัดวางเป็นปะการังเทียมในบริเวณพื้นที่อ่าวโฉลกหลำเกาะพะงัน และพบว่ามีความเหมาะสมในการเข้าอยู่อาศัยของสัตว์น้ำและสิ่งมีชีวิตต่างๆ อีกทั้งเป็นการใช้ประโยชน์ทางด้านการท่องเที่ยวที่สามารถเป็นแหล่งดำน้ำและการประมง สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีรวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศชาติ จึงเป็นที่มาของการดำเนินโครงการดังกล่าวนี้
ด้าน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ทาง ทช. จะร่วมดำเนินงาน ติดตามประเมินและดูแลพื้นที่โครงการฯ รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่เชฟรอนประเทศไทย จะส่งมอบขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมที่ไม่ใช้งานแล้วจำนวน 7 ขาแท่น ให้แก่ ทช. เพื่อนำไปจัดวางเป็นปะการังเทียม รวมทั้งให้การสนับสนุนงบประมาณการดำเนินโครงการฯ นอกจากนี้ ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะเป็นผู้รับผิดชอบในการศึกษาทางวิชาการด้านกายภาพและนิเวศวิทยาของพื้นที่ รวมถึงการเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่ให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาการของทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ ขาแท่นที่นำมาจัดวางนั้น มีลักษณะที่คงทน แข็งแรง ทำจากเหล็กกล้า (carbonsteel) ไม่มีส่วนใดสัมผัสกับปิโตรเลียมมาก่อน จึงไม่มีการปนเปื้อนของคราบน้ำมันตกค้าง

                สำหรับพื้นที่การจัดวางปะการังเทียมตั้งอยู่ห่างจากเกาะพะงันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 7.5 ไมล์ทะเล และมีระยะห่างจากหินใบไปทางตะวันออกประมาณ 7.8 ไมล์ทะเล ซึ่งกองปะการังเทียมจากขาแท่นฯ มีขนาดเพียง 0.05 ตารางกิโลเมตร ที่ระดับความลึกของน้ำประมาณ 38.5–39.5เมตร โดยมีระยะห่างระหว่างมียอดกองถึงผิวน้ำมากกว่า 15 เมตร โดยจะเริ่มจัดวางในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ และ ได้แบ่งการดำเนินงานศึกษาติดตามออกเป็น 2 ระยะ ระยะแรกจะใช้เวลา 2 ปี เพื่อศึกษาผลด้านกายภาพ ชีววิทยา นิเวศวิทยา ส่วนระยะที่สอง จะใช้เวลา 4 ปี ในการติดตามต่อเนื่องจากระยะแรกเพื่อเก็บข้อมูลสิ่งมีชีวิตที่เข้ามาอยู่อาศัยในแนวปะการัง และการเข้าใช้ประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสีย อย่างไรก็ตาม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะมุ่งมั่นดำเนินการเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างความสมบูรณ์และสมดุลของระบบนิเวศทางทะเล ต่อไป .

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน