รวบพ่อลูกอ่อนชิงทรัพย์คนแก่ อ้างหาเงินซื้อแพมเพิร์สและค่านมให้ลูก  

รวบพ่อลูกอ่อนชิงทรัพย์คนแก่ ได้เงินสดจำนวน 3,700 บาท อ้างว่าต้องการหาเงินซื้อแพมเพิร์สและค่านมให้ลูก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 37/7  หมู่ 16  ต.บางพึ่ง อ.พระ ประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงเช้าของวันที่  21 สิงหาคม 65 ที่ผ่านมา จับภาพ ขณะที่มีวัยรุ่นชายสองคน ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง หลังจากเห็นเหยื่อที่เป็นหญิงสูงวัยรายหนึ่งกำลังเดินมายังบริเวณดังกล่าว พอผู้เสียหายเดินแวะเข้ามาพูดคุยกับเพื่อนบ้าน คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว อาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายเผลอ แล้วลงจากท้ายรถปรี่เข้าหาผู้เสียหายก่อนจะกระชากทรัพย์สิน ซึ่งเป็นฉลากลอตเตอรีที่ถืออยู่ในมือ โดยคนร้ายได้ชิงลอตเตอรีไปจากมือแต่พอเห็นว่าสิ่งที่ได้ไปนั้นไม่ใช้เงิน จึงหันกลับมาชิงเงินสดในกระเป๋าเสื้อของผู้เสียหายก่อนจะพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางปากซอย หลังเกิดเหตุผู้เสียหายทราบชื่อต่อมา คือ นางธนพร แก้วบัวดี อายุ 74 ปี  ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง โดยทรัพย์สินที่คนร้ายสองคนได้ไปคือ เงินสดจำนวน 3,700 บาท

หลังจากผู้เสียหายรายนี้เข้าแจ้งความ ฝ่ายสืบสวน สภ.พระประแดง โดย พ.ต.ท.ธนกฤต รวยอารี รอง ผกก.สส.สภ.พระประแดง ได้ระดมกำลังฝ่ายสืบสวน สภ.พระประแดง ออกไล่ล่าหาเบาะแสและแกะรอยเส้นทางคนร้ายจนกระทั่งทราบข้อมูลว่าสองคนร้าย พักอาศัยอยู่ ในชุมชน บัวหลวง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา  กรุงเทพมหานคร จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งช่วงกลางดึกของวันที่ 24 ที่ผ่านมาพบชายวัยรุ่นต้องสงสัยที่ปรากฏตามภาพวงจรปิด นั่งอยู่เพิงไม้ริมทาง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าควบคุมตัว ทราบชื่อคือ นาย สมพร โคกทอง อายุ 27 ปี ซึ่งตอนแรกให้การปฏิเสธ อ้างไม่ได้ก่อเหตุกระทำความผิดอะไรมา เจ้าหน้าที่จึงนำหลักฐานภาพจากวงจรปิดและเส้นทางการหลบหนีมาให้นายสมพร ดูเจ้าตัวจึงยอมรับสารภาพเพราะจำนนด้วยหลักฐาน และให้การซัดทอดว่าร่วมกับ นายสมชาย พันธุ์แดง อายุ 24 ปี  อีกคนในการก่อเหตุ ฝ่ายสืบสวนจึงขยายผลไปจับกุมตัวนายสมชาย เอาไว้ได้ขณะขับรถอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 แยก 16 กรุงเทพมหานคร พร้อมกับนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปค้นห้องพัก ตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย  หมวกนิรภัยสีแดง 1 ใบ หมวกนิรภัยสีขาวคาดดำ 1 ใบ เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีกรม 1 ตัว รองเท้าแตะฟองน้ำสีเทา 1 คู่ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีน้ำเงินแดง ทะเบียน 3 ขก 4185 กรุงเทพมหานคร  ซึ่งทั้งหมดเป็นของกลางที่ใช้ในวันก่อเหตุ นอกจากนั้น นาย สมพร ยังให้การรับสารภาพอีกว่าตนเองเพิ่งไปก่อเหตุชิงทรัพย์กับหญิงสูงอายุรายหนึ่งในพื้นที่ของ สน.บางขุนนนท์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก่อนจะนำเงินที่ได้ไปไถ่สร้อยคอมาใส่ นอกจากนั้นยังพบยาเสพติดยาเค และพบการพัวพันเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกจำนวนมาก ซึ่งนายสมพร ยอมรับว่าตนเองเป็นผู้สั่งการยาเสพติดเข้ามาแล้วจะให้นาย สมชาย เป็นผู้เดินยา จนมาถูกจับกุม ขณะตรวนสอบประวัติย้อนหลัง พบว่านายสมพร มีประวัติเคยถูกจับกุมมาแล้วนับไม่ถ้วน ในคดียาเสพติด ลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ตำรวจจึงคุมตัวผู้ต้องหา ทั้งสอง มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งพบว่าผู้ต้องหาที่ ลงมือก่อเหตุ คือนายสมชาย นั้นพิการที่ข้อมือข้างขวาอีกด้วย โดยขณะทำแผน นายสมชาย ผู้ต้องหาที่พิการมือขวา ให้การยอมรับว่าที่ทำลงไปนั้น อ้างว่าต้องการหาเงินไปซื้อแพมเพิร์สและนมให้ลูกของนายสมชาย ส่วนนาย สมพร ให้การอ้างว่าทำลงไปเพราะหาเงินค่านมให้หลาน

ขณะที่ นาง ธนพร แก้วบัวดี วัย 74 ปี  ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เล่าว่า  เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อแปดโมงของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองกลับมาจากร้านสะดวกซื้อ จึงแวะทักทายเพื่อนบ้านริมทาง จังหวะที่เดินมาถึงพบว่ามีวัยรุ่นจอดรถอยู่ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนร้าย จึงเข้าไปหาเพื่อนบ้านพอหันหลังให้คนร้าย คนร้ายก็มาฉลากลอตเตอรี ในมือ ตนแรกยังคิดว่ามีคนรู้จักมาหยอกเล่น แต่พอหันมาอีกทีคนร้ายก็มาฉกเงินในกระเป๋าไป จนมั่นใจว่าเป็นคนร้ายมาก่อเหตุ จึงไปแจ้งความจนตำรวจตามจับตัวได้ ถามว่าสงสารไหมหรือให้อภัยคนร้ายหรือไม่ ตนเองไม่สงสารแต่สมเพชมากกว่าหลังจากนี้ก็ให้เป็นไปตามขบวนการของกฎหมาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา  “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดหรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” โดยประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายรายใดที่เคยถูกคนร้ายรายนี้ก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้สามารถมาชี้ตัวยืนยันและสั่งอายัดตัวดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป คาดยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย