นครพนม – วันที่ 5 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 4 ก.ย. 2562 บริเวณด่านพรมแดนจังหวัดนครพนม สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3(นครพนม-คำม่วน) บ้านห้อม ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองฯ (ตม.จว.นครพนม) ตรวจพบหนังสือเดินทางรถหรือพาสปอร์ตรถน่าสงสัย เนื่องจากเป็นเล่มใหม่ และได้มีการโอนกรรมสิทธิ์กันแบบสดๆร้อนๆ ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงแจ้ง พ.ต.ต.ปวิช อุราสาย สว.ตม.จว.นครพนม และ ร.ต.อ.ธนารัตน์ ประดับจันทร์ ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ ศรีทะวงษ์ รอง สว.ตม.จว.นครพนม พ.ต.ท.จีรุฎฐ์ พิมพา รอง ผกก.สืบสวนจังหวัดนครพนม ร.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ แสงสา รอง ผบ.ร้อย ตชด.236 เข้าร่วมตรวจสอบ โดยรถยนต์มีลักษณะผิดปกติวิสัยที่ควรจะใช้ในการเดินทาง เพราะในรถไม่มีสิ่งของเครื่องใช้อย่างอื่นเลย และคู่มือรถที่มีการโอนและต่อทะเบียนรถมีลักษณะที่ผิดสังเกต จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม รับทราบ
จากนั้น พ.ต.อ.แดนไพรฯจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ฯ ทำการตรวจสอบในระบบพบว่าผู้ต้องสงสัย มีประวัติการนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักร ผ่านทางสะพานมิตรภาพ 3 แต่เวลากลับได้ข้ามเรือโดยสารระหว่างประเทศ เข้ามาทางท่าเทียบเรือนครพนม เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยไม่ได้นำรถยนต์กลับเข้ามาด้วย จำนวน 2 คัน จึงได้ประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าศุลกากรนครพนม เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวมีการนำรถออกนอกราชอาณาจักรจำนวน 2 คันแล้ว คือ 1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ ทะเบียน กจ 2530 นครพนม นำออกเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2561 ตามใบขนสินค้าพิเศษ เลขที่ 3501-6611200872 และ 2. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ ทะเบียน กจ 2603 นครพนม นำออกเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2561 ตามใบขนสินค้าพิเศษ เลขที่ 3501-6611201260 โดยรถยนต์ทั้ง 2 คัน เป็นรถนั่ง 4 ประตู ที่ทางประเทศเพื่อนบ้านมีความต้องการสูง และกำลังจะนำคันที่ 3 ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ 4 ประตู ยกสูง ทะเบียน กจ 5183 นครพนม ข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการกระทำความผิด จึงนำมาสู่การจับกุมในข้อหาลักลอบนำรถยนต์ออกไปนอกราชอาณาจักรอย่างผิดกฎหมาย อันเป็นความผิดตาม ม.242 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 ผู้ต้องหาชื่อ นายเชษฐ ไขยมาตย์ ทำหน้าที่เป็นคนขับรถ และข้อหาฐานพยายามลักลอบนำรถยนต์ออกไปนอกราชอาณาจักรอย่างผิดกฎหมาย อันเป็นความผิดตาม ม.242 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 ประกอบ ม.80 แห่งประมวลกฎหมายอาญา นายเชษฐ ไชมาตย์ และ นายบัณฑิตย์ อิงอาจ เป็นผู้โดยสาร ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสอง มีพื้นเพอยู่ ต.กุดฉิม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีพฤติกรรมเชื่อมโยงขบวนการผิดกฎหมายหลายเครือข่าย
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเชษฐผู้ต้องหารับสารภาพว่า กำลังจะนำรถยนต์คันดังกล่าวออกไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้ติดต่อขายรถไว้กับลูกค้าที่นั่นไว้แล้ว และเคยนำรถยนต์ไปขายให้คนฝั่งนั้นที่บริเวณแขวงคำม่วน ซึ่งรถคันล่าสุดเป็นรถยนตืของตนที่จะขายให้ลูกค้า แต่ตนเห็นว่าเคยเอารถยนต์ข้ามไปขายมาแล้ว 2 คัน จึงทำการโอนรถให้นายบัณฑิตย์ อิงอาจ เป็นเจ้าของแทน เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจพบว่าตนมีประวัติการนำรถออกไปขาย 2 คัน ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของนายบัณฑิตย์ฯว่า ยอมเป็นเจ้าของรถแทนนายเชษฐจริง เพื่อหวังให้นายเชษฐนำรถยนต์ออกไปขายที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยอ้างว่าไม่ได้รับค่าจ้างใดๆเพราะเป็นญาติกัน ในวันที่นำรถยนต์เตรียมข้ามฟาก นายเชษฐให้ตนนั่งรถไปเป็นเพื่อน ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดังกล่าว หลังจากสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสอง
เสร็จจึงนำตัวทั้งสองและของกลางกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
- “พาณิชย์”ลุยต่อ จัดธงฟ้าราคาประหยัด ลดภาระค่าครองชีพพี่น้องประชาชน จ.นครพนม
- ย้อนวันวานเมืองเก่าสิเกาตรัง ตำนานชุมชนเมืองท่ากงสีเก่า สุดฟินชิมอาหารทะเล-แลลิเกป่า ศิลปะการแสดงโบราณภาคใต้
- ร้อยเอ็ด...คาเฟ่สำหรับสายมู 'ข้าวก้นบาตร คาเฟ่' เมืองร้อยเอ็ด วัดสร้างรายได้ให้ชุมชน สร้างแลนด์มาร์กเอาใจสายมู ขอพรหลวงปู่ทวด…
- ไฟไหม้บ้านขณะออกไปเลี้ยงวัว หลานไปเรียกกลับมาแทบเป็นลม วอดหมดไม่เหลืออะไรเลย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: