นราธิวาส-เร่งล่า! 2 หัวโจกมีหมายจับ 12 หมาย ขว้างไปป์บอมบ์ใส่จุดตรวจโควิด ที่จะแนะ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ว่าที่ร้อยตรีสมบัติ สิงห์คาร นายอำเภอจะแนะ จ.นราธิวาส พร้อมด้วย พันโทชาญฤทธิ์ ฮันสราช รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ร้อยเอกอนุเทพ จิตรณรงค์ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4904 พ.ต.ท.สัญญา จันทร์ดำ หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาสและพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นราธิวาส เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ คนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถ จยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ซีซี สีแดงก่อเหตุขว้างระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ใส่จุดตรวจ กองร้อย ทพ.ที่ 4904 ฉก.ทพ.49 ซึ่งเป็นจุดตรวจด่านโควิดรอยต่อระหว่าง อ.จะแนะ อ.ระแงะ และ อ.สุคิริน ตั้งอยู่ถนนหมายเลข 4115 สายดุซงญอ-สุคิริน ตั้งอยู่ปากทางเข้าที่ทำการ อบต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ เคราะห์ดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.05 น.ของวันที่ 28 ก.ค.2564 ที่ผ่านมา
ที่เกิดเหตุพบเศษซากของท่อเหล็กทรงกลมตกกระจายเกลื่อนบริเวณภายในเต็นท์ซึ่งตั้งเป็นจุดตรวจโควิด รวมทั้งโต๊ะเก้าอี้และโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหายอีก 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวน สิบเอกวินัย ไชยหงศ์ ปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ประจำจุดตรวจดังกล่าวทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองพร้อมด้วยกำลังพล กองร้อย ทพ.ที่ 4904 ซึ่งปฎิบัติหน้าที่ภายในบริเวณจุดตรวจประมาณ 4 นาย กระจายกำลังกันรายรอบ ได้มีคนร้ายซึ่งขี่รถ จยย.ซ้อนท้ายกันมา ก่อนที่คนนั่งซ้อนท้ายจะขว้างระเบิดใส่จุดตรวจ แต่เคราะห์ดีระเบิดไปโดนป้ายไวนิลที่แขวนไว้หน้าเต็นท์ ตนเองจึงได้สั่งการให้กำลังพลอีก 3 นายวิ่งไปที่บังเกอร์ และเมื่อระเบิดตกลงมาที่พื้นดินได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานทั้งหมดรอดหวุดหวิด ซึ่งหลังก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถยิงตอบโต้ได้เนื่องจากมีแม่ค้าขายผลไม้อยู่บริเวณนั้น โดยคนร้ายได้รีบขี่รถ จยย.หลบหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.สุคิริน
ทางด้านแหล่งข่าวความมั่นคงทางทหารในพื้นที่เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของนายอับดุลเลาะ บูละ และนายกอเซ็ง บาลาวา สองแกนนำมีหมายจับคดีความมั่นคง โดยนายอับดุลเลาะ มีหมายจับ ป.วิอาญาจำนวน 8 หมาย ส่วนนายกอเซ็ง มีหมายจับ ป.วิอาญาจำนวน 4 หมาย โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุด นปพ.ร่วม จ.นราธิวาสและชุดสืบสวนฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อแกะรอยกลุ่มคนร้ายพร้อมจัดกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายสำคัญ เพื่อที่จะเร่งนำตัวสองแกนนำและสมาชิกแนวร่วมในเครือข่ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
