X
เคอร์ฟิววันแรกไฟไหม้

เคอร์ฟิววันแรกไฟไหม้ ร้านอาหารกลางหมู่บ้านวอดทั้งหลัง

หนองบัวลำภู – เคอร์ฟิววันแรกไฟไหม้ ร้านอาหารหมู่บ้านวอดทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ระดมกำลังกันเข้าดับก็ไม่ทัน เป็นบ้านไม้สองชั้น  เงินสองหมื่นห้าเบิกมาจะใช้หนี้ก็ไม่เหลือ

เคอร์ฟิววันแรกไฟไหม้

เวลา 21.40 น.วันที่ 3 เม.ย.63 เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านอาหารอาหารตามสั่งชื่อ “ไก่ลาบก้อย” บ้านเลขที่ 7 ม.10 บ้านค้อ ต.บ้านพร้าว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เป็นบ้านสองชั้น ชั้นบนเป็นไม้ เพลิงลุกโหมไหม้อย่างรุนแรง ประกอบกับมีลมกระโชก หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.ท.พีรศักดิ์ ชัยชนะโชติสิน รอง ผกก..สส. สภ.เมืองหนองบัวลำภู พร้อมด้วย พ.ต.ต.วิวิธชัย ไชยแพทย์ สว.(สอบสวน) ร.ต.อ.ธนพงษ์ ศิริสำราญ รอง สวป. นำกำลังพร้อมด้วยกู้ภัยนเรศวร รถดับเพลิง อบต.บ้านพร้าว หัวนา และเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังออกกวดขันตามนโยบายรัฐบาล​ (เคอร์ฟิว) เข้าสะกัดใช้เวลาประมาณ 40 นาทีจึงควบคุมเพลิงไว้ได้

นายนิพนธ์ สีโท อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านที่แจ้งเหตุและกำลังหิ้วถังน้ำไปดับไฟ​ ขณะที่เจ้าหน้าที่ไปถึง จึงรีบกันตัวออกมานั่งสงบสติอารมณ์ บอกว่า ขณะนั่งอยู่ชั้นล่างของบ้านก็เห็นไฟลุกไหม้ที่ชั้นบน จึงพยายามหาน้ำมาดับ และเรียกลูกเมียออกมา เก็บทรัพย์สินจำเป็น ก่อนขับรถยนต์ รถ จยย. ที่อยู่ข้างบ้านออกมาให้ก่าง แล้วมีชาวบ้านมาช่วยกันดับ พร้อมแจ้งเหตุและแจ้งรถดับเพลิงที่อยู่ใกล้ ๆ เข้ามาช่วย แต่ก็เอาไม่อยู่เพราะบ้านไม้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี สุดท้ายไฟไหม้เสียหายหมด โดยมีบ้านรวมทรัพย์สินประมาณ 1.2 ล้านบาท เงินสดที่เบิกมาเตรียมไปใช้หนี้ 25,000 บาท ถูกเผาไปด้วย อย่างไรก็ตามไม่ติดใจสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ คาดว่าอากาศร้อนจัดทำให้ปลัก๊กไฟและคัทเอาท์ที่อยู่ชั้นสองเกิดลัดวงจรจนทำให้ไฟไหม้ขึ้นดังกล่าว

ข่าว-ภาพ // รุจ ลาเรือง

 

ติดตามข่าวสารจังหวัดหนองบัวลำภู ที่นี่

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

วิโรจน์ คงพุฒิคุณ

วิโรจน์ คงพุฒิคุณ

คนหนองบัวลำภู โดยกำเนิด เข้าสู่แวดวงนักข่าวเมื่อปี 2529 เป็นนักข่าวคนเดียวของอำเภอ กระทั่งปี 1 มกราคม 2536 สถาปนาจังหวัด ก็เลยได้เป็นนักข่าวคนแรกของจังหวัดหนองบัวลำภู โดยปริยายจวบจนทุกวันนี้ ชอบถ่ายภาพ ชอบค้นหา คติประจำใจ "ทำยังไงให้คนรู้ว่านี่คือจังหวัดหนองบัวลำภู" จึงได้ตั้งเฟสบุ๊คกลุ่ม "ที่นี่..เมืองลุ่มภู" ขึ้นมาเพื่อทำให้คนได้รู้จัก