หนุ่มวัย 34 ปี อดีตทำงาน เป็น ครูพี่เลี้ยงเด็กพิเศษ ที่ จ.ฉะเทริงเทรา หนีพิษโควิด ตามภรรยากลับบ้านที่จ.บุรีรัมย์ ตั้งหลักชีวิตผันตัวเป็นพ่อค้าเข็นรถเร่ขายบัวลอย เรียนรู้จากอินเตอร์เน็ต แถมน้ำใจงาม ขึ้นป้าย “สิทธิ์ทานฟรี สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ คนไร้บ้าน คนยากไร้ คนพิการ ทานฟรี ทุกวัน วันละถุง” คนแห่อุดหนุน เผยอยากทำความดีตอบแทนสังคมยุคโควิด
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพ่อค้าหนุ่มเข็นรถเร่ขายบัวลอย ทำสดๆ ใหม่ๆ ในตัวเมืองบุรีรัมย์ ช่วงเย็นเวลาตั้งแต่ 14.00 น.- 20.00 น. จะมาจอดขายอยู่ บริเวณ หน้าวัด ทักษิณาวาส บ้านโคกวัด ต.อิสาณอ.เมืองบุรีรัมย์ และยังน้ำใจงาม ให้คนท้อง ผู้สูงอายุ คนพิการ คนยากไร้ และคนไร้บ้าน ได้ทานฟรี อีกด้วย
จากการตรวจสอบ พบมีป้ายติดหน้ารถเข็นเร่ขายของ เขียนว่าร้าน “บัวลอยยี่เดียว” หอม หวาน มัน นุ่มหนึบ ขายเพียงถุงละ 20 บาท พร้อมมี “สิทธิ์ทานฟรี ให้ สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ คนไร้บ้าน คนยากไร้ คนพิการ ทานฟรี ทุกวัน วันละถุง” อีกด้วย
บรรยากาศหน้าร้านช่วงเย็น หลังเลิกงาน มีลูกค้ามารอต่อคิว รอซื้อบัวลอย เป็นจำนวนมากเนื่องจากขายราคาไม่แพงเพียงถุงละ 20 บาท ทำแป้งเพียงวันละ 7 กิโล อีกทั้งยังทำสดๆใหม่ๆทุกวัน และตัวแป้งส่วนผสมที่หลากหลายรสชาติจะมีทั้งหมด 6 รส 6สี มีทั้ง สีเหลือง ทำมาจากฝักทอง , สีส้ม ทำมาจากแคร์รอต , สีม่วง ทำมาจากมันม่วง , สีขาว ทำมาจากเผือก, สีเขียว ทำมาจากใบเตย และสีฟ้า ทำมาจาก ดอกอัญชัน นอกจากนี้ก็จะมี คนพิการ และคนไร้บ้าน คนยากไร้ตกงาน แวะเวียนมารับบัวลอยกลับไปกินคนละถุง เป็นประจำทุกวัน
สอบถามนาย วรวิทย์ รัตนรินทร์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 356/97 โครงการเคหะแห่งชาติ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตนทำงานเป็น ครูพี่เลี้ยงเด็กพิเศษ ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัด ฉะเทริงเทรา แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เกิดขึ้น จึงกลับบ้านแฟนที่บุรีรัมย์ อีกทั้งยังมีภาระ ต้องเลี้ยงดูลูกน้อยถึง 2 คน จึงต้องหาทางทำมาหากิน จึงศึกษาเรียนรู้วิธีการทำบัวลอย จากอินเตอร์เน็ต ลงทุนเพียงวันละ 400-500 บาท ตอนนี้ขายมาได้ 4 เดือน ถือว่าผลตอบรับดีมาก ได้กำไร ประมาณ เท่าตัวคือ 500 บาท ต่อวัน ถือว่าอยู่ได้ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
ส่วนสาเหตุที่ติดป้าย ให้ สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ คนไร้บ้าน คนยากไร้ คนพิการ ทานฟรี นั้น ตนอยากทำความดีตอบแทนสังคม ยิ่งปัจจุบันยังมีโรคระบาดอยู่ คนตกงาน คนยากไร้ก็เพิ่มมากขึ้น ตนเห็นก็สงสาร อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเท่าที่จะทำได้
