สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ทหารพราน ทพ.13 ร่วมกับสรรพสามิตสระแก้ว สกัดจับกุมบุหรี่เถื่อนลักลอบข้ามแดนพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รวมกว่า 11,180 ซอง มูลค่าความเสียหาย
เมื่อวันที่ 20 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.เทพพิทักษ์ นิมิตร ผบ.กองกำลังบูรพา สั่งการให้กองกำลังป้องกันชายแดน จ.สระแก้ว เข้มงวดกวดขันการลักลอบเข้าเมืองและการนำสิ่งผิดกฎหมายข้ามบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาโดยผิดกฎหมาย โดย พ.อ.กรินทร์ อุตสาหะ ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1301 และชุดเฉพาะกิจ ฉก.ร.111 กองกำลังบูรพา ออกตรวจสอบหลังได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า จะมีการลักลอบนำยาสูบที่มิชอบด้วยกฎหมาย ลักลอบนำเข้ามายังราชอาณาจักรไทย โดยมีการบูรณาการร่วมกับ นางสาวดวงนภา ธะนะพาส สรรพสามิตพื้นที่สระแก้ว สาขาอรัญประเทศ ,นางสาวชวรัสย์ รูปโฉม นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการพิเศษ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครองและสรรพสามิต ได้จัดกำลังพลทำการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจในพื้นที่รับแจ้ง ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จำนวน 7 คน เดินแบกสิ่งของ เข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติ มุ่งหน้าเข้าราชอาณาจักรไทย ชุดลาดตระเวนจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม ที่บริเวณ ม.3 บ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้ทิ้งสิ่งของ แล้ววิ่งหลบหนีฝ่าความมืดไปได้
จากการตรวจสอบพบยาสูบ 17 รายการ ประกอบด้วย 1.บุหรี่ซิกาแรต ตรา GOLD SEAL (ใหญ่) จำนวน 3,340 ซอง ,2.บุหรี่ซิกาแรต ตรา GOLD SEAL (เล็ก) จำนวน 790 ซอง, 3.บุหรี่ซิกาแรต ตรา COMBO จำนวน 280 ซอง ,4.บุหรี่ซิกาแรต ตรา CAPITAL จำนวน 100 ซอง ,5.บุหรี่ซิกาแรต ตรา LAPIN จำนวน 140 ซอง ,6.บุหรี่ซิกาแรต ตรา SMS จำนวน 50 ซอง ,7.บุหรี่ซิกาแรต ตรา ESSE CHANGE จำนวน 290 ซอง ,8.บุหรี่ซิกาแรต ตรา ORIS จำนวน 60 ซอง ,9.บุหรี่ซิกาแรต ตรา 235 จำนวน 130 ซอง ,10.บุหรี่ซิกาแรต ตรา D&J จำนวน 90 ซอง
11.บุหรี่ซิกาแรต ตรา ARA จำนวน 50 ซอง ,12.บุหรี่ซิกาแรต ตรา FINE จำนวน 180 ซอง ,13.บุหรี่ซิกาแรต ตรา TEXAS จำนวน 1,570 ซอง ,14.บุหรี่ซิกาแรต ตรา COWBOY จำนวน 1,230 ซอง ,15.บุหรี่ซิกาแรต ตรา IZA จำนวน 750 ซอง ,16.บุหรี่ซิกาแรต ตรา LUXURY จำนวน 2,080 ซอง ,17.บุหรี่ซิกาแรต ตรา MOND จำนวน 50 ซอง รวม 11,180 ซอง หรือ 1,118 คอตตอน คิดเป็นมูลค่าสินค้าประมาณ 335,400 บาท มูลค่าภาษีสรรพสามิต 672,706.36 บาท และประมาณการค่าค่าปรับเป็นเงินถึง 10,090,595.43 บาท หลังจากนั้น ชุดจับกุมจึงได้นำของกลางทั้งหมด ส่งมอบให้ เจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่สระแก้ว สาขาอรัญประเทศ นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโคกสูง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
—————————–
ภาพ/กกล.บูรพา
