ปราจีนบุรี – เจ้าของนาปรัง จ.ปราจีนบุรี โวยช้างป่าอ่างฤาไน เข้าไปกินข้าวในนาปรัง 2 คืนติดต่อกัน เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งผลักดันกลับเข้าป่า
เมื่อวันที่ 15 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี รับแจ้งจาก นายไพวรรณ มูลเชื้อ เกษตรกรชาวนาปรัง บ้านเขาจาน หมู่ที่10 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่าถูกช้างป่าอ่างฤาไนเข้าไปกัดกินและเหยียบย่ำข้าวนาปรังที่กำลังออกรวงใกล้จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว เสียหาย 2 คืนติดต่อกัน รู้สึกหนักใจมาก กว่าผลผลิตที่เสียหายนั้นจะเก็บเกี่ยวได้ ขณะนี้ไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบ อยากให้เจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่าลงพื้นที่เข้ามาเร่งผลักดันช้างป่าตัวดังกล่าวออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด เมื่อวานนี้ หลังจากที่พบว่า ช้างป่าเข้ามาเหยียบย่ำกัดกินนาข้าว ได้โทรประสานไปยังเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้ลงมาเร่งผลักดันช้างป่าแต่อย่างใด
ล่าสุด ช้างป่าลงเมื่อคืนที่ผ่านมา ประมาณ 20.00 นได้ยินเสียงหมาเห่า จึงออกมาดูที่ทุ่งนา ปรากฏว่า พบเห็นช้างป่าตัวดังกล่าว มาหักไม้ยูคาฯบนคันนา แล้วลงกัดกินข้าวจึงได้จุดประทัดไล่ออกไป เกรงว่า จะเสียหายไปมากกว่านี้ หลังจากจุดประทัดช้างตัวดังกล่าวได้หนีหายไปในความมืด กระทั่งเมื่อ 06.00 น.ที่ผ่านมา ช้างป่าตัวดังกล่าวได้ออกจากป่าอ้อยที่อยู่ถัดไป เข้ามากัดกินข้าวที่กำลังเป็นฟันน้ำนม จึงจุดประทัดไล่ช้างตัวดังกล่าวอีก จึงหนีไปอยู่ที่ป่าอ้อยที่อยู่ถัดไปประมาณ 500 เมตร จากนี้ไปไม่รู้จะทำอย่างไร รู้สึกเครียดและกังวลมากที่ช้างป่าออกมากัดกินแล้วเหยียบย่ำพืชผลทางการเกษตร
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลผลิตที่เสียหายไปนั้น ชาวบ้านบอกว่า เท่าที่ทราบข้อมูลเบื้องต้นทางการไม่ได้ชดเชยเยียวยาให้ เพราะไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่จะช่วยเหลือเยียวยา กรณีที่เกษตรกรที่จะได้รับการชดเชยเยียวยาจากภาครัฐนั้น ต้องลงทะเบียนเกษตรไว้ และพืชผลทางการเกษตรต้องเสียหายโดยสิ้นเชิง หากถูกช้างกัดกินในบางส่วน จะไม่ได้รับการชดเชยเยียวยาแต่อย่างใด อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับช้าง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใด เร่งลงพื้นที่ทำการผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่โดยเร็ว หากปล่อยไว้อย่างนี้ คิดว่า ช้างจะต้องมากินข้าวในนาทุกคืนเพราะข้าวเริ่มแก่ จึงเป็นอาหารอย่างดีของช้างป่า
———————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
