X

เปิดภาพ!! ทหารสกัดจับคนไทยลักลอบไปเขมร จ.สระแก้ว

สระแก้ว – เปิดภาพขณะเจ้าหน้าที่ทหารพรานฯ สกัดจับคนไทยลักลอบไปยังประเทศกัมพูชา พื้นที่ชายแดน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว

เมื่อวันที่ 8 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชายแดนทุกจุด เข้มงวดกวดขันปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและการนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้า-ออก บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตามช่องทางธรรมชาติ ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งพบการระบาดของโควิดสายพันธุ์ “โอมิครอน” ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1203 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ,เจ้าหน้าที่ ฉก.ตาพระยา กองกำลังบูรพา จัดกำลังพลร่วมกับ มว.ปชด.ที่ 1 ร้อย.ปชด.ที่ 1 (พล.ร.11) ทำการลาดตระเวน และเฝ้าตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ กระทั่งสามารถตรวจพบคนไทย จำนวน 3 คนเป็นเพศหญิงทั้งหมด พร้อมผู้นำพาชาวไทยชาย จำนวน 2 คน ในขณะกำลังลงจากรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ที่บริเวณพิกัด บ.ทัพสยาม ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ระหว่างจุดตรวจ ต.26-27 และเดินลัดเลาะเข้าไปในไร่มันสำปะหลังเพื่อเดินตามช่องทางธรรมชาติไปยังประเทศกัมพูชา

ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจสอบในเบื้องต้นและสอบถามผู้ถูกจับคนไทย ทราบว่า เป็นคนไทยและพยายามลักลอบเดินทางออกจากประเทศไทยไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อเดินทางข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า ผู้นำพาชาวไทย 2 คน ประกอบด้วย นายอัมพร แก้วพลงาม อายุ 44 ปี อุณหภูมิร่างกาย 36.7 องศา บ้านเลขที่ 86 ม.15 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 110I สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน 1กง 8776 สระแก้ว หมายเลขเครื่อง MLHJA1404H5441417 ส่วนอีกคนชื่อ นายสมเกียรติ ปานมน อายุ 44 ปี อุณหภูมิร่างกาย 36.6 องศา บ้านเลขที่ 136 ม.15 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 110I สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 1กฒ 1465 ชลบุรี ถูกควบคุมตัวไปยังที่ทำการกองร้อย ทพ.1203 ร่วมกับ มว.ปชด.ที่ 1 ร้อย.ปชด.ที่ 1 (พล.ร.11)

จากการสอบสวน นายอัมพร แก้วพลงาม และ นายสมเกียรติ ปานมน ให้การว่า เมื่อวันที่ 7 ม.ค.65 เวลาประมาณ 15.30 ได้รับการว่าจ้างจาก นายศักดิ์สิทธิ์ บุญศิริ ชื่อเล่นว่า ดำ ชาวไทย เพศชาย อายุประมาณ 45 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านทัพเซียม ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว โดยการพบปะพูดคุย ซึ่งนายศักดิ์สิทธิ์ เดินทางมาหาที่บ้านพักอาศัย ว่าให้ไปรับชาวไทย เพศหญิง จำนวน 3 คน เพื่อไปส่งที่บริเวณถนนศรีเพ็ญ บ้านทัพสยาม ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว โดยจะได้รับค่าจ้างจำนวน 200 บาทต่อคน ปัจจุบันไม่มีงานทำ จึงได้ตกลง ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ไปยังจุดนัดหมายบริเวณลานมัน บ.ทัพเซียม ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เมื่อไปถึงได้พบชาวไทยเพศหญิง จำนวน 3 คน พร้อมสัมภาระ ยืนรออยู่ จึงได้ให้ชาวไทยทั้ง 3 คน ขึ้นซ้อนรถ จยย.และขับขี่รถ จยย.ตามเส้นทางถนนทางการเกษตร เพื่อไปส่งที่บริเวณถนนศรีเพ็ญ บ้านทัพสยาม ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่พบและถูกจับกุม โดยเคยรับจ้างรับ-ส่งชาวไทยและชาวกัมพูชาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5

ส่วนผู้ถูกจับกุมชาวไทยอีก 3 คน ที่จะเดินทางไปยังประเทศกัมพูชา ประกอบด้วย นางสาวปัทมา ชำนาญรัมย์ อายุ 17 ปี อุณหภูมิร่างกาย 36.7 องศา บ้านเลขที่ 33 ม.6 ต.โคคลาน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ,นางสาวเบญจพร ปุนนะวัน อายุ 18 ปี อุณหภูมิร่างกาย 36.7 องศา บ้านเลขที่ 32 ม.6 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และนางสาว วราภรณ์ คนสูงเนิน อายุ 26 ปี อุณหภูมิร่างกาย 36.7 องศา บ้านเลขที่ 33 ม.8 ต.ถนนหัก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โดยทั้ง 3 คนให้การว่า น.ส.ปัทมา  เคยทำงานออนไลน์อยู่ที่บริษัทห้าไห่แคท ใน กรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา เมื่อประมาณต้นปี 2564 ลักลอบไปยังประเทศกัมพูชาทางช่องทางธรรมชาติ ไม่ทราบพื้นที่ที่แน่นอน ทำงานได้ประมาณ 5 เดือน จึงได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 และต่ออายุหนังสือเดินทาง ต่อมาเมื่อช่วงเดือน ธ.ค.64 ได้รับการชักชวนจากแฟนชาวจีนชื่อนายเค่อ เล่อ ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ อ.กรุงพระสีหนุ จ.พระสีหนุ ประเทศกัมพูชา ทางเมสเซ็นเจอร์เฟซบุ๊กชื่อว่า Jerry li ว่าให้เข้าไปเที่ยวหา น.ส.ปัทมา จึงได้สอบถามวิธีการเดินทางไปยังประเทศกัมพูชาจากเพื่อนชื่อ น.ส.ปรางทิพย์ เพ็งสกุล อายุ 17 ปี ทางเมสเซ็นเจอร์เฟซบุ๊กชื่อว่า กำนันปราง ซึ่งปัจจุบันทำงานออนไลน์อยู่ในประเทศกัมพูชา โดย น.ส.ปรางทิพย์ ได้ให้ติดต่อไปยังเฟซบุ๊กผู้นำพาชาวไทยชื่อว่า ศักดิ์สิทธิ์ บุญศิริ

ต่อมา น.ส.ปัทมา จึงได้ทำการติดต่อนายศักดิ์สิทธิ์ ทางเมสเซ็นเจอร์เฟซบุ๊ก เพื่อนัดหมายวันเดินทาง โดยตกลงค่าเดินทาง จำนวน 4,500 บาท/คน และได้ทำการชักชวนเพื่อนชาวไทยคือ นางสาวเบญจพร และนางสาววราภรณ์  เพื่อให้เดินทางไปเที่ยวด้วยกัน ต่อมา เมื่อวันที่ 7 ม.ค.65 เวลาประมาณ 14.00 น.ส.ปัทมา  พร้อมเพื่อนชาวไทยจำนวน 2 คน ได้เดินทางออกจากหมู่บ้านโคคลานที่พักอาศัย โดยขออาศัยรถของคนในหมู่บ้านที่ไปทำไร่อยู่ที่ บ.ทัพเซียม มาถึงที่บริเวณลานมัน บ.ทัพเซียม ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เมื่อเวลาประมาณ 15.30 จนได้พบกับนายศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนายศักดิ์สิทธิ์ได้เรียกเก็บเงินค่าเดินทางจำนวน 4,500 บาท/คน และได้มีผู้นำพาชาวไทยขับขี่รถ จยย.จำนวน 2 คันมารับ และขึ้นซ้อนรถ จยย.และขับขี่รถ จยย.ตามเส้นทางถนนทางการเกษตร ไปที่บริเวณถนนศรีเพ็ญ บ้านทัพสยาม จากนั้นได้เดินเท้าเพื่อจะเดินไปหาผู้นำพาชาวกัมพูชาที่รอรับต่อ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่พบและถูกจับกุม ซึ่งนางสาวปัทมา  เคยเข้า-ออกไทยเป็นครั้งที่ 3 ทางช่องทางธรรมชาติ ส่วนนางสาวเบญจพร และนางสาววราภรณ์  เคยเข้า-ออกไทยเป็นครั้งแรก หลังสอบสวนเสร็จ เจ้าหน้าที่กองร้อย ทพ.1203 จึงได้นำตัวชาวไทย จำนวน 3 คน พร้อมผู้นำพาชาวไทยจำนวน 2 คน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ตาพระยา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

—————————

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"