X

ตรวจเชิงรุกพบชาวกัมพูชาติดเชื้ออีก 24 ราย ในคลัสเตอร์ตลาดโรงเกลือรวม 73 ราย บุคคลากร รพ.ติดเชื้อเพิ่ม

สระแก้ว – พบผู้ป่วยยืนยัน 103 ราย เสียชีวิตอีก 1 ราย ชาย 73 ปีเดินทางมาจาก กทม.พร้อมครอบครัวติดเชื้อทั้ง 7 คน เพื่อกลับมารักษาที่บ้าน พบป่วยเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) มาก่อน ในขณะที่ออกตรวจเชิงรุกพบชาวกัมพูชาติดเชื้ออีก 24 ราย

นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ 23 ก.ค.64 มีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 101 ราย แยกเป็นติดเชื้อในจังหวัด 55 ราย นอกจังหวัด 46 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 2 ราย รวมทั้งสิ้น 103 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล การตรวจเชิงรุกในชุมชน และมาตรการเฝ้าระวังในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใน LQ ,กลุ่มคนไทยขอข้ามแดนและกลุ่มคนสระแก้วที่กลับมารักษาที่บ้าน ผู้ติดเชื้อในจังหวัด 101 รายที่อำเภออรัญประเทศ 31 ราย อำเภอเมืองสระแก้ว 14 ราย อำเภอวัฒนานคร 6 ราย อำเภอเขาฉกรรจ์ 3 ราย และอำเภอคลองหาด 1 ราย

โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย (รายที่ 15 ของจังหวัดสระแก้ว) เพศชาย อายุ 73 ปี อาชีพรับจ้าง ที่อยู่ขณะป่วย เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ภูมิลำเนา อำเภอโคกสูง โรคประจำตัว โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ทำให้การระบาดระลอกเมษายน (ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนถึง 22 กรกฎาคม 2564) จังหวัดสระแก้วมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,480 ราย แยกเป็นติดเชื้อในจังหวัดและติดเชื้อจากจังหวัดอื่น 1,575 ราย เรือนจำ 4 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 905 ราย กำลังรักษาตัว 812 ราย รักษาหายแล้ว 1,847 ราย เสียชีวิตสะสม 15 ราย

สำหรับข้อมูลผู้ป่วยสูงสุดที่อำเภออรัญประเทศ 31 ราย ยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมจากคลัสเตอร์ตลาดโรงเกลือ หลังจากออกหน่วยตรวจเชื้อเชิงรุกที่บริษัท สยามขแมร์ ขนส่ง จำกัด มีพนักงานและชาวกัมพูชาบริเวณใกล้เคียงมาตรวจ 254 ราย พบเชื้อ 24 รายเป็นชาวกัมพูชาทั้งหมด ได้แก่ โกดังดาราพร 13 ราย สยามขะแมร์ 10 ราย และตลาดสดสายันต์ 1 ราย รวมคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อไป 73 รายและคลัสเตอร์สยามขแมร์ 17 ราย

นอกจากนี้ ยังพบชาวกัมพูชาอยู่ตลาดเดชไทย เตรียมคลอดแพทย์จึงให้ตรวจหาเชื้อโควิดก่อนทำหัตถการ มีสามีร่วมตรวจด้วยผลพบเชื้อทั้งคู่ แล้วยังพบพนักงานแผนกอาหารสด เบทาโกร ห้างบิ๊กซี สาขาตลาดโรงเกลือ มีอาการป่วยจึงไปตรวจ ARI CLINIC ผลพบเชื้อ อีกกรณีพบภรรยาชาวกัมพูชาติดเชื้อร่วมบ้านจากสามีที่ป่วยเป็นโรคไต ระยะ 5 ซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยันรายเมื่อวาน

นพ.ประภาส กล่าวอีกว่า ขณะนี้พบบุคลากรสาธารณสุขโรงพยาบาลอรัญประเทศ ติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย รายแรกเป็นพยาบาลแผนกผู้ป่วยนอก ทำงานคลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ (ARI CLINIC) ติดเชื้อในขณะปฏิบัติงาน รวมทั้งอาจติดเชื้อจากเพื่อนพยาบาลด้วยกันที่เป็นผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า อีกรายเป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้ชาย 59 ปี ทำงานอยู่หอผู้ป่วยโควิด จึงอาจติดเชื้อขณะปฏิบัติหน้าที่ รายสุดท้ายเป็นพนักงานบริการชาย 45 ปี ร่วมออกหน่วยตรวจเชิงรุกในอรัญประเทศ มีหน้าที่จัดเตรียมของและเก็บขยะติดเชื้อ คาดว่าอาจสัมผัสเชื้อขณะทำงานมา อำเภอคลองหาด พบหญิง 52 ปี เป็นแม่ครัวอยู่โรงพยาบาลคลองหาด ทำอาหารให้เจ้าหน้าที่และผู้ป่วยในโรงพยาบาลแล้วยังส่งอาหารตามตึกผู้ป่วย คาดว่าน่าจะติดเชื้อจากพื้นที่เสี่ยงอำเภอคลองหาดมา ซึ่งทางโรงพยาบาลฯ ได้ดำเนินการตรวจคัดกรองบุคลากรและคนไข้ทุกคนไปแล้ว

อำเภอเมืองสระแก้ว มีหลายเหตุการณ์ กรณีแรกพบว่าคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้ว และพนักงานขับรถ 6 ราย ไปตรวจงานที่โครงการชลประทานสระแก้วและคลองส่งน้ำบ้านโคกกราด อำเภอตาพระยา โดยนั่งรถตู้คันเดียวกัน เสร็จงานมีกรรมการคนหนึ่งมีอาการป่วย จึงใช้ชุดทดสอบแอนติเจน Antigen Test Kit (ATK) ตรวจผลติดเชื้อโควิด จึงแจ้งคนอื่นไปตรวจ ผลพบเชื้อทั้งหมด ในขณะที่ห้างบิ๊กซี สาขาสระแก้วหลังจากเมื่อวานพบพนักงานฝ่ายบุคคลติดเชื้อไป 1 ราย วันนี้พบแฟนพนักงานเป็นชาย 38 ปีและผู้จัดการบิ๊กซี ชาย 42 ปีติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 2 ราย แล้วยังพบแคชเชียร์ร้าน น.วัฒนาภัณฑ์ ตลาดตระกูลสุข เป็นหญิง 21 ปี ติดเชื้อจากพื้นที่เสี่ยงตลาดสระแก้วคาดว่าอาจมาจากลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้าน จากการสอบสวนโรคเพิ่มเติมทราบว่าแคชเชียร์คนดังกล่าวมีประวัติพาลูกไปคลินิก หู คอ จมูก โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงจากการเกิดโรคในช่วงเวลาที่ผ่านมาด้วย

ทั้งนี้ ยังพบกรณีติดเชื้อจากแม่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดนนทบุรีแล้วป่วยก่อนที่จะนำเชื้อมาแพร่ไปยังลูก 3 คนรวมทั้งน้องเขย อีกกรณีเป็นพนักงาน (แอดมิน) ร้านคอฟฟี่ฮิลล์ สาขาแยกสระแก้ว ป่วยเป็นโรคกระดูกทับเส้น มีประวัติไปพบแพทย์คลินิกต่างๆในตัวเมือง ต่อมาแพทย์นัดทำ MRI จึงไปตรวจพบเชื้อก่อนทำหัตถการ ส่วนที่ห้องผ่าตัด โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้วพบบุคลากรเป็นพยาบาลและผู้ช่วยเหลือคนไข้ติดเชื้อจากการสัมผัสกับพนักงานช่วยเหลือคนไข้ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพยาบาลวิสัญญีเพิ่มอีก 2 ราย แล้วยังพบหญิง 41 ปีที่มาเฝ้าพ่อตึกอายุรกรรมตรวจพบเชื้ออีกราย

อำเภอวัฒนานคร พบเพื่อนบ้านติดเชื้อ 4 รายหลังจากพ่อ 42 ปีไปกินข้าวกับผู้ที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดสมุทรปราการ (ต่อมาเป็นผู้ป่วยยืนยัน) นำเชื้อมาแพร่สู่ภรรยาและลูก อีกรายเป็นชาย 70 ปี เป็นลุงเจ้าของร้านกระจกเป็นผู้ป่วยยืนยันรายเมื่อวาน มีประวัติหลานมาพิมพ์เอกสารบ้าน นอกจากนี้จากการสอบสวนโรคเพิ่มเติมยังพบว่าเขายังเป็นคณะกรรมการรับเรื่องร้องเรียนของจังหวัดมีประวัติสัมผัส พูดคุย และเคยเดินทางร่วมกับคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดที่ตรวจพบเชื้อด้วย

กรณีสุดท้าย พบติดเชื้อร่วมบ้านจากลูกที่ไปเฝ้าแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็ง นอนรักษาตัวอยู่ตึกสงฆ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ก่อนที่จะนำเชื้อมาติดพ่ออีกราย ส่วนอำเภอเขาฉกรรจ์ พบการติดเชื้อจากผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงนำเชื้อมาติดคนในครอบครัว ทั้งกรณีพ่อกลับจากทำงานแหลมฉบังแล้วนำเชื้อกลับมาแพร่สู่ภรรยาและลูก อีกรายสามีกลับมาจากตลาดสี่มุมเมืองแล้วนำเชื้อมาติดภรรยา

อย่างไรก็ตาม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวอีกว่า สำหรับข้อมูลของผู้เสียชีวิตรายที่ 15 ของจังหวัดสระแก้ววันนี้เพศชาย อายุ 73 ปี อาชีพรับจ้าง ที่อยู่ขณะป่วย เขตบางขุนเทียน ภูมิลำเนา หมู่ 11 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ผู้เสียชีวิตเดินทางมาจากกรุงเทพฯ พร้อมครอบครัวที่ติดเชื้อรวม 7 คน เมื่อ 17 กรกฎาคม 64 โดยไม่ได้ติดต่อเตียงมาก่อน ต่อมารับเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว แล้วตรวจพบเชื้อ COVID-19 ผลเอ็กซเรย์ปอดพบเป็นฝ้าขาวทั้งสองข้าง ตรวจเลือดพบไตวายเฉียบพลัน การอักเสบเพิ่มขึ้น ได้รับการใส่ท่อช่วยหายใจ จนกระทั่งผู้ป่วยเสียชีวิตเมื่อ 22 กรกฎาคม 2564 ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ซึ่งทีมแพทย์ได้วินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิตมาจากปอดอักเสบซึ่งเป็นผลมาจากการติดเชื้อ COVID-19 ประกอบกับผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวคือ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)

————————-

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"