X

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานปีใหม่ให้กับทหารตามแนวชายแดน จ.สระแก้ว

สระแก้ว – พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ฯ มอบสิ่งของพระราชทานเนื่องในวันปีใหม่ ให้กับทหารกองกำลังชายแดนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อ.อรัญประเทศ และ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว

เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 21 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อมอบสิ่งของพระราชทานฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ให้กับเจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำกองกำลังชายแดนในพื้นที่กองร้อยทหารพรานที่ 1205 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมี พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1, นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ,พ.อ.เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ รอง ผบ.กองกำลังบูรพา และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมถวายความเคารพที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เปิดกรวย กล่าวต้อนรับและกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยองคมนตรี ได้กล่าวอัญเชิญกระแสพระราชดำรัสความห่วงใยจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กับเจ้าหน้าที่ทหารประจำกองกำลังชายแดน องคมนตรียืนด้านหน้าถุงพระราชทาน บริเวณด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าหน่วยงานรับถุงพระราชทานเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ จากนั้น องคมนตรี ผู้บังคับบัญชาและหัวหน้าส่วนราชการ ได้เข้าประจำที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อมอบถุงยังชีพให้กำลังพล จำนวน 150 ชุด เสร็จแล้ว องคมนตรีได้เดินพบปะพูดคุยกับกำลังพล ก่อนเดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทาน ที่หน่วยเฉพาะกิจคลองหาด ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 อ.คลองหาด ช่วงเวลา 08.30 น. อีกจำนวน 250 ชุด

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมฯให้ตนและคณะ สำนักงานพระราชวัง สำนักองคมนตรี และกองบัญชาการถวายความปลอดภัยฯ อัญเชิญสิ่งของพระราชทานเนื่องในโอกาสปีใหม่ มาเยี่ยมเยียนกองกำลังชายแดนเป็นไปอย่างทุกปี โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงมีความห่วงใย คอยติดตามและช่วยเหลือกองกำลังชายแดน ทรงขอบพระทัย ทรงพระราชทานกำลังใจกับพวกเรา ชื่นชมในการทำงานที่ทุกท่านได้ดูแลอย่างเข้มแข็งทำตามหน้าที่ได้อย่างดี คอยติดตามถวายรายงานการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังชายแดนทุก ๆ สัปดาห์ ตลอดจนทรงพระราชทานความขอบคุณ พระราชทานกำลังใจมาถึงครอบครัวพี่น้องกำลังพลที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ด้วย เพราะว่ากำลังใจเหล่านั้น จะต้องมีสมาชิกครอบครัว เสียสละการดูแลครอบครัวมาดูแลส่วนรวมให้กับประเทศชาติบ้านเมือง

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ทรงรับสั่งว่า คนทำงานจะต้องมีวินัย มีความสามัคคี มีความเสียสละและมีความเป็นจิตอาสา ซึ่งสิ่งของพระราชทานในแต่ละปีนั้นคงไม่สามารถที่จะพระราชทานให้กับทุก ๆ คน แต่ก็เป็นสิ่งพึงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของทุก ๆ คน ซึ่งพวกเราก็จะเป็นตัวแทนของพี่น้องกำลังพลที่ทำงานกองกำลังชายแดน พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ข้าราชการในพื้นที่ สำหรับกระแสพระราชดำรัสในวันปีใหม่นี้ จะได้พระราชทานในวันที่ 31 ของทุก ๆ ปี โดยได้พระราชทานขอให้ทุกคนนั้นมีสุขภาพอนามัย สติปัญญาที่ดี ขอให้ทุกคนนั้นปฏิบัติประพฤติการกระทำในสิ่งที่ดี ขอให้ทุกคนนั้นกระทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม สำหรับการปฏิบัติงานนั้น ทรงมีรับสั่งว่า การทำงานสิ่งใดนั้นก็ย่อมมีข้อบกพร่อง แต่หากจะนำข้อบกพร่องนั้นมาปรับปรุงแก้ไข ก็จะเป็นประสบการณ์และเป็นความรู้ ซึ่งประสบการณ์และความรู้นั้น ก็จะเกิดประโยชน์กับตนเองและส่วนรวม นำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติบ้านเมืองได้ นั่นคือ สิ่งพระราชทานในปีใหม่ของทุกปีและปีที่ผ่านมานี้

“ดังนั้นผู้มีหน้าที่ก็ดำเนินการได้ดีอยู่แล้ว ขณะนี้มีความพยายามที่จะล้มล้างสถาบันหลักของชาติ ซึ่งบ้านเมืองเรามีชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เราก็คงได้รับทราบถึงการก้าวล่วงสถาบันเป็นวงกว้าง ซึ่งเราต้องใช้สติปัญญา ใช้ความรอบรู้อย่างที่รับสั่งมาแล้ว แก้ไขปัญหา ทำความเข้าใจ สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นจุดศูนย์รวม แล้วยังสนับสนุนให้ช่วยเหลือพสกนิกรมาตลอดเวลา นี่คือความสำคัญที่แตกต่างจากประเทศต่าง ๆ ที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ เราอยู่กัน เราเรียนรู้และรักแผ่นดิน เป็น 3 เสาหลักของบ้านของเมืองมาจนถึงทุกวันนี้ ” องค์มนตรีกล่าว

———————————

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"