X

แห่ช่วยครอบครัวน้องแมนยู 4 ขวบ ถูกไฟไหม้และยากไร้

ปราจีนบุรี – คนแห่แบ่งปันช่วยเหลือครอบครัวน้องแมนยู วัย 4 ขวบ ถูกไฟไหม้ มีลูก 4 คน แม่ตกงานซ้ำช่วงโควิด-19

เมื่อเวลา 18.50 น.วันที่ 16 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กและเพจชื่อ นายวสันต์ วณิชชากร หรือ ช่างภาพบ้านนอก ได้โพสต์ภาพเด็กชายวัย 5 ขวบ มารับของกิน-ของเล่นและข้อความ ระบุว่า “ผมแอบมองน้องคนนี้มาหลายวันแล้ว น้องและแม่เพิ่งจะรู้ข่าวว่าที่นี่มีตู้ปันสุขเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว น้องชื่อแมนยู จะสังเกตเห็นว่าที่ตามตัวน้องเค้ามีรอยไฟไหม้ คุณแม่น้องเล่าว่า เมื่อตอนประมาณหนึ่งขวบ ไฟไหม้บ้าน น้องแมนยูนอนอยู่กับตาที่เป็นอัมพาต ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้น คุณตาเสียชีวิต แต่น้องแมนยูถูกเพื่อนบ้านช่วยออกมาได้ แต่ต้องนอนโรงพยาบาลกว่าสามเดือน โดยใช้เครื่องช่วยหายใจเพราะน้องดมควันและปอดถูกทำลายไปมาก สุดท้ายเหมือนมีปาฏิหาริย์ ในวันที่ทุกคนตัดสินใจว่า จะเอาเครื่องออกซิเจนออกเพื่อให้น้องไปสบาย น้องแมนยูหายใจขึ้นมาเองหลังจากเอาเครื่องออกซิเจนออกได้ไม่นาน แต่บาดแผลจากไฟไหม้ลึกผิวหนัง ตามร่างกายหลายแห่ง ยังคงต้องรักษาจนถึงปัจจุบัน

“แม่น้องซึ่งอนุญาตให้เรานำเรื่องและรูปออกมาเปิดเผย ซึ่งบอกว่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ตั้งแต่โควิดมาก็ไม่มีงานทำ ตัวเองมีลูก 4 คน น้องแมนยูเป็นคนสุดท้อง สามีเลิกรากันไปนานแล้ว สงสารลูกเวลาหิว พอรู้ข่าวว่า ที่นี้มีตู้ปันสุขก็เลยมาที่ตู้นี้ทุกวันและยังไม่รู้ข่าวว่า ตู้เราจะปิดแล้ว …ผมเห็นครอบครัวนี้หลายครั้ง การมายืนเข้าคิวรอรับของในแต่ละครั้งไม่เคยละเมิดกฎและปฏิบัติตัวดีน่ารัก แม้จะมากันหลายคน พี่สาวพี่ชายก็คอยดูแลน้องแมนยูอย่างดี น้องเดินไม่ถนัดก็ช่วยอุ้มน้อง …น้องแมนยูจะเป็นที่รักของน้อง ๆ ในทีมปันสุข น้องจะได้ขนม ของกินของเล่นกลับไปทุกครั้ง จากสีหน้ารอยยิ้มที่ไม่มีเลยในวันแรก ๆ ที่พวกเราเจอ จนเราแอบอยากรู้เรื่องราวของน้องเขา”

คุณแม่ บอกว่า ถ้าหมดโควิดนี้น้องแมนยูจะได้เข้าเรียนอนุบาลที่ประจันตคาม วันนี้เราได้เห็นรอยยิ้มและความร่าเริงนั้นบ้างแล้ว ที่หน้าตู้ปันสุข และเรายังอยากให้น้องแมนยูมีรอยยิ้มแบบนี้นาน ๆ ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวหนึ่งที่เราแอบจดประวัติไว้ เพื่อเยียวยาต่อไปหลังจากตู้ใบนี้ปิดตัวลง สำหรับเงินที่เหลือหลังจากการปิดตู้จะมีการนำมาดูแลเคสที่พวกเราเห็นว่า ควรเยียวยาต่อไป เรากำลังทำการเก็บข้อมูลในทุก ๆ วัน โดยจะเน้นเคสผู้สูงอายุที่ขาดผู้ดูแล เคสเด็กน้อย ๆ ที่พ่อแม่ยังตกงาน และเคสที่มองเห็นแล้วว่าลำบากจริง ๆ เราจะเยียวยาไปจนกว่าพวกเขาจะดีขึ้น หรือเงินเราที่มีจะหมดลงไป บางเคสมีผู้รับอาสาดูแลต่อจากพวกเราก็มีบ้างแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังหน้าร้านวิวพ้อยเอ๊กซ์เพรส ริมถนนศิวะบูลย์ ในตลาดประจันตคาม เทศบาลตำบลประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี พบกับ นายวสันต์ วณิชชากร อายุ 49 ปี พร้อมครอบครัว กำลังเตรียมแจกจ่าย-แบ่งปัน อาหาร ,ผลไม้, ข้าวสาร ,ของใช้ ให้กับประชาชนกว่า 50 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ตู้ปันสุข ที่ตั้งไว้หน้าบ้าน โดยมีผู้ใจบุญนำอาหารกล่องมาร่วมอีกหลายราย

พร้อมกันนี้ ได้พบกับ นางสาวเกษ กิจจาวงศ์ อายุ 27 ปี ชาวบ้านเกาะพันซา เลขที่ 6 หมู่ 6 ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี พร้อมลูกอีก 3 คน คือ ด.ช.กวีพัฒ กิจจาวงษ์ อายุ 11 ปี, ด.ญ.ศิริลักษณ์ กิจจาวงษ์ อายุ 10 ปี และด.ช.พิเชษฐ์ หรือน้องแมนยู สิงหนาม อายุ 4 ปี โดยขับมอเตอร์ไซค์สภาพเก่าสีแดงซ้อนกันมาทั้งหมด 4 คน

นายวสันต์ กล่าวว่า จากภาวะโรคโควิด-19 ตนเองพร้อมครอบครัวได้ตั้งตู้ปันสุข หน้าร้านถ่ายรูปตนเอง ตลาดสดประจันตคามหน้าบ้าน แบ่งปันให้ชาวบ้านที่เดือดร้อน ก็มีคนเอาอาหารมาใส่ตู้ปันสุข มีขนมจีน น้ำยา มีขนมกรอบ มีไข่ไก่ ของเล่น ตุ๊กตา มาม่า ข้าวสาร ข้าวกล่องไข่เจียว มาแจกจ่ายมาได้นานกว่า 1 เดือนแล้ว ทุก ๆ วัน ตอนเช้าเริ่ม 09.00 น. ตอนเย็น 17.00 น ทั้งนี้ เน้นก่อนรับแบ่งปันจะให้บริการเจลล้างมือและเว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัย โดยวันนี้หลังเผยแพร่เรื่องราวของน้องแมนยู หรือ ด.ช.พิเชษฐ์ สิงหนาม อายุ 4 ปี นร.อยู่อนุบาล 3 ถูกไฟไหม้ เป็นแผลเป็นบริเวณแขน ขาและใบหน้า ซึ่งปู่ได้เข้าไปช่วยออกจากกองเพลิงและปู่เสียชีวิต ครอบครัวยากจน หลังจากลง Facebook Live แล้วมีผู้มาบริจาค 5,900 บาท เพื่อมอบต่อให้น้องแมนยู

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากนั้นได้ติดตามไปที่บ้านพักของน้องแมนยู เป็นบ้านเทพื้นปูนชั้นเดียว ปลูกติดดิน ไม่มีประตูหน้าต่าง ใช้สังกะสีตีล้อม หลังคาผุพัง ขณะที่ นางสาวเกษ กิจจาวงศ์ อายุ 27 ปี พร้อมมารดา กล่าวว่า ครอบครัวตนเองยากจน ก่อนหน้ามีสามีอยู่ จ.สระแก้ว ปลูกกระท่อม ภายหลังหย่าร้างกับสามี จึงมาอยู่กับแม่ที่บ้านเกาะพันซา น้องแมนยูอยู่กับพ่อและปู่ที่ จ.สระแก้ว ในวันเกิดเหตุเพลิงไหม้กระท่อมที่ต่อสายไฟฟ้าพ่วงบ้านคนอื่นไฟลุกไหม้ มีเพียงน้องแมนยูกับปู่ทีเป็นอัมพาต ปู่แม้เป็นอัมพาตได้พยายามช่วยน้องแมนยูออกมาจากกองไฟจนตนเองเสียชีวิต และน้องแมนยูบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

นางสาวเกษเล่าว่า หลังเกิดเหตุตนได้นำลูกๆ มาอยู่ที่บ้านเกาะพันซา แต่ฐานะยากจน ซ้ำร้ายที่อยู่ยังติดจำนอง แม่ต้องทำงานรับจ้างเพื่อผ่อนใช้หนี้วันละ 100 บาท ส่วนตนเองตกงานในภาวะโควิด-19 จึงต้องไปรับอาหาร ขนม พร้อมลูก ๆ ทั้ง 4 คน ที่ตู้ปันสุขหน้าร้านวิวพ้อยเอ๊กซ์เพรสทุกวัน จนมีการแชร์เรื่องราวดังกล่าว ขอขอบคุณผู้ที่เมตตาแบ่งปันหยิบยื่นให้ความช่วยเหลือให้คลายทุกข์

ทางด้าน นายพิษณุ เจริญศิลป์ อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านเกาะพันซา กล่าวว่า สำหรับครอบครัวนางสาวเกษ กิจจาวงศ์ อายุ 27 ปี เพิ่งมาอยู่ในหมู่บ้านโดยมาปลูกบ้านข้าง นางสุพรรณ กิจจาวงศ์ อายุ 59 ปี มารดา น.ส.เกษ มีบุตรหลายคน ฐานะยากจน ทางท้องถิ่นได้สร้างบ้านเอื้ออาทรให้มารดา แต่ยังไม่แล้วเสร็จ สำหรับประชาชนที่ต้องการช่วยเหลือน้องแมนยู สามารถติดต่อหรือสอบถามที่ตนเอง ได้ที่เบอร์โทร 061-529 9047

—————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์, ลักขณา สีนายกอง

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"