ปราจีนบุรี – รถจักรยานยนต์ หนุ่มวัย 15 ปี ชนประสานงากับรถจักรยานยนต์คนงานชาวกัมพูชาอย่างจัง เสียชีวิตทั้งคู่
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สุมิตร อัครเนตร ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งจากศูนย์กู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี ว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนประสานงากัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต บริเวณบ้านย่านยาว ใกล้เคียงวัดคลองหัวกรด ถนน ปจ.3017 คลองหัวกรด-บ้านสร้าง หมู่ 5 ตำบลบางเดชะ อำเภอเมืองปราจีนบุรี จึงได้ประสานแพทย์เวรจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อร่วมชันสูตร ก่อนที่จะเดินทางไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบว่า ที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนนพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 100 สีเทา หมายเลขทะเบียน 1กง-5753 ปราจีนบุรี ลักษณะล้มอยู่กลางถนน บริเวณด้านหน้ารถพังเสียหายยับเยิน ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายและเป็นผู้ขับขี่ ทราบชื่อ นายโซ เซาเหมอะ อายุ 30 ปี ชาวกัมพูชา มีบาดแผลบริเวณศีรษะยุบ ขาซ้ายมีแผลฉกรรจ์ เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร บริเวณข้างทาง พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สปาร์ค สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน กพร 667 ปราจีนบุรี ลักษณะด้านหน้ารถพังเสียหายเช่นเดียวกัน ห่างไป 5 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ขับขี่อีก 1 ราย ทราบชื่อ นายนพคุณ ไผ่จันทร์ อายุ 15 ปี บ้านเลขที่ 38 หมู่ 5 ตำบลบางเดชะ อำเภอเมืองปราจีนบุรี เสียชีวิตลักษณะเดียวกันคือ ที่บริเวณใบหน้าและศีรษะยุบจนกะโหลกแตก ขาซ้ายหักจนกระดูกโผล่ออกมา นอนเสียชีวิตอยู่ข้างทาง
จากการสอบถามนายจ้างของผู้เสียชีวิตชาวกัมพูชา ทราบว่า ผู้ตายเป็นคนงานเฝ้าบ่อปลา และได้รับแจ้งจากภรรยาของผู้ตายว่า ผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุออกมาซื้อน้ำแข็ง บริเวณร้านค้าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก ในระหว่างที่ซื้อของเสร็จก็ได้ขับรถกลับที่พักทันที ก่อนที่จะมาประสบอุบัติเหตุในบริเวณดังกล่าว
นายดำรง ไผ่จันทร์ พ่อของนายนพคุณ กล่าวว่า ลูกชายของตนเป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี ในช่วงก่อนเกิดเหตุได้บอกว่า จะขี่รถจักรยานยนต์ออกไปซื้อบัตรเติมเงินโทรศัพท์ แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุกล่าวว่า ในช่วงที่เกิดเหตุนั้นได้มีฝนตกลงมาช่วงหนึ่ง และได้ยินเสียงรถชนกันอย่างจังเสียงดังสนั่นไปทั่ว จึงออกมาดูก็พบว่า มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ไปชันสูตรโดยละเอียดที่โรงพยาบาลฯ และจะทำการสอบสวนถึงสาเหตุอย่างละเอียดต่อไป
————————–
ข่าว-ภาพโดย/สายชล หนูแดง
