X

จับแล้ว!! โจรโควิดฯ​ ใช้ปืนปลอมจี้ชิงทองคนแก่และร้านค้าใน จ.สระแก้ว

สระแก้ว – ตำรวจสามารถจับกุมได้แล้ว ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนปลอมจี้ชิงทองผู้สูงอายุและร้านขายของชำในพื้นที่ ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว โดยผู้เสียหายยืนยันชัด รถจักรยานยนต์และเสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่และใช้ก่อเหตุ ตรงกับที่เจ้าหน้าที่นำมาให้ดู อยากให้จับกุมให้ได้ หลังชาวบ้านเริ่มหวาดผวาหนัก

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 13 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์จี้ชิงแหวนทองคำหนัก 1 สลึง มูลค่ากว่า 5,000 บาท จากนางยิ้ม เปรมสุข อายุ 73 ปี ขณะนอนพักผ่อนภายในพื้นที่บ้านโนนสมบูรณ์ ม.8 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านั้นเพียง 2 วัน ได้ก่อเหตุลักษณะเดียวกัน โดยใช้อาวุธปืนเข้าจี้ชิงทรัพย์ร้านค้าของชำฝั่งตรงข้ามบริเวณใกล้เคียงกัน ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด เหล้าและบุหรี่ รวมมูลค่าเกือบ 5,000 บาทนั้น ภายหลังกรณีนี้ตกเป็นข่าว พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับ สภ.วังน้ำเย็น เร่งคลี่คลายคดีนี้อย่างเร่งด่วน ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่แกะรอยจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านวัสดุก่อสร้าง ส.สุริยันต์ฯ และกล้องวงจรปิดบริเวณจุดกลับรถหน้า อบต.คลองหินปูน พบข้อมูลรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินและเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ขายาว เข่าขาดทั้งสองข้างที่คนร้ายสวมใส่ขณะก่อเหตุ จึงขยายผลทำการตรวจสอบจนพบรายชื่อผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ซอยวัดเขาป่าแก้ว อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วและ สภ.วังน้ำเย็น ได้เข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยจนสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน นธย-979 กท. เสื้อยืดแขนยาวสีน้ำตาลและกางเกงยีนส์ขายาวเข่าขาด ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ก่อนยึดไว้เป็นหลักฐาน กระทั่งช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมชายต้องสงสัยได้ 1 ราย ข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.วังน้ำเย็น เพื่อขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนให้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีเหตุชิงทรัพย์อย่างอุกอาจทั้งสองรายว่า ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับต่อศาลจังหวัดสระแก้วแล้ว ภายหลังช่วงสายได้นำรถจักรยานยนต์ของกลาง เสื้อผ้าที่ผู้ก่อเหตุสวมใส่และรูปภาพไปให้ผู้เสียหายทั้งสองรายชี้ยืนยัน ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง

ล่าสุด พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ตร.ภ.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ในคดีเสพยาเสพติด ทราบชื่อต่อมาว่า นายธนาวุธ โกนสันเทียะ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 บ้านภูเวียง ม.12 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ได้เปิดปากรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์และอาวุธปืนปลอมเข้าชิงแหวนทองคำ จากคุณยายวัย 73 ปี และจี้ชิงทรัพย์ร้านค้าของชำในพื้นที่ ต.คลองหินปูน จ.สระแก้ว จริง อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ผู้ต้องหารายนี้ มีศักดิ์เป็นพี่ชายของเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ด้วย

นางกนกวรรณ บุญปก หรือ เจ๊นา อายุ 53 ปี ผู้เสียหาย อยู่เลขที่ 52 ม.7 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เจ้าของร้านขายของชำ กล่าวว่า เมื่อช่วงสายวันนี้ ตำรวจนำรถจักรยานยนต์และชุดเสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่ขณะก่อเหตุมาให้ชี้ยืนยัน ซึ่งรถใช่และเสื้อผ้าแขนยาวและกางเกงยีนส์ เป็นชุดเดียวกันกับที่ใส่มาวันนั้นเลย ตอนนี้ตัวเองก็กลัว ชาวบ้านก็กลัว ขวัญเสียกันไปหมดเพราะรู้สึกว่าจะก่อเหตุช่วงนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่จับให้ได้ ไม่งั้นก็จะผวาอยู่แบบนี้ทั้งวันทั้งคืน

ขณะที่ นางยิ้ม เปรมสุข อายุ 73 ปี ผู้เสียหายถูกจี้ชิงแหวนทอง อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.12 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว กล่าวว่า จากการไปดูเสื้อผ้าของคนร้ายที่ตำรวจยึดมา ใช้ชุดคนร้ายที่มาจี้ชิงทองตนเอง ทั้งชุดกางเกงยีนส์ขาด ๆ หัวเข่า 2 ข้างและเสื้อแขนยาว เอาผ้าพันมือ ส่วนรถมอเตอร์ไซด์ที่ตำรวจเอามาที่บ้านและเอาลงไว้หน้าบ้านให้เราออกไปชี้นั้น ซึ่งตนเองจำได้เป็นสีน้ำเงินที่คนร้ายใช้จริง

——————————–
ข่าวโดย/อารียา สำราญ ทีมข่าวสระแก้ว

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"