ปราจีนบุรี – ผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ช้างป่าในพื้นที่เขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา ข้ามฟากบุกสวนมะม่วงถึงพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 5 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.มาย วงโอน อายุ 45 ปี ลูกจ้างบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่เทศบาลตำบลกรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ว่าขณะที่ตนขับรถออกจากสวนเพื่อไปตลาด สังเกตเห็นว่ากิ่งมะม่วงหักลงมากองอยู่กับพื้น 2-3 ต้นข้างทาง ซึ่งมีการหักกิ่งมะม่วงเว้นระยะคล้ายกับคนแอบเข้ามาลักมะม่วง จึงไปตรวจสอบดูพบร่องรอยเท้า, มูลช้างป่าไม่ทราบจำนวนบุกหักกิ่งมะม่วงในสวน 3-5 ต้น และ กัดกินทำลายต้นกล้วยอีกประมาณ 10 ต้น ต่อมา เจ้าหน้าที่สายตรวจได้ประสานขอกำลังจากหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู จำนวน 8 นาย เพื่อเข้าตรวจสอบสวนมะม่วง พบร่องรอยช้างป่าบุกทำลายพืชผลทางการเกษตรเสียหายจำนวนหนึ่งจริง ซึ่งจากการเดินสำรวจในสวนมะม่วง 200 ไร่ และสระน้ำลึกไม่พบตัวช้างแต่อย่างใด พบแต่มูลช้างใหม่ ๆ ไว้ให้ดูต่างหน้า 1 กองเท่านั้นและยังไม่ทราบทิศทางของช้างกลุ่มนี้คาดว่า น่าจะมีประมา 2-3 ตัว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ช่วงฤดูแล้งที่แหล่งน้ำและอาหารในพื้นที่ป่าลดลง ส่งผลให้ช้างป่ากลุ่มนี้คงออกจากฝูงช้างป่าเขาอ่างฤาไนในเขตป่าราบต่ำผืนสุดท้ายรอยในป่าต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ประกอบด้วย จ.ฉะเชิงเทรา, สระแก้ว, ชลบุรี, จันทบุรี, ระยอง ที่เคยแตกฝูงออกมาหากินไกลจาก จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินมาหากินไกลมากกว่า 100 กม. ข้ามมากินพืชไร่ มะม่วง, ขนุน, สัปปะรด, อ้อย , มันสำปะหลัง ในเขตนิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ เหมือนทุก ๆ ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่า ฝูงช้างป่าในปัจจุบันมีจำนวนประชากรช้างมากขึ้น และเป็นช่วงหน้าแล้งอาหารมีไม่เพียงพอจึงเดินทางเข้ามาในพื้นที่ชุมชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยฯ ได้เดินสำรวจในสวนมะม่วงประมาณ 1 ชม.ก็ยังไม่พบตัวคาดว่า ช้างป่ากลุ่มนี้อาจจะเดินทางมุ่งหน้าทางทิศตะวันออกไปทางพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี ในพื้นที่ ต.ลาดตะเคียน ต.ย่านรี ต.เขาไม้แก้ว ที่เป็นเส้นทางผ่านของช้างกลุ่มนี้และเคยออกมาหากินทุกปี โดยช้างป่ากลุ่มนี้ไม่ดุร้าย ไม่เคยทำร้ายใคร ทุกครั้งที่พบเห็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่รับผิดชอบ จะผลักดันกลับคืนถิ่นทุกครั้ง
——————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
