X

7 วันอันตรายวันที่ 5 เตรียมรับมือคนกลับเข้ากรุง ตำรวจกวดขันวินัยจราจรเคร่งครัด

สระแก้ว – ตำรวจสระแก้วขอความร่วมมือผู้ใช้รถฯ รักษาวินัยจราจรห้ามแซง เปิดเส้นทางเอง จุดเสี่ยงที่มีจราจรหนาแน่น หากฝ่าฝืนถูกดำเนินการตามกฎหมาย เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 5 ของการรณรงค์สัญจรปลอดภัยเทศกาลปีใหม่ 2563 คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 จังหวัดสระแก้ว ได้ประชุมเพื่อติดตามและรายงายผลการดำเนินงานของการรณรงค์วันที่ 4 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา โดยมีนายวิทยา มากปาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธาน โดยแจ้งข้อสั่งการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์) ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดใช้ดำเนินการ เช่น การบังคบใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ให้ปรับแผนการตั้งจุดตรวจ ให้นำข้อมูลเสี่ยง จุดที่เกิดเหตุและช่วงเวลามาวิเคราะห์ เพื่อปรับแผนจัดตั้งด่านชุมชน กำหนดสร้างความปลอดภัยด้านกายภาพทางถนนเพิ่มเติม จุดเสี่ยง ทางแยก ทางร่วม ควรมีแนวทางให้ชะลอความเร็ว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุฯ ได้รายงานผลการดำเนินงาน วันที่ 30 ธันวาคม 2562 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 4 ครั้ง บาดเจ็บ 4 ราย ที่อำเอวัฒนานคร อรัญประเทศ โคกสูงและอำเภอวังสมบูรณ์ การเรียกตรวจแอลกอฮอล์ จำนวน 3,315 ราย ยอดสะสม 11,220 ราย ถูกดำเนินคดี 27 ราย ยอดสะสม 109 ราย เรียกตรวจรถโดยสาร จำนวน 206 คัน สะสม 832 คัน พบไม่สมบูรณ์ 2 คัน ให้ดำเนินการแก้ไขเพื่อความปลอดภัยโดยทีมงานของเจ้าหน้าที่และนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว

ทางด้าน สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้แจ้งขอความร่วมมือประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรผ่านจังหวัดสระแก้ว ให้ปฏิบัติตามกฎหมายและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่อำนวยความปลอดภัย กรณีการเดินทางกลับบางเส้นทางที่มีรถหนาแน่น เช่น ช่องตะโก, ช่องตากิ่ว อำเภอตาพระยา ขอให้ขับรถตามช่องทางที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ ห้ามแซงและห้ามเปิดช่องทางเอง ถือว่าผิดวินัยจราจร นอกจากจะทำให้การจราจรติดขัดแล้ว จะมีความผิดตามกฎหมายจราจร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยจะใช้กรวยสัญญาณติดตั้ง เพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจในการกวดขัน มีการปิดทางแยกบางแยก เพื่อระบายรถที่ผ่านจังหวัดสระแก้วทุกเส้นทาง โดยเส้นทางช่องตะโก และช่องตะกิ่ว ได้บูรณาการตำรวจบุรีรัมย์และหน่วยทหารที่ดูแลพื้นที่ อำนวยความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเดินทางกลับและใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระแก้ว เช่นกัน

สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ทางบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ได้มีการจ่ายสินไหมทดแทนให้ กรณีเสียชีวิต 35,000 บาท และบาดเจ็บนอนโรงพยาบาล จ่ายให้กับโรงพยาบาลทันที โดยขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ให้ข้อมูลแก่บริษัทกลางฯ อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับข้อสั่งการแนวทางป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา มีความห่วงใยประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งขณะนี้ได้เดินทางถึงภูมิลำเนาและสถานที่ท่องเที่ยว ขอให้จังหวัดมอบหมายให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดูแลความปลอดภัยของประชาชน โดยให้ใช้มาตรการควบคุมความเสี่ยงจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และไม่ให้ขับขี่ยานพาหนะ หากมีการดื่มฯให้ใช้มาตรการทางกฎหมายควบคู่มาตรการทางสังคม ไม่ใช้ขับขี่ยานพาหนะ และให้ทุกภาคส่วนเชิญชวนจิตอาสาพระราชทานเข้าร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึกและการรับรู้เกี่ยวกับมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้กับประชาชน โดยใช้มาตรการทางสังคมเชิงรุก ได้แก่ ด่านครอบครัวและด่านชุมชน ในการป้องปรามและตักเตือนประชาชน เมาไม่ขับ ไม่ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้สวมหมวกนิรภัยและคาดเข็มคัดนิรภัยขณะขับขี่

อย่างไรก็ตาม นายวิทยา มากปาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกอำเภอ ทุกหน่วยงานให้บูรณาการกวดขัน ควบคุมและป้องปราบ ตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อมิให้เกิดอุบัติเหตุในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยพื้นที่ที่มีการจัดกิจกรรม เช่น อำเภออรัญประเทศ ขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ และในโอกาสสิ้นปีเก่า ขึ้นปีใหม่ ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์อวยพรให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านมีความสุข ความเจริญก้าวหน้าและปลอดภัยตลอดปีใหม่ 2563 และตลอดไป

—————————–

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"