นครพนม – วันที่ 19 มี.ค.61 เวลา 09.30 น. บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม นายนัชษ์ชาญชัย อุดมเทียนทอง สารวัตรกำนันตำบลอาจสามารถ นำคณะผู้ใหญ่บ้านหลายหมู่ใน ต.อาจสามารถ เช่น นายคอย นิตยาคม สารวัตรกำนันอีกคนหนึ่ง นายปรีชา เผือกพันธ์ ผญบ.ม.7 บ้านนาหัวบ่อ น.ส.อรวรรณ นิตยาคม ผญบ.ม.9 บ้านนาสมดี นำหนังสือร้องทุกข์ยื่นไปยัง นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.ฯ นายเอกราช มณีกรรณ์ นายอำเภอเมืองนครพนม ผ่านผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม เพื่อกล่าวโทษข้าราชการระดับสูงในท้องถิ่น ต.อาจสามารถโดย มี นายชินวัต ทองปรีชา ปลัดอาวุโสมารับหนังสือดังกล่าว
นายนัชษ์ชาญชัยฯ เปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐนายหนึ่ง ร่วมกับบุคคลบางคน ได้ก่อความเสียหายและสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน อีกทั้งยังสร้างความเสื่อมเสียต่อวัฒนธรรมอันดีงาม ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กล่าวคือปลายปี 2559 ข้าราชการคนนี้ได้เรียกรับเงินจำนวน 100,000 บาท จากนายประสิทธิ์ ทักษิณ ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.อาจสามารถ อ้างว่าเป็นค่าวิ่งเต้นให้ย้ายลูกชายมาทำงานที่ อบต.อาจสามารถ หลังจ่ายเงินไปแล้วก็ยังไม่ดำเนินการ นายประสิทธิ์จึงไปขอทวงเงินคืน แต่ข้าราชการผู้นี้บอกว่าไม่คืนเพราะไม่มีใบเสร็จ ตนได้รับเรื่องร้องทุกข์จากนายประสิทธิ์จึงไปสอบถามก็ถูกข้าราชการคนนี้ไล่ตะเพิด บอกว่าหากอยากได้เงินให้ไปฟ้องศาลเอา
ต่อมาวันที่ 22 ธ.ค.2560 มีการตั้งเวทีเพื่อเตรียมงาน “ปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพดี ชมวิถีท้องถิ่น” ข้าราชการคนนี้เข้าไปควบคุมงานตั้งแต่เช้า ถึงตอนกลางวันตั้งวงเลี้ยงสุรายาเมาในศาลเจ้าเดนหวังโองมู่ อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชนเผ่าไทแสกเคารพนับถือ แถมยังเปิดเพลงเสียงดังรบกวนผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ตนในฐานะชาวไทแสกเห็นว่าโองมู่นั้นเป็นสิ่งที่ชาวไทแสกเคารพกราบไหว้มาหลายร้อยปี หากไม่มีพิธีกรรมใดที่ผ่านล่าม”จ้ำ” ชนเผ่าไทแสกจะไม่เข้าไปทำกิจกรรมใดๆในบริเวณนั้นเด็ดขาด การกระทำของข้าราชการรายนี้ กับพวกเป็นการรบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำลายวัฒนธรรมประเพณีอันดีของชนเผ่าตน
เมื่อถึงวันงาน(23 ธ.ค.60)ข้าราชการคนนี้มีอาการเมาค้าง ขึ้นเวทีพูดจาวกวนๆปมา และจะเน้นคำลามกซึ่งเป็นการไม่ให้เกียรติผู้มาร่วมงาน ใช้วาจาไม่เหมาะสมเช่น ให้มองหน้าผม อย่ามองที่เป้ากางเกงจักรยาน มันไม่ใหญ่ขนาดนั้นหรอก”
นายนัชษ์ชาญชัยฯกล่าวต่อว่า การจัดงานปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพดีนี้ ได้รับงบประมาณมาจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ต.อาจสามารถ จำนวน 75,000 บาท มติของคณะกรรมการให้นำเงินไปซื้อเสื้อ อาหาร และเครื่องดื่ม มาแจกแก่ผู้มาร่วมงาน ปรากฏว่ามีคนมาร่วมจริงๆไม่ถึง 200 คน แต่กลับมีชื่อลงทะเบียนรับเสื้อถึง 500 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ทั้งสิ้น อีกทั้งยังปลอมลายมือชื่อผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย แสดงว่ามีการทุจริตเงินงบประมาณอย่างแน่นอน
“การวางตัวไม่เหมาะสมของข้าราชการผู้นี้ งานวันรวมใจไทแสก มีการประกวดซุ้มซอย ทางเผ่าไทแสกเรียนเชิญนายอำเภอมาเป็นประธานในการตัดสิน ซึ่งข้าราชการคนนี้ก็เป็นหนึ่งในกรรมการด้วย แต่กลับดื่มสุราจนเมามาย พูดจาลามกตลอดเวลา และไม่ทำหน้าที่กรรมการ กลับมอบให้คนอื่นทำแทน หลังเสร็จงานชาวซุ้มซอยต่อต้านในปีหน้าอย่าให้บุคคลผู้นี้มาเป็นกรรมการเด็ดขาด”
“ล่าสุดสดๆร้อนก็เดือน มี.ค.นี่แหละ มีการจัดงานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดในตำบล ทาง อบต.อาจสามารถขอความร่วมมือไปยัง รพ.สต.อาจสามารถ ส่งเจ้าหน้าที่พยาบาลพร้อมอุปกรณ์มาดูแลนักกีฬาและผู้ร่วมงาน เมื่อเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ฯไปถึง กลับถูกข้าราชการคนเดิมขับไล่ออกจากบริเวณงาน ทำให้เกิดความไม่พอใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก การกระทำดังกล่าวหากไม่ได้รับการแก้ไข ชาวบ้านจะร่วมตัวขับไล่ออกจากพื้นที่” นายนัชษ์ชาญชัยกล่าว
ทางด้าน นายชินวัต ทองปรีชา ปลัดอาวุโส เปิดเผยว่าเมื่อได้รับหนังสือดังกล่าวแล้ว จะนำเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับ หากพบว่าข้าราชการผู้นี้กระทำผิดจริงก็จะดำเนินการตามขั้นตอน แต่จะตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน หากพบว่ามีมูลความผิดก็จะตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไป
