X

อดีตทหาร 3 จว.ใต้ สุดขมขื่นกำพร้าพ่อแม่ เมียมีชู้ ญาติยึดที่ดิน

นครพนม – จากกรณี พ.อ.ปริชญ์ สุคันธศรี รอง ผอ.กอ.รมน.จว.หนองบัวลำภู ขับรถยนต์ปิคอัพจากจังหวัดนครราชสีมา เตรียมจะเดินทางไปที่ทำงานจังหวัดหนองบัวลำภู พบชายคนหนึ่งก้มหน้าก้มตาเดินฝ่าเปลวแดดที่บริเวณ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ด้วยความสงสัยจึงชั่งใจตนเองอยู่นานว่า ชายคนดังกล่าวดีหรือร้าย ก่อนจะหยุดรถให้ชายคนนั้นขึ้นมานั่งที่กระบะท้าย และได้สอบถามจนทราบว่าชายดังกล่าวชื่อ นายศักดิ์นรินทร์ จูมจันทา หรือโด่ง อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 196 หมู่ 11 บ้านแพงใต้ ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม อดีตเป็นทหารเกณฑ์รับใช้ชาติที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มาทำงานเป็นคนงานติดตั้งเสาโทรศัพท์มือถือที่ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา กับนายจ้างที่เป็นคนจังหวัดเดียวกัน แต่ทำงานได้เพียง 2 วัน งานก็ไม่มี จึงขอกลับบ้าน แต่นายจ้างไม่มีเงินจ่ายค่าจ้าง ให้ติดกระเป๋ามาเพียง 200 บาท ก่อนจะมาส่งที่ท่ารถอำเภอชุมพวง นั่งมาลง บขส.นครราชสีมา(โคราช) เหลือเงินติดก้นถุงเพียง 110 บาท ไม่พอค่าโดยสารตีตั๋วกลับ จึงตัดสินใจเดินเท้า จนมาพบนายทหารผู้อารีย์ดังกล่าว

นอกจากนี้ รอง ผอ.กอ.รมน.จว.หนองบัวลำภู ยังทดสอบความซื่อสัตย์ของนายโด่ง ด้วยการให้เงินแบงค์พันไปซื้อของกิน นายโด่งซื้อเพียงกาแฟมา 1 กระป๋อง พร้อมยื่นเงินทอนให้ทั้งหมด จากนั้นก็ขับรถมาส่งที่ บขส.ขอนแก่น มอบเงินให้ 1,000 บาท เพื่อเป็นค่ารถกลับจังหวัดนครพนม และนำเรื่องราวมาลงในสื่อโซเซียล จนชาวเน็ตต่างชื่นชม พ.อ.ปริชญ์ สุคันธศรี รอง ผอ.กอ.รมน.ฯ ผู้โพสต์ และแชร์กันสนั่นในโลกออนไลน์

ล่าสุด วันที่ 24 เม.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า โดยประสานทางโทรศัพท์กับ นางเกษแก้ว สุวรรณมาโจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 และ นายจรัส ไชยมนตรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านแพงใต้ พาไปพบนายโด่งที่นั่งรถโดยสารมาถึงอำเภอบ้านแพง ในเช้าของวันที่ 22 เม.ย. โดยนายโด่งได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ใจบุญ ให้ปลูกกระต๊อบพักอาศัยอยู่ในที่นา ใกล้กับท่อส่งน้ำชลประทาน มีนายอาคม ดงภูยาว อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 125 หมู่ 11 บ้านแพงใต้ ซึ่งเป็นเพื่อนในยามทุกข์ยากคอยช่วยเหลือตามอัตภาพ

กระต๊อบเป็นสังกะสีเก่าแปะล้อม ภายในมีเพียงที่นอนเก่าๆ และกระทะไฟฟ้าเสมือนอุปกรณ์สารพัดประโยชน์เพียงชิ้นเดียว ที่เป็นทั้งหม้อหุงข้าวและปรุงอาหาร ไม่มีห้องน้ำ พร้อมกับเปิดเผยชีวิตที่แสนจะหดหู่ว่า พื้นเพเป็นคนอำเภอบ้านแพงโดยกำเนิด มีพี่น้องด้วยกัน 3 คน เสียชีวิตไปหนึ่ง เมื่อเติบใหญ่ก็ต่างแยกย้ายไปทางใครทางมัน

ปัญหาเริ่มประดังเข้ามาภายหลังพ่อตายตอนตนอายุ 10 ขวบ ญาติฝ่ายพ่อก็มาขอที่ดินคืน แม่จึงหอบลูกออกจากบ้านที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำของพ่อแม่ โดยมาเช่าบ้านอยู่ในเขตเทศบาลตำบลบ้านแพง ต่อมาแม่ได้เข้าทำงานเป็นพนักงานกวาดขยะของเทศบาลฯ วันหนึ่งมีการแข่งขันกีฬาเทศบาลที่อำเภอปลาปาก จ.นครพนม ทางเทศบาลตำบลบ้านแพงจึงจัดนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน เมื่อรถวิ่งมาถึงบ้านท่าดอกแก้ว ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม มีคนปวดฉี่จึงจอดข้างทาง แม่กระโดดลงจากรถวิ่งข้ามถนน โดยไม่ดูว่ามีรถวิ่งสวนมา จึงถูกชนเสียชีวิตคาที่ ขณะนั้นตนอายุได้ 16 ปี หลังจบงานศพแม่ตนก็มาอาศัยอยู่กับนายอาคมเพื่อนรัก ด้วยการรับจ้างทำงานทั่วไป กระทั่งถึงวัยเกณฑ์ทหาร จับได้ใบแดง ทบ.1/2556 ประจำการที่ค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม

หลังผ่านการฝึกเป็นเวลา 3 เดือน ก็ถูกส่งไปอยู่กองร้อยสนับสนุนช่วยรบ(สชก.)อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดยะลา เป็นเวลา 1 ปี 9 เดือน เมื่อปลดประจำการก็กลับบ้านมาพบรักกับแม่หม้ายลูกติดคนหนึ่งชาวอำเภอนาทม จ.นครพนม ตนจึงไปอาศัยอยู่บ้านพ่อตาแม่ยาย และได้ไปทำงานก่อสร้างที่ กทม. 3 เดือน ได้เงินค่าจ้างตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์เมีย จึงเดินทางมาโดยไม่บอกให้เมียรู้ แต่สิ่งที่ตนพบคือเปิดประตูบ้านเข้าไปเห็นเมียพาชายชู้มานอนกกอยู่ในห้อง จึงเลิกรากันตั้งแต่บัดนั้น

ต่อมามีนายจ้างรับเหมาช่วงมาชวนไปทำงานติดตั้งเสาโทรศัพท์มือถือที่อำเภอชุมพวง ค่าแรงวันละ 350 บาท แต่ทำได้เพียงสองวันก็ไม่มีงานให้ทำต่อ ตนจึงขอเงินค่าจ้างกลับบ้าน นายจ้างไม่มีเงินจ่ายเพราะยังไม่ได้เบิก จึงให้เงินค่ารถมาแค่ 200 บาท แต่มันไม่พอค่าตั๋วรถโดยสาร ตนจึงตัดสินใจเดินเท้ากลับนครพนมดังกล่าว

ด้านนางเกษแก้ว สุวรรณมาโจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านแพงใต้ และ นายจรัส ไชยมนตรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านแพงใต้ เปิดเผยว่าหมู่บ้านทั้งสองนี้ เหมือนบ้านฝาแฝด เพราะมีวัดและป่าช้าเดียวกัน การช่วยเหลือระหว่างสองหมู่บ้านจึงพึ่งพากันและกัน หลังเกิดข่าวทางสื่อโซเซียล มีแต่ทางจังหวัดนครพนมเท่านั้น ที่ติดต่อประสานมา ส่วนหน่วยงานอื่นยังไม่มีการติดต่อแต่อย่างใด ขณะที่ทางเทศบาลตำบลบ้านแพง จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบสถานการณ์เป็นอยู่ในช่วงสายของวันนี้(24 เม.ย.) ซึ่งนายโด่งเป็นคนนิสัยดี ไม่มีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ชีวิตที่ผ่านมาน่าสงสาร ทางด้านนายอาคมเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากเผยว่า เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่น้อยจนใหญ่ ก่อนหน้า 7 วันที่แม่นายโด่งจะถูกรถชนตาย ได้สั่งเสียไว้ว่าเป็นเพื่อนกันอย่าทิ้งกัน ตนจึงเป็นเหมือนเพื่อนตาย และจะดูแลช่วยเหลือเพื่อนเท่าที่พอทำได้

ด้านสื่อโซเซียลหลังทราบข่าว ก็พยายามจะส่งเงินมาช่วยเหลือ แต่นายโด่งยังไม่ได้เปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งผู้ใดต้องการจะบริจาคเงินหรือสิ่งของ สามารถติดต่อเบอร์ 089-8626419 (นางเกษแก้ว สุวรรณมาโจ) 085-4501686(นายจรัส ไชยมนตรี) ส่วนผู้ใดจะสอบถามรายละเอียดเรื่องราวชีวิตของนายโด่ง ติดต่อโดยตรงที่เบอร์โทรศัพท์ 093-2707944

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน