นครพนม – พระคลั่งอ้างถูกมนต์ดำ ใช้มีดกระหน่ำแทงพระวัดเดียวกันยับ 12 แผล ในงานนมัสการพระธาตุพนม
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 ก.พ.62 ร.ต.อ.ธีระพงษ์ ท่าโทม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม รับแจ้งเหตุมีพระสงฆ์รูปหนึ่งคลั่งใช้อาวุธมีดแทงพระสงฆ์ด้วยกันเสียชีวิต ภายในบริเวณงานนมัสการองค์พระธาตุพนม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจสายตรวจ 191 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทหาร และกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม
ที่เกิดเหตุอยู่ในศาลาใกล้เมรุหลังวัดพระธาตุพนม พบร่างพระรูปหนึ่งทราบภายหลังว่าชื่อพระทองพูน เรืองศักดิ์ อายุ 57 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.เลิงแฝก อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม มีบาดแผลถูกของมีคมเข้าที่บริเวณหน้าท้อง สีข้าง ขาซ้ายและต้นขาขวา เป็นแผลฉกรรจ์ลึกรวม 12 แผล ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่รจะนำส่ง ร.พ.แต่ถูกพระที่ก่อเหตุยืนถือมีดคุมเชิงอยู่ จึงไม่สามารถนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาลได้
ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อพระสถิต อินธิราช อายุ 30 ปี เดินถืออาวุธมีดปลายแหลมยาว 8-10 นิ้ว กวัดแกว่งไปมาเพื่อไม่ให้ใครเข้าไปในศาลา บริเวณที่พระทองพูนที่ถูกแทงได้รับบาดเจ็บนอนกายใจรวยรินอยู่ ท่ามกลางสายตาประชาชนที่มาเที่ยวในงานดังกล่าว เจ้าหน้าที่ใช้ความพยายาเกลี่ยกล่อมนานร่วม 20 นาที พระสถิตก็ไม่มีทีท่าจะสงบสติ จึงตัดสินใจเข้าชาร์จตัวพระทองพูน ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ธาตุพนมและสามารถนำตัวพระทองพูนส่งโรงพยาบาลได้ แต่พระทองพูนทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะที่พระทองพูนผู้ตายนอนอยู่ในกลดที่กางไว้ในศาลาดังกล่าว จู่ๆพระสถิตย์เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้อาวุธมีดไล่จ้วงแทงพระสงฆ์รูปอื่นที่เดินทางมาพักปักกลดแสวงบุญ ในงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ในระหว่างวันที่ 12-20 ก.พ. ซึ่งงานวันนี้เป็นวันที่หกของงาน โดยมุดเข้าไปกระหน่ำแทงพระทองพูนที่กางกลดอยู่ใกล้กัน จนเลือดอาบแล้วคลุ้มคลั่งถือมีดแกว่งไปมา จนถูกเจ้าหน้าที่เข้าชาร์จตัวได้ดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัวพระสถิตย์ไปสึก เบื้องต้นรับสารภาพว่า ตนเองกับผู้ตายเป็นพระวัดเดียวกัน ยอมรับว่าเกิดอาการไม่พอใจพระทองพูนผู้ตาย เพราะหวาดระแวงว่าจะทำร้ายตน และเชื่อว่าพระทองพูนคิดไม่ดีกับตน เพราะเคยนำยาที่ทำจากมนต์ดำให้ตนกินหลายครั้ง ทำให้ตนรู้สึกว่าง่วงนอนตลอด จึงมั่นใจว่าเจตนาผู้ตายจะพยายามทำร้าย จึงตัดสินใจว่าถ้าไม่ลงมือฆ่าวันนี้ สักวันตนจะต้องถูกฆ่าแน่นอน จึงนำมีดปลายแหลมจ้วงแทงดังกล่าว ซึ่งระหว่างสอบสวนปากคำผู้ต้องหานายสถิตมีดวงตาเหม่อลอย และพูดวกไปวนมาแทบจับใจความไม่ได้ ทราบจากพระสงฆ์ที่มากางกลดด้วยกันว่านายสถิตย์ มีประวัติเป็นผู้ป่วยจิตเวช ก่อนจะดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาไว้ก่อน
