นครพนม – ตำรวจปลอมตัวเป็นเสี่ยกระเป๋าหนัก ล่อซื้อยาบ้าจากหนึ่งในแก็งค์ค้ายาบ้าข้ามชาติ พร้อมของกลางกว่าหมื่นเม็ด
วันที่ 9 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.00 น.บริเวณกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นายธวัชชัย แท้เที่ยง ปลัดจังหวัดฯ พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.ฯ พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สส.ภ.จว.ฯ พ.อ.เถลิงศักดิ์ มูลประดับ รองเสนาธิการฯ มณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง (นครพนม) ว่าที่ ร้อยตรี ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน พ.ต.อ.ธานัท จิราธนะกุล ผกก.สภ.ท่าอุเทน พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ถาวรพจน์ ผกก.สภ.บ้านแพง น.ท.กริช กองศรี หน.สถานีเรือบ้านแพง หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(นรข.) ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมกัญชาอัดแท่ง จำนวน 1,200 กก.ในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน และยาบ้า 11,125 เม็ด พร้อมผู้ต้องหา 1 คน พื้นที่ อ.บ้านแพง
กรณีจับกุมยาบ้า สืบเนื่องจากที่ตำรวจปลอมตัวเป็นเสี่ยใหญ่กระเป๋าหนัก ล่อซื้อยาบ้าจากแม่ค้าขายลาบ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.60 และขยายผลจนทราบว่าแม่ค้าขายลาบ ติดต่อขอซื้อยาบ้าจากนายพง ซึ่งเป็นบุคคลสองสัญชาติ มีบ้านอยู่ติดแม่น้ำโขง บ้านนาเขท่า ต.นาเข อ.บ้านแพง โดยนายพงจะให้เครดิตแก่ลูกค้า ด้วยการรับยาบ้าไปก่อน แล้วค่อยนำเงินมาใช้หนี้ ดังนั้น พ.ต.ท.รณชัย โพธิ์มี รอง ผกก.สส.ภ.ฯ พ.ต.ต.คณิน โพธิ์ชัยสาร สว.กก.สส.ภ.ฯ จึงใช้บริการตำรวจฟอร์มเสี่ย เข้าไปติดต่อขอซื้อยาบ้าจำนวนหนึ่ง และนายพงเปิดเครดิตให้ตำรวจในคราบพ่อค้ายาบ้า
กระทั่งวันที่ 8 ม.ค.61 เวลา 07.30 น. นายพงโทรศัพท์บอกกับตำรวจมาดเสี่ยว่า ได้สั่งลูกน้องนำยาบ้ามาส่งให้บริเวณถนนคอนกรีตทางไปบ้านนาดีหัวภู หมู่ 2 ต.โพนทอง อ.บ้านแพง ห่างจากถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (นครพนม-บ้านแพง) ประมาณ 300 เมตร ขณะนี้ลูกน้องยืนรออยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบไปยังจุดนัดพบ มีชายยืนถือถุงพลาสติกอยู่ข้างทาง จึงถามว่าเอาของมาส่งใช่ไหม ชายคนดังกล่าวตอบว่าใช่แล้วยื่นถุงพลาสติกส่งให้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ทราบภายหลังว่าชื่อ นายฤทธิ์ บุตรสอน อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 137 ม.3 บ้านนาเขท่า ต.นาเข อ.บ้านแพง โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีของกลางยาบ้า จำนวน 11,125 เม็ด
ขณะถูกจับกุมนายฤทธิ์มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่สะทกสะท้านใดๆ ค้นประวัติอาชญากรพบเคยต้องโทษคดีค้ายาเสพติดมาก่อน และสารภาพว่ารับจ้างส่งยาบ้าจากนายพงเป็นเงิน 20,000 บาท อ้างเพิ่งทำเป็นครั้งแรก นำตัวไปค้นที่บ้านที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนภรรยาของนายฤทธิ์ยังไม่พบความเกี่ยวข้อง ก่อนจะนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนคดีที่สอง เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำไปส่งยังพื้นที่ชั้นใน จึงร่วมกันลาดตระเวนตามแนวแม่น้ำโขง
กระทั่งพบรถกระบะคันหนึ่ง วิ่งมาจากบ้านเหล่าสวนกล้วย ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน มีท่าทีพิรุธเหมือนบรรทุกของหนัก จึงส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวจอด แต่คนขับเร่งเครื่องหลบหนี โดยวิ่งออกไปทางถนนหลวงแผ่นดินสาย 212 (นครพนม-ท่าอุเทน) แล้วมุ่งหน้าไปทางตัวจังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่จึงประสานงานไปยังหน่วยลาดตระเวนลาดอีกชุดให้สกัดจับ แต่กลับไม่มีวี่แววของรถต้องสงสัยผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่กำลังสอบถามทางวิทยุสื่อสารอยู่นั้น ก็ได้รับแจ้งจาก ผู้รักษาความสงบภายในหมู่บ้าน บ้านนาเหนือ หมู่ 6 ต.ท่าอุเทน ว่ามีรถกระบะต้องสงสัยมาจอดบริเวณหน้าบ้านของชาวบ้าน จึงเข้าไปตรวจสอบพบรถกะบะยี่ห้อนิสสัน สีดำ สี่ประตู ทะเบียน ชพ 2476 กรุงเทพมหานคร
ซึ่งเป็นรถที่เจ้าหน้าที่ติดตามมา ในขั้นต้นตรวจพบมีกัญชาอัดแท่งจำนวน 24 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 960 กก. ซุกซ่อนตามเบาะด้านหลังคนขับและบนกระบะท้ายจนแน่นเอี๊ยด แต่ไม่พบผู้ต้องหา โดยได้นำของกลางมาตรวจนับ และทำบันทึกจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอท่าอุเทน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายเห็นจวนตัว ขืนดันทุรังขับหนีต่อไป จะต้องถูกตามจับกุมตัวได้แน่นอน จึงขับรถเลี้ยวเข้าไปจอดในซอย แล้วหลบหนีไปกับความมืด ซึ่งรถยนต์ของกลางตรวจสอบพบว่า ชื่อผู้ครอบครองรถอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ จะมีหนังสือเชิญตัวมาสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่
