X

นายกฯแจงยิบ วัดพระธาตุพนมสุดกลั้น แม่ค้ายึดพื้นที่ทุกส่วน จำเป็นขอคืนเพื่อปรับภูมิทัศน์

นครพนม – นายกเทศบาลตำบลธาตุพนมแจงยิบ วัดพระธาตุพนมสุดกลั้น แม่ค้ายึดพื้นที่ทุกส่วน จำเป็นขอคืนเพื่อปรับภูมิทัศน์ ตามโครงการวัดบันดาลใจ

จากกรณีมีกลุ่มผู้ค้าขายสินค้าภายในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ออกมารวมตัวประท้วง อ้างว่ากรรมการวัดพระธาตุพนมฯ ขอคืนพื้นที่เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์  ขับไล่ให้ย้ายสิ่งของทุกอย่างไปด้านนอก ที่วัดจัดสถานที่เตรียมไว้  เพื่อรองรับการพัฒนา ก้าวสู่การเป็นมรดกโลก ขณะนี้องค์พระธาตุพนมอยู่ระหว่างการเสนอขอพิจารณา การรับรองจากยูเนสโก้ เพื่อประกาศเป็นมรดกโลก ด้วยการกระทำดังกล่าวสร้างความเดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถขายของได้เหมือนอยู่ภายในวัด จึงได้มีการรวมตัวกันออกมาเรียกร้อง ให้ทางวัดแก้ไขปัญหา

ล่าสุด นายขจรศักดิ์ นิตชิน นายกเทศบาลตำบลธาตุพนม ออกมาชี้แจงแก่สื่อมวลชน ว่า สิ่งที่กลุ่มพ่อค้าแม่ขายกล่าวอ้างถึงการขึ้นทะเบียนมรดกโลกนั้น ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะความจริงมรดกโลกเพิ่งมาเพียงไม่กี่ปี แต่การที่วัดพระธาตุพนม เป็นพระวรมหาวิหารชั้นเอก เป็นหนึ่งใน 9 วัด ที่อยู่ในโครงการวัดบันดาลใจ ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย สมาคมสถาปนิกสยามฯ สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ นำร่องเป็น  9 วัดต้นแบบ

นายขจรศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า เดิมทางมีกลุ่มผู้ขายสินค้าภายในวัดไม่เกิน 30 ราย โดยวัดเก็บค่าเช่าเดือนละ 500 บาท/เดือน ประมาณ 10 ปีเศษ วัดพระธาตุพนมฯ ได้รับคัดเลือกเป็นวัดต้นแบบ เพื่อเป็นกรณีศึกษาในการส่งต่อองค์ความรู้และสร้างเครือข่ายการทำงานเชื่อมต่อระหว่างภาคประชาชนคนรุ่นใหม่และพระสงฆ์อย่างยั่งยืน ที่สำคัญเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับวัดและชุมชนอื่นๆ มาร่วมมือกันพลิกฟื้นวัดทั่วประเทศให้เป็นวัดบันดาลใจของทุกคน

เมื่อทางคณะกรรมการทราบว่าได้รับความไว้วางใจให้เป็นวัดต้นแบบ ก็เชิญผู้ประกอบการมาพูดคุย เพื่อเตรียมขยับขยายปรับปรุงให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง ก็ถูกคัดค้านจากกลุ่มผู้ค้า ยืนยันจะไม่ยอมย้ายหนีไปไหน ขณะเดียวกันตั้งแต่บัดนั้นมาก็ไม่ได้เก็บค่าเช่าพื้นที่ เพราะต้องการให้พ่อค้าแม่ขายในวัด ย้ายไปขายของนอกวัด

นอกจากจะไม่ได้รับความร่วมมือแล้ว ยังมีผู้ขายสินค้าเพิ่มขึ้นตลอด จากสิบกลายเป็นร้อย ถนนทุกเส้นในวัดถูกยึดตั้งร้านค้า แผงลอย ล้อเลื่อน ไม่เว้นแม้แต่หน้าห้องน้ำ เหลือเพียงทางเดินแคบๆเท่านั้น ทัศนียภาพต่างๆถูกบดบังจนมองไม่เห็น ดังนั้นการจะเข้าไปปรับปรุงอะไรก็ยาก เพราะจะถูกพ่อค้าไม่ยอมให้เข้าไปดำเนินการใดๆ อ้างเสียเวลาทำมาหากิน กระทั่งเดือน เม.ย.60 เกิดพายุพัดต้นตาลอายุกว่า 100 ปี โค่นล้มทับ 2 แม่ลูกอาชีพช่างภาพอิสระเสียชีวิต เหตุการณ์เช่นนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ทางวัดเข้าไปทำอะไรก็ไม่มีใครให้ความร่วมมือ จนเกิดเหตุเศร้าสลดดังกล่าว ข้อสังเกตอีกอย่างเวลาเกิดฝนตกเพียงไม่กี่นาที น้ำจะท่วมขังพื้นที่บริเวณวัดทันที สาเหตุมาจากร่องระบายน้ำตื้นเขิน กลุ่มพ่อค้าที่เข้ามายึดพื้นที่ก็ไม่ยอมที่จะลอกดินออกจากร่องน้ำ ปล่อยให้น้ำไหลท่วมวัดอย่างที่เห็นในภาพข่าว

คณะกรรมการจึงประชุมหารือกันหลายครั้ง จนมีมติเป็นเอกฉันท์ ขืนปล่อยไว้เนิ่นนานกว่านี้จะเรื้อรังหนักไปเรื่อยๆ ประกอบกับมีผู้ค้าบางคนทำตัวเป็นมาเฟีย ถ้ามีคนมาขายของในวัด จะอ้างเป็นคำสั่งของพระผู้ใหญ่ เรียกเก็บเงินค่าเช่าใส่กระเป๋า ทั้งที่วัดไม่ได้เก็บค่าเช่ามากว่า 10 ปีแล้ว จึงจำเป็นต้องใช้กฎเหล็กขอคืนพื้นที่ เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ

และจากการที่วัดให้ผู้ค้าย้ายออกไปขายของนอกเขตนั้น ก็ไม่ได้ทอดทิ้งอย่างที่เป็นข่าว คณะกรรมการได้จัดพื้นที่รองรับเพื่อให้เป็นระเบียบไว้เรียบร้อย อีกทั้งปรับเกรดบริเวณใกล้เคียงสร้างเป็นร้านค้าถาวร “แรกๆอาจฉุกละหุกหน่อย เมื่อเข้าที่เข้าทางก็จะดูเป็นระเบียบ” นายขจรศักดิ์ฯกล่าว

ระหว่างที่นายขจรศักดิ์ฯ พาผู้สื่อข่าวชี้จุดขายของ ที่ทางคณะกรรมการวัดจัดไว้ ก็มีกลุ่มแม่ค้า เข้าไปให้กำลังใจหลายราย โดยเฉพาะคนที่เป็นลูกหลานพระธาตุพนมโดยกำเนิด ยินดีให้ความร่วมมือทุกกรณี เพื่อให้วัดพระธาตุพนมฯเป็นสถานที่สักการะที่งดงาม ส่วนมีผู้ออกมาคัดค้านมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

นายขจรศักดิ์ฯกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางวัดขีดเส้นให้ผู้ค้าออกจากวัด ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่กลุ่มผู้ค้ากลับเพิกเฉย จำเป็นต้องใช้ไม้แข็งหากไม่ยอมย้ายก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ลากยาวถึงวันที่ 10 ต.ค. จึงยอมขนย้ายออกไปตั้งในบริเวณที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ ทางคณะกรรมการจึงเข้าไปปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ ต้นไม้ที่กิ่งผุก็ตัดออก ร่องน้ำที่อุดตันก็ลอกดินที่พอกออกจนเกลี้ยง ตอนนี้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง สิ่งสวยงามที่เคยถูกบังด้วยผ้าใบร้านค้า ผู้มากราบสักการะองค์พระธาตุพนมก็ได้เห็นอย่างชัดเจน เมื่อก่อนผู้มากราบไหว้ต้องถามหาห้องน้ำไปทางไหน ตอนนี้มองเห็นได้แต่ไกล ต่อจากนี้ก็จะนำหญ้ามาปลูกตามเนินดิน เพื่อให้ผู้มาปฏิบัติธรรมได้นั่งใต้โค่นต้นไม้ตามความต้องการอย่างสงบร่มเย็น

“หลังการจัดระเบียบผู้ค้าแล้ว ทางวัดจะเปิดพื้นที่สีเขียวรอบองค์พระธาตุ เพื่อเสริมความสง่างาม พร้อมๆกับสร้างพื้นที่โดยรอบให้เกิดความสวยศักดิ์สฺทธิ์ไปในตัว เป็นการส่งเสริมให้ผู้คนได้ใช้เป็นพื้นที่ปฏิบัติภาวนา ใช้เวลาในการเรียนรู้ พักผ่อน และอยู่ในวัดได้มากขึ้น  จากนั้นการปฏิบัติภาวนา การประกอบศาสนกิจตามพระธรรมและวินัยของคณะสงฆ์ รวมถึงศาสนกิจพิเศษของชาวพุทธไทยและสากล เช่น สวดมนต์ข้ามปี เป็นต้น การที่มีการค้าขายอยู่รอบบริเวณวัดและองค์พระธาตุ ทำให้พื้นที่รอบวัดไม่สวย และองค์พระธาตุพนมไม่สง่างาม” ข้อความบางส่วนที่ทางวัดพระธาตุพนมฯ ปิดป้ายประกาศไว้

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน