ผู้ตรวจฯกระทรวงการคลัง หารือผู้นำองค์กรธุรกิจนครพนม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

นครพนม – ผู้ตรวจฯกระทรวงการคลัง หารือผู้นำองค์กรธุรกิจนครพนม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เผยแหล่งทุนควรลดเงื่อนไข ดันเป็นเมืองรองที่น่าเที่ยว

ณ ห้องประชุมโชว์รูมโตโยต้าเจริญศรี ถนนบายพาส เยื้องวัดป่าศรีสมพร เทศบาลเมืองนครพนม นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เดินทางตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อร่วมประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำองค์กรธุรกิจในจังหวัดนครพนม ประจำปีงบประมาณ 2564 ประกอบด้วย นายธนพัต ทีฆธนานนท์ รักษาการแทนประธานหอการค้าฯ นายเทียมศักดิ์ เวียงศรีประเสริฐ ประธานสภาอุตสาหกรรมฯ นายชาญยุทธ อุปพงษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฯ นางมรกต ศรีสุข ประธานชมรมธนาคารจังหวัดนครพนม นายอธิปพัฒน์ มิ่งเจริญพาณิชย์ รองประธานหอการค้าจังหวัดฯ และ นางสุธิษา จารุเมธาวิทย์ คลังจังหวัดนครพนม ซึ่งการหารือครั้งนี้เป็นไปอย่างกันเอง

ทั้งนี้ นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ”วันนี้ก็ได้มีโอกาสมาเยี่ยมนครพนม อยากมาพบผู้ประกอบการ เช่น หอการค้า สภาอุตสาหกรรม เพื่อรับฟังปัญหาในท้องถิ่นกับเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในยุคโควิด ก็ได้ไอเดียต่างๆจากหอการค้าไทยและสภาอุตสาหกรรม กระทรวงก็มีส่วนหนึ่งที่เป็นห่วงเป็นใยก็คือในเรื่องของสถานการณ์โควิด อยากให้ทางจังหวัดมีความเข้มงวดในการป้องกันตัวเอง เพราะโควิดคงอยู่กับเราไปอีกนาน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะอยู่กับมันได้ก็คือการป้องกันตัวเอง อยากให้มีการรณรงค์ใส่หน้ากาก 100% ทุกวันทุกเวลา

ส่วนในเรื่องของมุมมองการท่องเที่ยว ถ้าบอกว่าใครเดินทางมาท่องเที่ยวนครพนมต้องกักตัว การท่องเที่ยวก็จะหายไป แต่ถ้าบอกว่ามานครพนมมาได้ไม่กักตัว แต่เราขออนุญาตทำ rapid test ยืนยันว่าปลอดภัยเราถึงจะให้เข้าได้อย่างนี้ถือว่าคนละครึ่งทาง ถือว่าเป็นทางออกที่ดีทั้งสองฝ่ายทั้งๆสาธารณสุขและทางเศรษฐกิจ แต่ยังไงก็ตามการมาอยู่นครพนมต้องใส่หน้ากากทุกพื้นที่ทุกเวลา อย่างนี้น่าจะเป็นทางออกที่น่าจะดีในเรื่องของการท่องเที่ยวนครพนม

สำหรับทิศทางในอนาคตของนครพนม ก็อยากให้นครพนมเป็นเมืองที่น่าอยู่ตลอดไป ต้องสร้างสมดุลในการที่จะเป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองอุตสาหกรรมบริการหรือเกษตรกรรม ต้องรักษาสมดุลต้องมีการวางผังเมืองวางพื้นที่ให้สมดุลกัน อย่าให้มากอย่าให้น้อยเกินไปด้านใดด้านหนึ่ง ความเจริญสามารถเข้ามาได้ในระดับหนึ่งแต่อย่าให้เกินเหตุ ต้องสร้างความ balance ต้องสร้างความสมดุลในเรื่องนี้ให้ได้เพราะจะเป็นสิ่งที่ยั่งยืนมากกว่า อย่าตามกระแสมากจนเกินไปเพราะว่านครพนมเป็นเมืองที่น่าอยู่อยู่แล้ว

สุดท้ายก็อยากจะขอเป็นกำลังใจ แล้วก็มีสิ่งใดที่รัฐบาลพร้อมจะซัพพอร์ตในเรื่องของการเข้าถึงแหล่งทุนก็กำลังทำอยู่ ในส่วนตัวที่เป็นประธานบริหาร sme ก็ให้นโยบายกับเรื่องนี้ทุกสาขาในสถานการณ์โควิดให้ลงไปช่วยเขา ลดเงื่อนไข พยายามดำเนินการปล่อยกู้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้เขาได้มีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วที่สุด โดยอาจจะตัดประเด็นบางประเด็นที่เคยมีอยู่เพราะว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ปกติ เราต้องยอมรับว่ามันไม่ปกติ เพราะฉะนั้นการใช้เงื่อนไขเดิมๆมันอาจจะไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน”