นครพนม – ททท.นครพนม แถลงข่าวงานประเพณีบุญเดือนห้า มหาสงกรานต์กลุ่มจังหวัดสนุก ไหว้พระธาตุประจำวันเกิด 8 แห่ง สไตล์วิถีไทย วิถีพุทธตลอดเดือนเมษายน
ณ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม (ผอ.ททท.ฯ) แถลงข่าวการกำหนดจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทย ร่วมออกเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดสนุก (นครพนม สกลนคร มุกดาหาร) ภายใต้หัวข้อ “งานประเพณีเดือนห้า มหาสงกรานต์ กลุ่มจังหวัดสนุก เที่ยวสงกรานต์วิถีใหม่…วิธีไทย…วิถีพุทธ…ได้ตลอดเดือนเมษายน” เป็นการกระจายนักท่องเที่ยวในหลายอำเภอในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพิ่มวันพัก ไม่ต้องแออัดเดินทางท่องเที่ยวในระหว่างวันที่13-15 เมษายน เท่านั้น ออกไปเที่ยวสงกรานต์ให้หายคิดถึง งานบุญประเพณีเดือนห้า มหาสงกรานต์ชวนหมู่ยามบ้าน พกหน้ากาก พกเจลล้างมือ เที่ยงสงกรานต์ในยุค New Normal
โดยมีนายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ผอ.ททท.อีสาน) นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายบุญช่วย น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ และเอกชน อาทิ เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม สภาอุตสาหกรรมฯ คลังจังหวัดฯ ยุติธรรมฯ พาณิชย์ฯ โรงเรียนกีฬาฯ ประชาสัมพันธ์จังหวัดฯ เรือนจำกลางนครพนม ฯลฯ ร่วมการแถลงข่าวในครั้งนี้
จังหวัดนครพนม มหาสงกรานต์..สรงน้ำพระธาตุประจำวันเกิดทั้ง 8 แห่ง ได้แก่ 1.พระธาตุพนม (อาทิตย์) อำเภอธาตุพนม 2.พระธาตุเรณู (จันทร์) อำเภอเรณูนคร 3.พระธาตุศรีคุณ (อังคาร) อำเภอนาแก 4.พระธาตุมหาชัย (พุธ) อำเภอปลาปาก 5.พระธาตุมรุกขนคร (พุธ กลางคืน) อำเภอธาตุพนม 6.พระธาตุประสิทธิ์ (พฤหัสบดี) อำเภอนาหว้า 7.พระธาตุท่าอุเทน (ศุกร์) อำเภอท่าอุเทน และ 8.พระธาตุนคร (เสาร์) เขตเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อให้สาธุชนกราบไหว้ขอพร เสริมสิริมงคลด้วยการสรงน้ำพระธาตุประจำวันเกิด 8 พระธาตุ 7 อำเภอ ทั้งนี้ทาง ททท.สำนักงานนครพนม ได้ประสานพระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม แจ้งไปยังวัดพระธาตุประจำวันเกิดทั้ง 8 แห่ง ให้จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งเดือนเมษายนนี้
ส่วนในตัวจังหวัดนครพนม กรณีนักท่องเที่ยวไม่สะดวกในการเดินทางไปยังที่ตั้งองค์พระธาตุทั้ง 8 แห่ง ทางจังหวัดได้มีกิจกรรมเทศกาลไหว้พระธาตุประจำวันเกิดองค์จำลองไว้ ณ หมู่บ้าน 8 ชนเผ่า ถนนสวรรค์ชายโขง จุดเช็คอินแห่งใหม่ที่กำลังมีชื่อเสียง นอกจากนี้บนหาดทรายกลางแม่น้ำโขง มีการแข่งขันกีฬาชายหาด ณ หาดทรายทองศรีโคตรบูร ประกอบด้วย วอลเล่ย์บอลชายหาด ประเภทชายคู่ และ หญิงคู่,เปตองชายหาด ประเภท ชายเดี่ยว,ทีมชาย,ฟุตบอลชายหาด ประเภท ประชาชนทั่วไปชาย และเซปักตะกร้อ ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2564
ด้านจังหวัดสกลนคร เสริมสิริมงคลยุค New Normal กับงานมหาสงกรานต์ สรงน้ำพระธาตุเชิงชุม และหลวงพ่อพระองค์แสน พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดสกลนคร และกิจกรรมลอดอุโมงค์บุญ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ประพรมน้ำมนต์จากการลอดอุโมงค์บุญเมื่อเดินทางมาถึงสกลนคร ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2564 ณ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เขตเทศบาลเมืองสกลนคร
และจังหวัดมุกดาหาร มหาสงกรานต์ สรงน้ำพระใหญ่และสรงน้ำรอยพระพุทธบาท เสริมสิริมงคลปีใหม่ไทยอีกทั้งไหว้ขอพรพญาศรีมุกดามหามุนีนีลปานนาคราช พญานาคที่คอยปกปักรักษาพระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ ณ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร
ท้ายนี้ นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้วผอ.ททท.สำนักงานนครพนม ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว เดินทางไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคลในวันปีใหม่ไทย ได้ตลอดทั้งเดือนเมษายน กับงานประเพณีมหาสงกรานต์วิถีใหม่ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดสนุก
ซึ่งภายในงานการแถลงข่าว ททท.สำนักงานนครพนม ได้นำแตงโมไร้เมล็ด และน้ำแตงโมไร้เมล็ดจากไร่คุณเตือนใจ ที่มีความหวานจากธรรมชาติ ไม่เจอปนน้ำตาลสังเคราะห์ แคนตาลูปอันเลื่องชื่อ และข้าวเหนียวหมูซ่อนแอบเป็นฝีมือจากผู้ต้องขังหญิงเรือนจำกลางนครพนม ที่ได้รับการฝึกสอนจากเซฟชื่อดัง เข้าไปให้เคล็ดลับการปรุงแต่งรสชาติอาหารที่ปราศจากผงชูรส ซึ่งได้รับการชื่นชมจากผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก และเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษก็จะนำความรู้ที่ได้มาประกอบสัมมาอาชีพเลี้ยงครอบครัวต่อไป
ประเพณีบุญเดือนห้า เป็นฮีตที่ 5 ใน 12 ฮีต(จารีต)ของชาวอีสาน ซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมที่คนท้องถิ่นอีสานได้ปฏิบัติสืบๆกันมา จนกลายเป็นประเพณีที่ไม่สามารถแยกหรือลบเลือนไปจากวิถีชีวิต เริ่มมีเข้ามาตั้งแต่สมัยที่บรรพบุรุษ ได้ยอมรับนับถือเอาพระพุทธศาสนาเข้ามาไว้ในจิตใจแทนความเชื่อดั้งเดิม ฮีตดังกล่าวนี้เรียกว่าสรงน้ำพระพุทธรูป(สรงน้ำพระ) หรืออีกอย่างหนึ่งเรียกว่าตรุษสงกรานต์ หรือบุญเดือนห้า เป็นวันที่พระอาทิตย์เคลื่อนย้ายจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน โดยสมัยโบราณถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย
