นครพนม – 271 วัน ปลอดโควิด ตั้งจุดคัดกรองเข้มงวด 4 ด่านหลัก ผวจ.ฯกำชับยึดแนวปฏิบัติเคร่งครัด
วันที่ 10 มกราคม 2564 บริเวณจุดคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) หน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ(รพ.สต.) บ้านโชคอำนวย ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นเขตรอยต่อของอำเภอกุสุมาลย์ จ.สกลนคร ถือว่าเป็นด่านแรกที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม โดยมี นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธาน ตั้งเป็นกำแพงป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ เนื่องจากพื้นที่จังหวัดนครพนม ถูกจัดอยู่ในโซนเฝ้าระวังสูงสุด ร่วมกับ 8 จังหวัดภาคอีสานที่ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ประกอบด้วย 1.ศรีสะเกษ 2.ยโสธร 3.บึงกาฬ 4.ร้อยเอ็ด 5.กาฬสินธุ์ 6.สกลนคร 7.นครพนม และ 8.มุกดาหาร
นายแสนดี ศรีมุกดา ปลัดอำเภอเมืองนครพนม เปิดเผยว่าจุดคัดกรองนี้ได้รับคำสั่งจาก ผวจ.นครพนม ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 เพื่อตรวจคัดกรองผู้เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยง โดยบูรณาการร่วมกับตำรวจภูธร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.ฯ) อสม. พยาบาล อส.ฯ ที่ผ่านมาไม่พบผู้เข้าข่ายเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ด้าน พ.ต.ท.วีระศักดิ์ พูลพุทธา สวป.สภ.โพนสวรรค์ นายตำรวจเวรดูแลด่านประจำวัน กล่าวว่า ประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แม้จะมีความยุ่งยากสักหน่อย แต่ไม่มีปัญหาอะไร เพราะทุกคนทราบดีถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด
ขณะที่ น.ส.ดารุณี ไชยต้นเทือก อสม.วังตามัว เผยว่าการคัดกรองเบื้องต้นจะตรวจวัดอุณหภูมิก่อน ถ้าพบว่ามีไข้สูงกว่า 37.5 จะให้นั่งพักประมาณ 10 นาที จึงจะวัดใหม่อีกครั้ง หากอุณหภูมิไม่ลด ก็จะส่งต่อไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล แต่ที่ผ่านมายังไม่พบผู้ป่วยในลักษณะดังกล่าว
น.ส.ประวีณา สีหนองท้าว พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าถ้ามีผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง จะทำประวัติแล้วส่งเข้าไปในไลน์กลุ่ม เพื่อให้ อสม.ในพื้นที่ ติดตามต่อ ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ และแนะนำให้กักตัวเองอยู่ที่บ้าน ห้ามออกไปพบปะกับผู้ใดเป็นเวลา 14 วัน หากฝ่าฝืนฝ่ายกฎหมายก็จะเข้ามาจับกุมดำเนินคดีทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ด้านแนวชายแดนไทย-ลาว จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง บูรณาการร่วมกันทั้งในและนอกเครื่องแบบ ลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย
สำหรับการปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ของโรคติดต่ออันตรายเป็นการชั่วคราว จำนวน 15 กิจการทั่วทั้งจังหวัดนครพนม นั้น เป็นไปตามมติคณะกรรมการฯ ได้แก่ 1.โรงภาพยนตร์ 2.ร้านคาราโอเกะ 3.อาบ อบ นวด หรือ โรงน้ำชา 4.ร้านเกม ตู้เกมส์ เครื่องเล่นหยอดเหรียญ 5.ร้านสักหรือเจาะผิวหนัง 6.สถาบันกวดวิชาทุกประเภท ห้ามจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรมหรือกิจกรรมใดๆ ที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เว้นแต่ดำเนินการสื่อสารแบบทางไกลหรือด้วยวิธีออนไลน์ 7.สนามไก่ชน รวมถึงสนามซ้อมไก่ กัดปลา สนามมวย ฯลฯ และสถานที่สำหรับจัดให้มีการพนันอย่างอื่นทุกชนิด
8.โต๊ะสนุกเกอร์ 9.ร้านหรือศูนย์พระเครื่อง แผงพระ ทั้งกลางแจ้งและในร่ม 10.สระว่ายน้ำ รวมทั้งในโรงแรมและสถานศึกษา 11.สระน้ำเพื่อการกีฬา หรือในบึง 12.ร้านสปา นวดแผนไทย แผนโบราณฯลฯ 13.เครื่องเล่นในลักษณะที่เป็นสวนสนุก เครื่องเล่นเป่าลม บ้านลม บ้านบอล หรือเครื่องเล่นหยอดเหรียญ 14.โรงเรียน สถาบันศึกษา ทั้งภาครัฐและเอกชน ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก โดยมีกำหนดระหว่างวันที่ 5-18 มกราคม นี้ และ 15. สถานบริการ เช่น ผับ บาร์
นอกจากนี้ยังห้ามมีการชุมนุมหรือมั่วสุม เช่น การแสดงดนตรี รถแห่ รำวง โดยห้ามสังสรรค์รื่นเริงที่เป็นการรวมผู้คนจำนวนมาก ยกเว้น งานแต่งงาน งานศพ งานประเพณีที่มีความจำเป็น จำกัดจำนวนคนไม่เกิน 100 คน และต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่นั้นๆ
เนื่องด้วยนครพนมเป็นจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะ จึงถูกกำหนดให้อยู่ในมาตรการเฝ้าระวังสูงสุด(สีเหลือง) เพื่อเป็นการระงับยับยั้งการแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้ และต้องเป็นจังหวัดที่ปลอดเชื้อตลอดไป จึงต้องมีมาตรการในการควบคุมไม่ให้จังหวัดสีแดงนำผู้ติดเชื้อเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสีเหลือง
ดังนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม จึงกำหนดให้มีมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มข้น โดยสั่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง หมั่นตรวจตราสถานที่หรือแหล่งท่องเที่ยว ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่ศูนย์บริการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำหนด ทางจังหวัดจะพิจารณาให้สถานบริการนั้นๆหยุดบริการทันที
พร้อมกันนี้ให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อความเข้มข้นในการค้นหาและจับกุมกลุ่มบุคคลที่มั่วสุมทำผิดกฎหมาย กำชับทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เฝ้าระวังการลักลอบเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครพนมของคนที่เดินทางมาจากการระบาดของโรค โดยห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว และให้โรงพยาบาลกำหนดมาตรการงดเยี่ยม
สำหรับจุดคัดกรองผู้เดินทางเข้าจังหวัดนครพนม มีจำนวนทั้งสิ้น ด่านหลัก ได้แก่ 1. อ.ธาตุพนม รอยต่อกับจังหวัดมุกดาหาร 2.อ.นาแก รอยต่อจังหวัดสกลนคร 3.อ.บ้านแพง รอยต่อจังหวัดบึงกาฬ และ 4.อ.เมืองฯ รอยต่อจังหวัดสกลนคร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ทั้งฝ่ายปกครอง,สาธารณสุข,ตำรวจ และ อสม. โดยนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจหลักทั้ง 4 จุด ให้ยึดแนวทางการปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ในการคัดกรองประชาชน ที่ผ่านเข้ามาในจังหวัดนครพนม รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจให้ข้อแนะนำ รวมทั้งขอความร่วมมือในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-9 แก่ผู้ที่สัญจรไปมา
