X

ผอ.รร.ฯ แจงข้อกล่าวหาหลังลูกศิษย์ฮือไล่ ยันไม่เคยอมเงินหลวง ยอมรับถองเหล้าใน รร.กับภารโรงจริง

นครพนม – ผอ.รร.ฯ แจงข้อกล่าวหาหลังลูกศิษย์ฮือไล่ ยันไม่เคยอมเงินหลวง ยอมรับถองเหล้าใน รร.กับภารโรงจริง เผยต้องการพัฒนาให้ดีขึ้น

คืบหน้า กรณีคณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน และศิษย์เก่า โรงเรียนบ้านหนองปลาดุก ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ผ่านศูนย์ดำรงธรรมฯ มีนางผ่องศรี ป้องเพ็ชร อายุ 49 ปี เป็นแกนนำ โดยกล่าวหานายความสุข ไชยผง ผอ.รร.หนองปลาดุก ปฏิบัติหน้าที่ส่อไปในทางทุจริต ประพฤติมิชอบ จำนวน 5 ข้อกล่าวหา ได้แก่ 1.จำหน่ายทรัพย์สินของหลวงโดยทุจริต 2.เงินบริจาคไม่นำเข้าบัญชีรายได้สถานศึกษา 3.ใช้งบประมาณปรับปรุงห้อง ผอ.ฯ ไม่เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการเงิน 4.ใช้งบประมาณจ้างแม่ครัวฯ โดยไม่มีที่มาของงบฯ และ 5.มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เป็นต้น ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด วันที่ 25 ธันวาคม 2563 นายความสุข ไชยผง ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองปลาดุก ได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวเป็นข้อๆ ว่า  กรณีที่ถูกร้องเรียนในเรื่องของค่าอาหารกลางวันนักเรียน เคยชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง ครั้งหนึ่งก็เคยได้เชิญคณะกรรมการสถานศึกษาและคณะครูทุกคนเข้าร่วมรับฟังการชี้แจง ตนก็ได้ยืนยันไปแล้วว่าสามารถตรวจสอบเอกสารทุกอย่าง หรือจะสอบถามครูผู้รับผิดชอบหรือแม่บ้านก็ได้ ว่าตนเคยมีคำสั่งให้หักค่าอาหารหรือไม่ เพราะตั้งแต่มาดำรงตำแหน่ง ผอ.ฯที่โรงเรียนนี้ก็ไม่เคยมีการหักค่าอาหารนักเรียนอย่างที่โดนร้องเรียน แต่กรณีที่นำผู้ประกอบการเข้ามาทำอาหารให้กับนักเรียนนั้น เป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีกำไร หากมีงบ 20 บาท ทางผู้ประกอบการก็จะทำอาหารในราคา 13 บาท ส่วนอีก 7 บาทคือกำไร แต่ถ้าหากทางโรงเรียนทำเองบริหารจัดการเองเราจะสามารถผลิตอาหารได้เต็มจำนวนงบ 20 บาท เพราะเราไม่ได้ค้ากำไร

ส่วนเรื่องของผ้าป่าโรงเรียน ก็ได้เคยชี้แจงไปแล้วเช่นเดียวกัน ก็มีศิษย์เก่าของโรงเรียนที่ประกอบอาชีพรถตู้รับจ้าง ได้ทำผ้าป่ามามียอดเงินจำนวนแสนต้นๆ หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ก็มีจุดประสงค์ที่จะหาไฟไซเรนและกรวยจราจรให้กับถนนทั้ง 5 หมู่บ้าน ซึ่งคณะศิษย์เก่าได้ติดต่อประสานมาทางกำนันที่เป็นประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ทางด้านกำนันเห็นว่าโรงเรียนมีพื้นที่ในการจอดรถของคณะผ้าป่าได้หลายคัน และทางคณะผ้าป่าก็ได้คุยกันว่าหลังจากที่ซื้อไฟไซเรนและกรวยจราจรให้กับท่านกำนันแล้ว เงินเหลือเท่าไหร่ให้เอามอบให้โรงเรียน แล้วแต่ว่าโรงเรียนจะนำไปทำอะไร ซึ่งตนก็ได้แจ้งคณะผ้าป่าไปว่าต้องการจะพัฒนาห้องสมุด พร้อมกับพาคณะผ้าป่ามาดูห้องสมุดที่ตนพูดถึง พร้อมกลับประมาณการณ์ว่าน่าจะใช้งบประมาณอยู่ที่เราราวๆ 100,000 บาท

แต่เงินที่เหลือจากการซื้อไฟไซเรนและกรวยจราจร มีเพียงประมาณ 30,000 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ก็เลยพูดคุยกับทางด้านคณะกรรมการสถานศึกษาแล้ว ตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ตนก็จะพยายามติดต่อประสานงานเผื่อว่าจะได้งบเข้ามาเพิ่ม พอดีกับกลุ่มศิษย์เก่าได้จากงานเดินวิ่งการกุศลขึ้นหลังหักค่าใช้จ่ายยังคงเหลือเงินอยู่ 13,000 บาทก็ได้นำมามอบให้กับทางโรงเรียน เพื่อสมทบในการพัฒนาและปรับปรุงห้องสมุด  เบ็ดเสร็จแล้วก็จะมีเงินประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท ซึ่งเงิน 4 หมื่นกว่าบาทนี้ก็จะเป็นเงินที่จะนำไปปรับปรุงสภาพแวดล้อม ตอนนี้ของก็มาแล้วเรียบร้อย พร้อมที่จะดำเนินการได้ และนี่ก็เป็นที่ไปที่มาของเงินผ้าป่าทั้งหมด

ส่วนเรื่องการตัดไม้ในโรงเรียนนั้น ด้านหลังโรงเรียนจะมีต้นกระถินเทพาที่สูงมากและลำต้นเอนมาทางโรงงานผลิตน้ำของโรงเรียน อาจจะเป็นอันตรายหากเกิดลมหรือพายุ ตนจึงได้คุยกับคณะกรรมการในที่ประชุม เนื่องจากว่าช่วงนั้นต้นไม้บางส่วนก็ได้ล้มลงทับห้องน้ำที่กำลังขอรื้อจนพัง ถ้าขืนปล่อยไว้อาจจะเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างอื่น หรืออาจจะเป็นอันตรายต่อตัวนักเรียน จึงได้ขอตัดต้นกระถินและนำไม้ไปแปรรูปต่อเติมโรงอาหารให้กว้างและถูกสุขลักษณะมากขึ้น ตอนนี้ก็ได้ดำเนินการเสร็จไประดับหนึ่งแล้ว ส่วนไม้ยูคาลิปตัสทางคณะกรรมการเห็นว่ามีค่อนข้างเยอะจนดูเกะกะ และสามารถที่จะจำหน่ายได้คณะกรรมการเลยเสนอให้นำไม้ไปขายเพื่อที่จะนำเงินมาสมทบในการปรับปรุงห้องสมุด ก็เลยมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยมีท่านทองจันทร์ อดีตรองนายก อบต.บ้านผึ้ง ซึ่งเป็นรองประธานกรรมการของโรงเรียน หลังจากที่มีผู้มายื่นซองสูงสุดอยู่ที่ 2,500 บาท ท่านก็ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวมามอบให้กับทางโรงเรียน และหลังจากที่ได้ศึกษาข้อมูลกับสำนักงานเขตฯ ก็ได้ทราบว่าไม้ยูคาลิปตัสที่นำไปขายหรือแม้แต่ดินก้อนเดียวในที่ราชพัสดุก็ต้องส่งคืนเป็นเงินรายได้แผ่นดิน ตนก็แจ้งไปยังฝ่ายบริหารการเงินให้รีบนำเงินนั้นส่งคืนเป็นรายได้แผ่นดินไป เมื่อส่งเป็นรายได้แผ่นดินแล้ว เมื่อเปิดเทอมก็จะต้องรายงานไปยังคณะกรรมการสถานศึกษา ว่าไม่สามารถทำตามเจตนาของท่านได้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย หากจะนำเงินของแผ่นดินมาใช้ ซึ่งการส่งเงินคืนในครั้งนั้นก็ได้ส่งไปพร้อมกับเงินรายได้ในการจำหน่ายกระเบื้อง โดยทางสำนักงานเขตฯอนุญาตให้รื้อกระเบื้องเก่าที่ชำรุดออกและเปลี่ยนใหม่ได้ จึงได้ทำการรื้อกระเบื้องเก่าออกไปไว้ที่หลังโรงเรียน จนมีชาวบ้านมาขอซื้อกระเบื้องที่รื้อไว้ เพื่อที่จะไปทำโรงเห็ด ก็ได้บอกไปว่าตนไม่สามารถที่จะขายได้ เพราะไม่ใช่ทรัพย์สินของทางโรงเรียนและไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัว จึงไม่สามารถที่จะตั้งราคาได้ ทางชาวบ้านก็เลยช่วยกันบริจาคเงินเข้าโรงเรียน 300-400 บาทบ้าง หรือบางคนก็ให้ 1,000 บาท ซึ่งรวมแล้วได้เงินทั้งหมดประมาณ 9,000 บาท ตนก็ได้คุยกับทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเขต ซึ่งทางเขตก็แจ้งมาว่าให้ส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน ตนก็ได้ส่งไปพร้อมกันกับเงินจำหน่ายไม้ยูคาลิปตัส 2,500 บาท ปัจจุบันยังมีเงินที่เก็บไว้จากเงินเจตนาผ้าป่าและเงินที่ศิษย์เก่าได้จัดเดินวิ่งการกุศล เป็นจำนวนเงินรวม 40,000 กว่าบาท และก็กำลังจะเริ่มดำเนินการปรับปรุงห้องสมุด

กรณีที่นำรถมาไถบริเวณสนามกีฬา ครั้งตนมาบรรจุเป็นครูตั้งแต่แรกๆ เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นสนามฟุตบอลบริเวณหน้าเสาธงไม่มีหญ้าขึ้น จนเมื่อเวลาผ่านไปถึงปัจจุบันบริเวณนั้นก็ยังเป็นดินลูกรังอยู่เหมือนเดิม  ตนจึงได้ให้รถมาปรับปรุงผิวดินและนำหญ้ามาปลูกแต่ก็ยังไม่สมบูรณ์มากนัก

และที่ร้องเรียนว่าตนต้องการจะเปลี่ยนชื่อโรงเรียน เพราะชื่อเดิมมันเชยนั้น เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจากว่าตนไม่ได้คิดว่าจะเปลี่ยนชื่อโรงเรียน แต่เป็นเรื่องปกติเมื่อมารับตำแหน่ง ก็จะต้องแถลงเรื่องนโยบายต่างๆ ว่าจะทำอะไรบ้าง ตนก็ได้ไล่เรียงนโยบายต่างๆ มีหนึ่งข้อที่ตนเห็นว่าน่าจะต้องทำ ก็คือสร้างความภาคภูมิใจในสถาบัน ซึ่งตั้งแต่ตนเข้ามาเป็นครูใหม่ๆ จนมารับตำแหน่ง ผอ.ฯ มีศิษย์เก่าไม่น้อยกว่า 2,000 คน แต่เราไม่ได้สร้างอะไรให้กับศิษย์เก่า เพื่อจะได้เกิดความภาคภูมิใจและอยากจะกลับมาทำงานที่โรงเรียนของเรา เราจึงจำเป็นจะต้องสร้างความภาคภูมิใจในการรักสถาบัน เช่นทีมเชียร์ ทีมกีฬา เพลงประจำโรงเรียน วงดนตรีของโรงเรียน ซึ่งตอนนี้เรายังไม่มี แม้กระทั่งชื่อโรงเรียนที่มันไม่ทันสมัย ถ้าอยากเปลี่ยนก็สามารถเปลี่ยนได้  โดยระเบียบการเปลี่ยนชื่อโรงเรียนนั้นมีอยู่แล้วไม่ใช่ ผอ. จะสามารถสั่งได้ มันจะต้องมีการสำรวจความพึงพอใจ  ฟังความคิดเห็นทั้งจากนักเรียนปัจจุบัน ศิษย์เก่า ชาวบ้านในชุมชน และบุคลากรครูในโรงเรียน เมื่อทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนชื่อ เราก็จะต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมดไปเสนอให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นขั้นตอนตามระเบียบ ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ ตนเพียงแค่แถลงนโยบายเท่านั้น ยังไม่ได้มีการสำรวจหรือทำอะไรทั้งนั้น แต่ก็มีกระแสออกมาว่าไม่อยากให้เปลี่ยน ตนก็คิดว่าหากไม่อยากให้เปลี่ยนก็จะไม่เปลี่ยน ไม่มีปัญหาอะไร เป็นเพียงการยกตัวอย่างเท่านั้น

ในเรื่องของห้องน้ำยอมรับว่าตอนนี้มีไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียนจริง สำหรับโรงเรียนเราถือว่าเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ ห้องน้ำไม่เพียงพอและไม่ถูกสุขลักษณะด้วย โดยหลายปีที่ผ่านมาทาง รร.บ้านหนองปลาดุก ไม่ได้รับงบประมาณในการสร้างห้องน้ำ  ตนก็ได้รับทราบว่าข้อมูลที่สำนักงานเขตว่าโรงเรียนบ้านหนองปลาดุกไม่ได้ขาดแคลนห้องน้ำ สาเหตุนั้นเกิดจากที่โรงเรียนยังมีห้องน้ำเก่าทรุดโทรมไม่ได้ใช้งานแต่ยังไม่ได้มีการจำหน่ายออก เมื่อไม่จำหน่ายออกข้อมูลก็ยังคงอยู่ในสำนักงานเขต เมื่อมีการจัดสรรข้อมูล ก็จะยังมีข้อมูลเดิม แต่จริงๆ แล้วห้องน้ำตามข้อมูลนั้นไม่สามารถใช้งานได้แล้ว

“ไม่อยากให้นำห้อง ผอ.กับห้องน้ำมาเปรียบเทียบกัน ผมต้องการให้เปรียบเทียบห้องน้ำในช่วงก่อนที่ผมจะมาอยู่  กับตอนที่มารับตำแหน่ง ผอ.ฯ แล้วว่ามีความเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และห้อง ผอ.ก่อนหน้าที่ผมจะมาอยู่ ต่างกันอย่างไร ตอนนี้ทางโรงเรียนกำลังของบประมาณเพื่อสร้างห้องน้ำใหม่ ซึ่งรอทางเขตพิจารณา ผมจึงต้องรีบจำหน่ายห้องน้ำที่ใช้ไม่ได้ออกก่อน เพื่อที่จะลบข้อมูลเก่าเมื่อได้รับอนุญาตให้จำหน่ายออกมันก็จะสามารถลบข้อมูลตรงนั้นได้ ทำให้อัตราการขาดแคลนก็จะขึ้นที่เขตและจะสามารถเบิกงบประมาณเพื่อสร้างห้องน้ำใหม่ได้”

นายความสุขกล่าวต่อว่า การปรับปรุงห้อง ผอ. เป็นเงินส่วนตัวของตนทั้งหมดแม้ว่าอีก 4 ปีจะเกษียณต้นก็จะไม่รื้อไปด้วย  ไม่ได้ใช้เงินของทางราชการแม้แต่บาทเดียว และตนก็ไม่ได้ปรับปรุงเพียงห้อง ผอ.ฯเท่านั้น แต่ยังปรับปรุงห้องของรอง ผอ.ด้วยเงินส่วนตัวทั้งหมด ไม่ใช้เงินราชการ

เรื่องการดื่มสุราในโรงเรียนนั้น ข้อเท็จจริงคือมีบ้างเวลามีงาน อย่างเช่นการผูกแขนรับขวัญครูบาอาจารย์ แต่ไม่ได้เป็นการดื่มในเวลาราชการ ซึ่งในเวลาปฏิบัติราชการไม่มีใครนำเหล้ามาดื่มในโรงเรียนอยู่แล้ว แต่หากมีงานมีการชาวบ้านมาขอใช้สถานที่หรือหอประชุม เราก็ยินดีที่จะให้บริการ แต่จะให้ไปห้ามว่าไม่ให้มีเหล้าในงานก็คงจะไม่ใช่ และเขาก็ไม่ได้ทำในเวลาราชการ ทำในวันหยุดเท่านั้น ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ผอ. ซื้อเหล้ามานั่งกิน ครูซื้อเหล้ามานั่งกิน ส่วนที่บอกว่าตนนั่งดื่มกับภารโรงนั้นเป็นบางครั้ง อย่างเช่นวันเสาร์ อาทิตย์ เพราะบางครั้งก็ไหว้วานชาวบ้านหรือลูกศิษย์มาช่วยกันทำโรงอาหาร เมื่อเขามาทำงานตกเย็นมา ก็ทำกับข้าวกินร่วมกัน อาจจะมีดื่มเล็กน้อยเป็นธรรมดา แต่ไม่ได้ดื่มในเวลาราชการแน่นอน

ผอ.รร.หนองปลาดุก กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากจะฝากไปถึงทางผู้ปกครองที่ไปร้องเรียน หากท่านอยากจะทราบข้อเท็จจริงอะไร เราอยู่ใกล้ๆ กันสามารถเดินเข้ามาหาเดินเข้ามาพูดคุยกัน  ตนเข้าใจว่าการทำงานอาจจะให้ถูกใจคนทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ ตนยังมีหลักการเดิมคือการพยายามทำคุณงามความดี แต่การทำความดีก็ใช่ว่าจะถูกใจทุกคน แม้กระทั่งเรื่องห้ามเด็กนักเรียนออกไปนอกโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาตเพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากเคยเกิดอุบัติเหตุกับนักเรียนมาแล้ว หลังจากนั้นตนก็ไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองนำรถเข้ามารับบุตรหลานภายในโรงเรียน แต่ให้จอดรถในซอย แล้วเดินเข้ามารับลูกหลาน ก็อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ปกครองบางท่าน ซึ่งปัจจุบันมีการวางมาตรการและจัด รปภ.คอยเฝ้าที่ประตูตลอดทั้งวัน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน