นครพนม – วันที่ 2 ก.ย.61 เวลา 12.00 น. ที่สำนักงานทนายความสมหมาย วงมะแสน ต.หนองญาติ หมู่ 6 อ.เมือง จ.นครพนม มีลูกหนี้กว่า 40 คน ของเจ้าแม่เงินกู้ เจ๊สุ นางสาวสุนภา หรือ สุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน อายุ 57 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ถนนอภิบาลบัญชา เขตเทศบาลเมืองนครพนม เดินทางมารวมตัวกันเพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี ที่กลุ่มลูกหนี้จำนวน 49 ราย รวมตัวกันแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เจ๊สุ พร้อมกับพวกรวม 4 คน ใน 3 ข้อหาคือ 1.ให้กู้ยืมเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ให้กู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินอัตรากฎหมายกำหนด และ 3.ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน นายสมหมายในฐานะทนายฝ่ายโจทก์ได้ชี้แจงว่า กลุ่มลูกหนี้ยื่นฟ้องตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.60 ศาลจังหวัดนครพนม นัดสืบพยานโจทก์และโจทก์ร่วมคือชาวบ้านผู้เสียหาย 42 ราย นัดแรกวันที่ 23-24 ม.ค.61 และนัดสืบเรื่อยมาจนเหลือพยานอีก 2 ปากสุดท้าย ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวน จากนั้นก็จะนัดสืบพยานฝ่ายจำเลย คาดว่าไม่เกินสิ้นปีนี้ศาลฯคงมีคำพิพากษา
ส่วนอีกคดีที่นางสาลิกา คนฉลาด อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 7บ้านเหล่าภูมี ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “เจ๊สุ” พร้อมกับพวกในข้อหาเบิกความเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล มีนายสมหมาย วงมะแสน เป็นทนายความอาสาว่าความให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุก”เจ๊สุ”พร้อมลูกน้องสาวผู้เป็นมือขวา เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และประกันตัวออกมาสู้คดีกันในชั้นอุทธรณ์ และเมื่อวันที่ 9 ส.ค.60 ศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น จากนั้น “เจ๊สุ”ก็ยื่นขอประกันตัวสู้ในชั้นศาลฎีกา ซึ่งนายสมหมายกล่าวว่าคดีอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของศาลฎีกา อีกไม่นานก็จะมีคำพิพากษาแน่นอน
นอกจากนี้กลุ่มลูกหนี้เจ้าแม่เงินกู้คนดังแห่งเมืองนครพนม วิงวอนให้รัฐบาลยื่นมือเข้ามาแก้ไขปัญหา เพราะนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดเป็นนโยบายหลักที่จะกวาดล้างกลุ่มนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ด้วยการหาแหล่งเงินกู้ที่คิดดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนด เพื่อนำเงินมาปลดหนี้นอกระบบ คดีที่ฟ้องร้องก็สู้กันตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนการเป็นหนี้ก็ต้องใช้แต่จะชำระตามที่เป็นหนี้จริงเท่านั้น เหตุที่เป็นคดีความเพราะนายทุนเงินกู้ ใช้เล่ห์เพทุบาย เซ็นมอบอำนาจให้ลูกหนี้ถือหลักฐานโฉนดที่ดินไปจำนองด้วยตนเอง โดยระบุตัวเงินในเอกสารรับจำนองเกินจริง มีลูกหนี้ทักท้วงก็อ้างว่าเผื่อไว้ป้องกันการฟ้องร้องในอนาคต แต่เมื่อไปชำระหนี้นายทุนดังกล่าวกลับยึดเอายอดจำนองมาอ้าง ลูกหนี้บางรายถูกฟ้องยึดที่ดิน จนถูกยึดที่ดินไปแล้วหลายราย
