X

บก.ภ.จว.นครพนม เข้ม ฝึกอบรมกรณีคนร้ายก่อเหตุด้วยอาวุธปืน Active shooter Trining รุ่น 2

นครพนม – บก.ภ.จว.นครพนม ไม่ต้องการเป็น”วีรบุรุษไร้ลมหายใจ” เข้ม ฝึกอบรมกรณีคนร้ายก่อเหตุด้วยอาวุธปืน Active shooter Trining รุ่น 2

วันที่12 มีนาคม 2563 บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม(บก.ภ.จว.นครพนม)  พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม เป็นประธานเปิดฝึกอบรมในหลักสูตรการตอบโต้สถานการณ์ กรณีคนร้ายก่อเหตุด้วยอาวุธปืน (Active shooter Trining) รุ่นที่ 2 โดยมี พ.ต.ต.นิธิศ รอดคลองตัน สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เป็นหัวหน้าชุดฝึก

พ.ต.ท.สุรศักดิ์ กิตติภัทรจรรยา สารวัตรสืบสวน สภ.นาทม ปฏิบัติราชการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม กล่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกองบังคับการตำรวจมหาดเล็ก ราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของยุทธวิธีการตอบโต้ ในกรณีผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน จึงได้มีนโยบายให้ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญ และทำหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ได้รับการฝึกฝนยุทธวิธีการตอบโต้สถานการณ์ กรณีคนร้ายก่อเหตุด้วยอาวุธปืน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ มีการพัฒนายุทธวิธีในการใช้อาวุธ ตลอดจนเรียนรู้ยุทธวิธีป้องกันตนเอง จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมในหลักสูตรแผนเผชิญเหตุ แอ็คทีฟชูตเตอร์ (Active shooter) ร่วมกับสำนักงานสอบสวนกลาง ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามแผน FBI-Alert Active Shooter Rapid Response Course ระหว่างวันที่ 17-28  กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ ค่ายนเรศวร บก.สนับสนุนทางอากาศ บช.ตชด. อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้ส่งนายตำรวจเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าว จำนวน 1 นาย คือ พ.ต.ต.นิธิศ รอดคลองตัน หรือสารวัตรเบิร์ด  สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ซึ่งมีพื้นฐานในการปฏิบัติการของ บช.ภ.4 เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อสารวัตรเบิร์ดผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรหลักดังกล่าวเสร็จแล้ว  ก็นำความรู้มาถ่ายทอดให้กับกำลังพลในสังกัด เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆตามวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป

ปัจจุบันปัญหาการก่อการร้าย และอาชญากรรมมีแนวโน้มสูงขึ้นอยู่ทุกพื้นที่ โดยผู้ก่อเหตุมีการแอบแฝงตัวในรูปแบบต่างๆ เข้ามาประกอบอาชญากรรม ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง และรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ซึ่งการก่อเหตุในบางครั้งจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาการปฏิบัติหน้าที่ หรือการตอบโต้ผู้ก่อเหตุ ส่งผลให้ผู้ปฏิบัติได้รับบาดเจ็บ บางร้ายถึงขั้นเสียชีวิต เนื่องจากขาดทักษะความชำนาญในยุทธวิธีการต่อสู้ หรือยุทธวิธีในการตอบโต้กรณีผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน

“ในการอบรมครั้งนี้มีข้าราชการตำรวจ สายงานป้องกันปราบปราม สายงานสืบสวน จากสถานีตำรวจภูธรในสังกัด 12 สถานี และกองกำกับการสืบสวน จำนวนทั้งสิ้น 115 นาย โดยอบรมทฤษฎี 1 วัน และภาคปฏิบัติอีก 1 วัน” พ.ต.ท.สุรศักดิ์ กิตติภัทรจรรยา กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าวแก่ผู้เข้าฝึกอบรมฯ (Active shooter Trining) รุ่นที่ 2 ว่า จะเห็นได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ในภาวะปัจจุบัน หากผู้ปฏิบัติขาดประสบการณ์ หรือขาดหลักยุทธวิธีแล้ว มักจะมีความเสี่ยงต่ออันตรายที่จะเกิดขึ้น เราจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องยกระดับการปฏิบัติด้านยุทธวิธีตำรวจ ให้ทันต่อสถานการณ์และอาชญากรรมในปัจจุบัน ให้เป็นไปตามหลักยุทธวิธีที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย และเป็นที่ยอมรับจากประชาชน

“การฝึกอบรมครั้งนี้ เป็นแนวทางหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพัฒนาความรู้ และเพื่อเสริมสร้างให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทราบถึงยุทธวิธีพิเศษ และเทคนิคการใช้อาวุธปืนในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การเคลื่อนที่ภายในอาคาร การเข้าตรวจค้นภายในห้อง รวมถึงการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้รักษากฎหมาย และรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชน ตลอดจนลดความสูญเสียต่อตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง จึงขอให้ท่านตระหนัก และตั้งใจฝึกนำความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” ผบก.ภ.จว. นครพนม กล่าว

จากเหตุการณ์ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิง จนมีผู้เสียชีวิต 29 ราย(ไม่นับรวมศพผู้ก่อเหตุ) บาดเจ็บอีก 58 ราย ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ดังนั้น กองบังคับการตำรวจมหาดเล็ก ราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 จึงจัดโครงการฝึกอบรมแผนเผชิญเหตุมือปืน หรือบุคคลติดอาวุธเข้ามากราดยิงในที่สาธารณะ (Active Shooter) ร่วมกับสำนักงานสอบสวนกลาง สหรัฐอเมริกา ตามแผน FBI-Alert Active Shooter Rapid Response Course ระหว่างวันที่ 17-28 ก.พ.2563 ที่ค่ายนเรศวร บก.สนับสนุนทางอากาศ บช.ตชด. อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มีข้าราชการตำรวจได้เข้ารับการฝึกจำนวน 84 นาย ทั่วประเทศ

โดยมี พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก. เป็นประธานเปิด พร้อมกับกล่าวว่า วัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของตำรวจในการรับมือกับเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิงประชาชน

“คุณจบเอฟบีไอ จบนเรศวร จบอรินทราช กระสุนมันไม่รู้หรอก เพียงแต่คุณมียุทธวิธีตรงไหนเท่านั้นเองที่จะไม่ให้กระสุนมันพุ่งเข้าหาตัวคุณ สอนให้คุณมียุทธวิธี เราไม่ได้สอนให้คุณเป็นซุปเปอร์แมนยิงไม่เข้า หลักสูตรนี้สอนให้คุณเอาชีวิตรอดกลับไปหาครอบครัวที่รัก”

พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ฯ กล่าวย้ำด้วยว่า “ตำรวจไม่มียุทธวิธีไม่ได้ ถ้ามียุทธวิธีแล้วยังเกิดการสูญเสีย ผมยังตอบลูกเมีย ตอบสื่อมวลชนได้ว่า เราได้ฝึกยุทธวิธีกันขนาดนี้เรายังสูญเสีย แล้วถ้าเราไม่ฝึกเลย เราอาจจะตายหมดก็ได้ ที่ผ่านมาเสมือนบทเรียนเป็นราคา ค่าหลักสูตร ด้วยชีวิต “วีรบุรุษไร้ลมหายใจ” นอนในโลงคลุมธงชาติหลายคน”

รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า ทุกอย่างไม่มีคำว่าสาย เราทำทุกอย่าง เรียนรู้เพื่อนำไปใช้ปกป้องชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ เมื่อเลือกที่จะเป็นตำรวจแล้วต้องพร้อมรับสถานการณ์เสมอ มันสอนให้ทุกคนเอาตัวรอด ไม่ใช่กอดกันตายในสนามฝึกไว้แล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าตอนจะใช้แล้วไม่ได้ฝึก

ซึ่งหลังผ่านการฝึกอบรม ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าวชุดแรก เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา จำนวน 40 นาย ผ่านมาอีก 1 อาทิตย์ ก็เปิดคอร์สฝึกในชุดที่ 2 และจะมีชุดที่ 3-4-5 ตามลำดับ

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน