X

มทภ.4 ติดตามเหตุปะทะที่บาเจาะ

นราธิวาส-มทภ.4 ติดตามเหตุปะทะที่บาเจาะ ยังคงใช้ความพยายามเกลี้ยกล่อมเข้ามอบตัว

วันนี้ (29 กันยายน 2564) พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การขยายผลการบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จากเหตุการณ์การปะทะในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส หลังจากที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานนาวิกโยธินกองทัพเรือได้สนธิกำลังร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดนราธิวาส (ฉก.ทพ.46) เข้าบังคับใช้กฎหมาย เพื่อกดดันกลุ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 2 อำเภอคือ อำเภอยี่งอและอำเภอบาเจาะ ภายหลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งมีหมายจับ ป.วิอาญาคดีความมั่นคงหลายคดีพร้อมสมาชิกแนวร่วมเข้ามาเคลื่อนไหวหลบซ่อนเพื่อเตรียมก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในห้วงสับเปลี่ยนกำลังของเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่หมู่ที่ 6 บ้านฮูแตยือลอ ตำบลบาเระใต้ อำเภอบาเจาะ จึงได้จัดชุดเข้าตรวจสอบจนเกิดเหตุปะทะในพื้นที่ดังกล่าว


โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำกำชับหน่วยให้ดำเนินการตามขั้นตอนการใช้กำลังอย่างเหมาะสม ดำเนินการบนพื้นฐานของหลักสิทธิมนุษยชน หลีกเลี่ยงการใช้อาวุธกับผู้ก่อเหตุรุนแรง เน้นประสานการทำงานร่วมกับผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาในพื้นที่ และญาติของผู้ก่อเหตุรุนแรง เข้าพูดคุย เจรจา เกลี้ยกล่อมให้ยอมเข้ามอบตัว เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย แม้ตลอดระยะเวลา 2 วันที่ผ่านมายังไร้วี่แววการเข้ามอบตัวของผู้ก่อเหตุรุนแรงแต่อย่างใด


พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จากเหตุปะทะในพื้นที่ที่ผ่านมา ตนเองได้สั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเหมาะสม ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง เพื่อลดการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งกำลังและอาวุธ เน้นการเจรจาพูดคุยเป็นสำคัญโดยใช้กำลังเท่าที่จำเป็น ทำความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในความจำเป็นของสถานการณ์ ที่ต้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย รวมถึงอาจมีการปิดกั้นเส้นทางเข้าออกด้วย เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติภารกิจของกำลังเจ้าหน้าที่ และสิ่งสำคัญอาศัยความร่วมมือเชิญผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาในพื้นที่ รวมทั้งญาติของผู้ก่อเหตุรุนแรง เข้าเจรจาเกลี้ยกล่อม ให้ยอมเข้ามอบตัว และให้มีการปฏิบัติอย่างรัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียของทั้ง 2 ฝ่าย


“ขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจในมาตรการการควบคุมพื้นที่และการบังคับใช้กฎหมายของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งได้ดำเนินการติดตามในทุกคดีที่เกิดขึ้น ขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนทุกคน อย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดทั้งการให้ที่พักพิง หลบซ่อน จัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งการช่วยเหลือโจรเท่ากับเป็นโจรเหมือนกัน รวมทั้งให้แจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งเบาะแสสายตรงหาแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ที่หมายเลข โทรศัพท์ 061 – 173 – 2999 หรือเบอร์สายด่วน 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน