นราธิวาส-ด่วน! พบคลัสเตอร์ใหม่ในโรงงานยางที่นราธิวาส ตรวจหาเชื้อแล้ว 90 ราย พบติดเชื้อ 34 ราย
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ Covid-19 ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็น 1 ในจังหวัดที่ต้องควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เนื่องจากยังคงมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขผู้ติดเชื้อแตะหลัก 100 กว่าติดต่อกันหลายวัน โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ 143 ราย ผู้ป่วยสะสม 4,878 ราย รักษาหายสะสม 3,465 รายและเสียชีวิตสะสม 46 ราย ซึ่งอำเภอสุคิริน ยอดผู้ป่วยรายใหม่สูงถึง 48 ราย ขณะที่อำเภอเมืองนราธิวาสตามมาติดๆ อยู่ที่ 45 ราย ส่วนอีก 10 อำเภอ พบผู้ป่วยรายใหม่ที่ส่วนใหญ่เป็นตัวเลขหลักเดียว มีเพียงอำเภอเจาะไอร้องที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่
สำหรับมาตรการของจังหวัดนราธิวาสได้จัดให้มีสถานที่ที่รองรับในการดูแลรักษาผู้ป่วย Covid-19 ในโรงพยาบาลจำนวน 3 แห่งคือ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก และ รพช.ใน จ.นราธิวาส รวมทั้งโรงพยาบาลสนามอีก 7 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลสนามศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ติดยาเสพติด จ.นราธิวาส, โรงพยาบาลสนามศูนย์พักพิงร่วมใจอุ่นไอรัก ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส, โรงพยาบาลสนามโรงยิมเนเซี่ยม มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, โรงพยาบาลสนามกองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.เมืองนราธิวาส, โรงพยาบาลสนามโรงเรียนตากใบ, โรงพยาบาลสนามโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 39 อ.ระแงะ และโรงพยาบาลสนามศูนย์แยกกักตัวในชุมชนโรงเรียนบ้านตาบา อ.ตากใบ
ขณะที่ล่าสุดพบคลัสเตอร์กลุ่มใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานในโรงงานของบริษัทยางไทยปักษ์ใต้ จำกัด สาขานราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 101/2 หมู่ที่ 11 ถนนสาธารณะประโยชน์ ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าทำการตรวจหาเชื้อไปแล้วเบื้องต้นจำนวน 90 ราย โดยพบเชื้อจำนวน 34 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดโรงงานดังกล่าวแล้ว เพื่อทำการสอบสวนโรคอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการประสานกับทางเจ้าของบริษัทแห่งนี้ ว่าจะใช้สถานที่เป็นสถานที่กักตัว Local Quarantine หรือโรงพยาบาลสนามหรือไม่อย่างไร รวมทั้งอาจจะต้องใช้มาตรการ Bubble and Seal เหมือนเรือนจำจังหวัดนราธิวาสที่ผ่านมา เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อเป็นการจำกัดและควบคุมการเคลื่อนย้าย แยกกลุ่มเสี่ยงออกมาดูแลเฉพาะไม่ให้ปะปนกับผู้อื่น
และจากการเดินทางลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าวเพื่อสังเกตการณ์ พบว่า ประตูโรงงานได้ถูกปิดไว้ มีเพียง รปภ.เพียง 1 คนที่นั่งเฝ้าอยู่ภายในป้อมยามบริเวณประตูทางเข้า โดยไม่มีผู้ใดเข้าออกภายในโรงงานแต่อย่างใด นอกจากนี้บริเวณบ้านพักคนงานที่อยู่ห่างจากที่ตั้งของโรงงานไปประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นบ้านปูน ประมาณ 20 หลังประตูบ้านทุกหลังถูกปิดไว้ มีรั้วลวดหนามกั้นไว้ภายนอก อีกทั้งมีการแขวนป้ายห้ามบุคคลภายนอกเข้าบริเวณรั้วอาคารบ้านพักของโรงงาน ทำให้บรรยากาศบริเวณแถบนั้นซึ่งเป็นป่าละเมาะเงียบเหงาเป็นอย่างมาก
