X

มทภ.4 พร้อมผู้ว่าฯนราธิวาสชี้แจงกรณีอาวุธปืนเล็กยาว ขนาด 5.56 มม. รุ่น AK 102 ของกองร้อย อส.อ.เมืองนราธิวาส สูญหาย

นราธิวาส-มทภ.4 พร้อมผู้ว่าฯนราธิวาสชี้แจงกรณีอาวุธปืนเล็กยาว ขนาด 5.56 มม. รุ่น AK 102 ของกองร้อย อส.อ.เมืองนราธิวาส สูญหาย28 กระบอก เผยยังเหลืออีก 20 กระบอกที่ต้องเร่งสะสาง

วันนี้ (3 มิถุนายน 2564) เวลา 11.00 น.ที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วยนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ร่วมแถลงข่าวกรณีอาวุธปืนสูญหายจำนวน 28 กระบอก โดยมีนายไพโรจน์  จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนนายอำเภอทั้ง 13 อำเภอและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม


พล.ท.เกรียงไกร แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา จังหวัดนราธิวาส ได้รับรายงานจากอำเภอเมืองนราธิวาสว่า ได้มีอาวุธปืนเล็กยาว ขนาด 5.56 มม. รุ่น AK 102 ของกองร้อย อส.อำเภอเมืองนราธิวาส หายไปจากคลังอาวุธ จำนวน 28 กระบอกนั้น โดยนายอำเภอเมืองนราธิวาส ได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดนราธิวาส และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้รับทราบ พร้อมทั้งได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุของการสูญหาย ซึ่งมีนายไพโรจน์ จริตงาม รอง ผวจ.นราธิวาสเป็นประธานกรรมการ โดยมีคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และปลัดจังหวัดนราธิวาสเป็นกรรมการและเลขานุการ ทั้งนี้เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จังหวัดนราธิวาสจึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจากบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มาเป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุนคณะกรรมการดังกล่าว โดยจังหวัดได้กำหนดให้ดำเนินการสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงในส่วนที่สำคัญภายใน 7 วัน และให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง


ซึ่งขณะนี้การสอบสวนได้ดำเนินการครบ 7 วัน ได้ข้อสรุปสาระสำคัญตามที่คณะกรรมการฯ ได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ ดังนี้

1.ได้อาวุธปืนกลับคืนมา และปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของหน่วยงานรัฐจำนวน 8 กระบอก ดังนี้

1.1 ตรวจสอบพบว่า มิได้สูญหายจำนวน 2 กระบอก เป็นแต่เพียงการผิดหลงทางธุรการ

1.กระบอกที่ 1 เป็นกรณีที่กรรมการปกครองได้เบิกจ่ายให้กับ กองร้อย อส.อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ไปตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2553 แต่ปรากฏเลขหมายประจำปืนมีอยู่ในบัญชีของอำเภอเมืองนราธิวาสด้วย แต่ในความเป็นจริงตัวอาวุธปืน อยู่ที่อำเภอสะบ้าย้อย ทางจังหวัดจึงได้ทำหนังสือตรวจสอบไป และได้รับการยืนยันว่า

ปัจจุบันอยู่ในความครอบครอง ดูแล และใช้ปฏิบัติภารกิจปกติ อยู่ที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา

​   2.กระบอกที่ 2 ตรวจพบว่ายังคงอยู่ในคลังอาวุธของกองร้อย อส. อำเภอเมืองนราธิวาส เป็นแต่เพียงในการตรวจนับจำนวนอาวุธปืน ของอำเภอเมืองนราธิวาส ในขั้นตอนบันทึกข้อมูลผิดหลงทำให้จำนวนขาดหายไป แต่เมื่อคณะกรรมการฯ ร่วมกับอำเภอเมืองนราธิวาสได้ตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง จึงปรากฏว่าอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว มีเลขหมายประจำปืนถูกต้องตามบัญชีข้อมูลและสภาพปกติอยู่ในคลังอาวุธปืนของกองร้อย อส.อำเภอเมืองนราธิวาส

1.2 ตรวจสอบพบว่า อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานรัฐ เนื่องจากเป็นหลักฐานเกี่ยวข้องทางคดี จำนวน 6 กระบอก โดยได้มาจากการตรวจยึดหรือจับกุมบุคคลที่ครอบครองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 6 กระบอก ดังนี้

1.กระบอกที่ 1 เป็นอาวุธปืนที่ สภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา จับกุมบุคคลได้พร้อมอาวุธปืน เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2557 ปัจจุบันอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว สภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้ตรวจยึดไว้ดำเนินคดี ส่วนห้วงเวลาของการสูญหายอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบข้อมูล

2.กระบอกที่ 2 เป็นอาวุธปืนที่ สภ.สิงหนคร จ.สงขลา จับกุมบุคคลผู้ก่อเหตุในพื้นที่ อ.สิงหนคร เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2564 ปัจจุบันอาวุธปืน สภ.สิงหนคร ได้ตรวจยึดไว้ดำเนินคดี ส่วนห้วงเวลาของการสูญหายอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบข้อมูล

3.กระบอกที่ 3 เป็นอาวุธปืนที่ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ตรวจค้นสถานที่และบุคคลเป้าหมาย เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ปัจจุบัน สภ.ระแงะ ได้ตรวจยึดไว้ดำเนินคดี ส่วนห้วงเวลาของการสูญหาย และรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบข้อมูล

4.กระบอกที่ 4 เป็นอาวุธปืนที่ สภ.เมืองนราธิวาส ทำการตรวจค้นบ้านของราษฎรที่มีอาชีพเกี่ยวกับทำประมงในพื้นที่ แล้วได้ตรวจยึดอาวุธปืนไว้เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 ปัจจุบัน สภเมืองนราธิวาส ตรวจยึดไว้ดำเนินคดี ส่วนห้วงเวลาของการสูญหายและรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบข้อมูล

5.กระบอกที่ 5 เป็นอาวุธปืนที่หน่วยทหารยึดคืนได้จากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เสียชีวิตที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จากเหตุการณ์ปะทะต่อสู้กับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ที่บังคับใช้กฎหมาย เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ปัจจุบันอาวุธปืน สภ.บาเจาะ ตรวจยึดไว้ดำเนินคดี ส่วนห้วงเวลาของการสูญหาย และรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนและตรวจสอบ

6.กระบอกที่ 6 เป็นอาวุธปืนที่ สภ.เมืองนราธิวาส ได้คืนมาจากการจับกุมบุคคลท้องที่ ต.มะนังตายอ อ.เมืองนราธิวาส พร้อมอาวุธปืน เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2560 และปัจจุบันอาวุธปืน สภ.เมืองนราธิวาส ตรวจยึดไว้ดำเนินคดี ส่วนห้วงเวลาของการสูญหายและรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบข้อมูล

อย่างไรก็ตามสรุปได้ว่ามีอาวุธป็นที่สูญหาย เพียง 26 กระบอก แต่ได้กลับคืนมาแล้ว จำนวน 6 กระบอก คงยังมีอาวุธปืนที่สูญหาย และอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการให้ได้มาจำนาน 20 กระบอก ส่วนอีก 2 กระบอก มิได้เกิดการสูญหายมาตั้งแต่ต้น เป็นแต่เพียงการผิดหลงทางธุรการของการปฏิบัติงานทางด้านธุรการ ซึ่งอำเภอเมืองนราธิวาสได้แจ้งไปยังสถานีตำราจภูธรเมืองนราธิวาสทราบแล้ว

3.สำหรับอาวุธปืนที่สูญหาย อีกจำนวน 20 กระบอกนั้น จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้ง คณะกรรมการฯ อยู่ระหว่างการสอบสวน สืบสวน ตรวจ สอบ รวบรวมข้อเท็จจริงของการสูญหายเพื่อให้เกิดความรอบคอบ ชัดเจน ถูกต้อง และประการสำคัญคือ ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องได้ใช้ความพยายามที่ จะให้ได้อาวุธปืนกลับมา เพื่อมิให้บุคคลที่มีพฤติกรรมไม่ดีนำไปใช้ก่อเหตุรุนแรง สร้างความไม่สงบเรียบร้อยหรือความวุ่นวายในสังคมได้

นอกจากนี้ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวอีกว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่คลัง การควบคุมทางบัญชี การควบคุมการเบิกจ่าย และผู้ที่รับผิดชอบ จนกระทั่งถึงผู้บังคับการกองร้อย อส.รวมถึงนายอำเภอ ถ้าสอบสวนถึงใครคนนั้นต้องรับผิดชอบ โดยบกพร่องต่อหน้าที่ บกพร่องอย่างไร ซึ่งคณะกรรมการจะต้องนำเรียนสรุปให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดถึงผลการสอบสวนเป็นอย่างไร ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำผลการสอบสวนไปขยายผลต่อไป ซึ่งวันนี้ครบรอบ 7 วันของการติดตามผลการสอบสวนแล้ว ซึ่งทราบว่าความคืบหน้าทั้ง 28 กระบอกนั้น ได้คืนมาแล้ว 2 กระบอกแรกเกิดจากการคลาดเคลื่อนทางธุรการ โดยอาวุธปืนอีก 6 กระบอกสามารถยึดได้จากผู้กระทำผิดจากคดีต่างๆส่วนอีก 20 กระบอกนั้นทางคณะกรรมการจะได้ดำเนินการสอบสวนขยายผลต่อไป​​​​

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน