X
metaverse

จินตนาการ อาชีพในยุค Metaverse อะไรรุ่ง อะไรร่วง?!

จินตนาการ อาชีพในยุค Metaverse อะไรรุ่ง อะไรรุ่งอะไรร่วง?   

เมื่ออนาคตวิ่งไล่คุณ (3)

เมื่อมีข่าวเล็ดลอดมาว่า Facebook เตรียมที่จะรีแบรนด์บริษัท พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่ เพราะทิศทางใหม่ที่ CEO Mark Zuckerberg จะเดินไปข้างหน้าคือ Metaverse!
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือการที่ Facebook ไปลงทุนใน Oculus เปิดตัวอุปกรณ์ VR

หรือล่าสุด แว่นตาที่ Facebook ร่วมมือกับ เรย์แบน จนกลายมาเป็น Ray-Ban Stories แว่นตาอัจฉริยะที่สามารถรับสายโทรศัพท์ ฟังเพลง และถ่ายภาพได้

นอกจากนั้น Facebook ยังได้ประกาศเปิดรับพนักงานกว่า 10,000 ตำแหน่งในยุโรป เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี Metaverse ให้เกิดขึ้นจริง

Mark Zuckerberg ยังเคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า  “ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า Facebook จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ “เราจะไม่ใช่แค่บริษัทโซเชียลมีเดีย แต่เราจะเป็นบริษัท Metaverse”

ประมาณ 8 เดือนที่แล้วผมได้เขียนเรื่อง   “หลับตานับถอยหลังสู่ยุค Metaverse วันที่โลกนี้ไม่ได้มีแค่ภพเดียว!“

วันนี้จะจินตนาการต่อยอด จากที่เขียนครั้งที่แล้ว ให้ลงรายละเอียดในเรื่องอาชีพมากขึ้น และบางอย่างก็อาจเห็นเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

แต่ก็ขอออกตัวก่อนว่า จินตนาการ ก็คือ “พยากรณ์” “คาดเดา” ในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น คิดจากประสบการณ์ส่วนตัวล้วน ๆ

วันข้างหน้ากลับมาอ่าน บางอย่างอาจจะใช่ บางอย่างอาจจะไม่ใช่ก็ได้ บางอย่างอาจจะทำให้หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็งเพราะผิดจากจินตนาการไปมากก็ได้

ผมจินตนาการต่อ ถึงโลก Metaverse ว่า ตื่นเช้าขึ้นมา เราต้องใส่หน้ากากVR ก่อน ในโลกยุคหน้า เราจะเห็นผู้คนใส่หน้ากาก Virtual เพื่อเข้าไปในโลกเสมือน ดังภาพประกอบบทความนี้ จากภาพยนตร์เรื่อง Ready Player One

จะเห็นว่าแต่ละคนใส่หน้ากากแบบนี้เป็นชีวิตปกติ พบเห็นได้ตามท้องถนนทั่วไป

เช่นเดียวกับสังคมก้มหน้าในปัจจุบัน ที่เรา ก้มหน้าดู Facebook , Line , Instargram , Tiktok , Youtube ผ่านสมาร์ทโฟน จนบางทีเกือบตกท่อ หรือเดินชนคนข้าง ๆ

หน้ากากครอบตา ครอบหน้า หรืออาจครอบหัว ก็แล้วแต่จะออกแบบในอนาคต จะมาแทนมือถือที่เราใช้กันในวันนี้ ตามถนนหนทางจะเห็นผู้คนใส่กันเป็นชีวิตปกติในยุคใหม่

ใครคิดว่าแปลก ก็ลองนึกถึงวันที่ไม่มีโทรศัพท์ ต้องไปโทรเลข วันที่มีแต่โทรศัพท์บ้าน

วันที่ต้องไปหาหยอดเหรียญตู้สาธารณะ

วันที่ใช้เพจเจอร์ (โทรศัพท์ติดตามตัว)

ก็จะเข้าใจว่า วันนั้นไม่มีการโทรศัพท์ถึงกันได้ ทุกสถานที่ทุกเวลา เหมือนวันนี้เช่นกัน

บัดนี้ โทรเลขหายไปแล้ว เพจเจอร์หายไปแล้ว ตู้โทรฯสาธารณะแทบหาไม่ได้ โทรศัพท์บ้านเหลือน้อยเต็มที วันข้างหน้า โทรศัพท์มือถือ ก็จะหายไปเช่นเดียวกัน

เมื่อใส่ หน้ากาก VR (ยังไม่ทราบว่าต่อไปจะมีชื่อเรียกว่าอะไร) จะปรับเป็นเห็นภาพจริงเหมือนแว่นสายตาก็ได้ , ปรับเป็นเข้าสู่โลกใหม่เป็นอีกภพหนึ่งที่มีผู้สร้างขึ้นมาก็ได้ , หรือปรับให้เห็นทั้งสองอย่างก็ได้ (Augmented Reality)

ในที่นี้จะจินตนาการถึง การเข้าสู่โลกเสมือน เหมือนเข้าไปสู่อีกภพหนึ่ง เรามีหน้าตา ตัวตนอีกแบบหนึ่งตามแต่การออกแบบ เหมือนหนังเรื่อง อวตาร หรือ Ready Player One สามารถไปตามสถานที่ต่าง ๆ พบผู้คนหลากหลายได้ คล้าย ๆ กับการเล่นเกมคอมพิวเตอร์

เริ่มจาก กิจกรรมต่าง ๆ ที่อยากทำ โดยแค่การออกเสียงสั่ง ดังนี้
“ไปหาสมชาย” เครื่องก็จะเชื่อมไปยังคุณสมชาย เหมือนโทรศัพท์หา
ถ้ารับสาย ก็จะปรากฎตัวสมชายในร่างอวตารของเขาเปิดปรากฎตัวออกมา พูดคุยราวกับเจอตัวจริงกัน แต่อยู่ในโลกเสมือน อาจจะชวนไปนั่งในบ้าน ฯลฯ

“สั่งอาหารร้าน……….” ก็จะปรากฎอวตารของร้าน ออกมารับออเดอร์
ตัดเงินดิจิทัลของเรา มาส่งให้ตามสถานที่ที่เราระบุ คล้าย ๆ ที่เรากดปุ่มสั่งไรเดอร์ จาก โทรศัพท์มือถือสั่ง UbonHero , Fast Delivery , Eatder หรือ Grab เพียงแต่ไม่ต้องกด ไม่ต้องเลื่อนหาเหมือนเดิม

“โอนเงินไปให้……” ระบบก็จะโอนเงินไปให้บัญชีที่เราต้องการ ผ่านระบบ BlockChain เร็วและง่ายเหมือนส่งสติ๊กเกอร์

“ซื้อเสื้อที่ร้าน……….” ก็จะพาเราไปที่ร้านดังกล่าว เลือกซื้อเสื้อผ้าในโลกเสมือน ลองใส่ได้ เหมือนในโลกจริง

“อยากเรียนเรื่อง……” ระบบก็จะพาเราไปพบกับอาจารย์ที่สอนเรื่องนั้น ๆ อาจจะมีทั้งฟรี ทั้งเสียเงิน นั่งเรียนเหมือนอยู่ในห้องที่มหาวิทยาลัย

“หาหมอ…..” ก็จะได้ไปพบกับหมอท่านนั้น วินิจฉัยโรคเบื้องต้น สั่งยา ได้ทุกอย่าง มีเจาะเลือด ตรวจคลื่นหัวใจ ที่ทำได้ที่บ้าน หมอก็จะวินิจฉัยและบอกวิธีการรักษา มีการตรวจเซลล์ให้ทราบว่าต้องซ่อมแซมส่วนไหนของร่างกาย ต้องเสริมด้วยยาอะไรให้ตรงกับตัวเรา

“ปรึกษากฎหมาย” สามารถปรึกษาทนายความหรือนักกฎหมายได้ อาจจะเป็นเทปบันทึก หรือปรึกษากับตัวจริงก็ได้ และจะชี้ตัวบทกฎหมายได้อย่างแม่นยำจาก Ai (Artificial Intelligence)

“ข่าววันนี้” จะมีการย่อยข่าวสรุปข่าวให้เราตามต้องการ ด้วยข้อความ ด้วยเสียง ด้วยภาพ ในโลกเสมือน

“ดูหนังเรื่อง……” เราจะดูหนังได้ในโลกเสมือน โดยไม่ต้องเปิดทีวี ไม่ต้องไปโรงหนัง ไม่ต้องเปิดมือถือ อีกต่อไป

“ร่วมการเสวนา….” จะพาเราไปเข้าห้องเสวนา ห้องประชุมตามที่ต้องการ เหมือนไปที่ห้องประชุมในโรงแรมจริง ๆ

“ไปเที่ยวที่…..” พาไปเที่ยวทิพย์ในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั่วโลก แน่นอนไม่เหมือนของจริง แต่หลายคนอาจชอบ เพราะค่าใช้จ่ายน้อยกว่า , ประหยัดเวลา , ไม่เสี่ยงโควิด ยิ่งเที่ยวกับเพื่อน ๆ หลายคนได้ ทั่วโลก เหมือนเล่นเกม ก็แปลกใหม่ไปอีกอย่าง

พอเห็นภาพคร่าว ๆ ไหมครับว่าโลกจะเปลี่ยนไปขนาดไหน กระทบอาชีพอะไรบ้างถ้าไม่ปรับตัว

นอกจากนั้นกิจการอสังหาริมทรัพย์ ที่ดินต่าง ๆ สำนักงาน จะย้ายเข้าไปอยู่ในโลก Metaverse คนจะไปจับจองที่ต่าง ๆ มากมาย เพื่อทำธุรกิจ เพื่อการกุศล ฯลฯ
รัฐบาลจะถูก Disrupt เข้าไปควบคุมได้ยาก

อาชีพที่ไม่ปรับตัวจะเกิดผลกระทบน่าจะเป็น ธนาคาร , ทุกธุรกิจค้าขาย , แพทย์ , นักกฎหมาย , สื่อมวลชน , สถาบันการศึกษา , ห้างสรรพสินค้า , ภาพยนตร์ , โรงแรม , อสังหาริมทรัพย์ , บุคลากรทางศาสนา , ข้าราชการ , การท่องเที่ยว

นึกเร็ว ๆ ก็ได้ประมาณนี้ ช่วยกันคิดต่อ หน่อยครับ

ส่วนโอกาสทางธุรกิจ น่าจะเป็นของ กราฟฟิคดีไซน์เนอร์ , คนออกแบบโปรแกรม , เจ้าของแพลตฟอร์ม , นักธุรกิจที่ปรับตัวเร็ว , คนขายอุปกรณ์

ข้อมูลล่าสุด สถิติจาก we are social ใน Quarter สุดท้ายของปี 2564 มีคนไทยใช้ facebook จำนวน 50 ล้านคน
เป็นอันดับ 8 ของโลก คิดว่าเมื่อ Metaverse เกิดขึ้น น่าจะมีคนไทยใช้ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน และน่าจะมากขึ้นด้วยซ้ำ

คิดว่าอีกไม่กี่ปีเราจะได้เห็นแน่ ๆ ที่เชื่อว่าจะได้รับความนิยมเพราะ ความโลภ ความโกรธ ความหลงของคน โดยเฉพาะช่วงแรก ๆ เข้าไปในนั้นแล้วซื้อของถูก มีตัวตน หารายได้ง่าย สนองกิเลสของเรา ได้เพื่อน ได้สนุก ได้เห็นของสวยงาม ได้ยินเสียงเพราะ ๆ ตื่นตาตื่นใจ แตกต่างจากโลกจริงที่เราอยู่
ทำอะไรที่ในโลกจริงทำไม่ได้ ธรรมชาติคนเราก็ชอบหนีจากความจริงอยู่แล้ว

ขอส่งท้ายด้วยประโยคเด็ดของ เจมส์ ฮัลลิเดย์ ผู้สร้างโลกเสมือน The Oasis ในภาพยนตร์ Ready Player One ว่า
“ฉันกลัวมาตลอดชีวิต กระทั่งวันที่ฉันรู้ว่าชีวิตใกล้สิ้นสุด นั่นแหละฉันจึงคิดได้ว่า ถึงแม้มันจะน่ากลัวและเจ็บปวดยังไง โลกความจริง ก็เป็นสถานที่เดียว ที่เราจะได้กินอาหารดี ๆ เพราะว่า โลกความจริง นั้นก็คือ “ความจริง””

หวังว่าเราจะไม่หลงใน “โลกเสมือน” จนลืม “โลกจริง”

เหมือนที่เราเสียท่าให้แก่ Algorithm ของ social media ต่าง ๆ มาแล้ว ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว

เช่น
คิดว่า เราคิดถูกเพราะคนอื่น ๆ คิดเหมือนเราทั้งนั้น (Echo Chamber)
ถูกฟองสบู่บาง ๆ ขังเราเอาไว้ด้วยชุดความคิดของเราอย่างเดียว (filter bubble)
เห็นความเท็จ เป็นความจริง (Fake News, Misinformation & Disinformation)
เป็นเหยื่อการแพร่ระบาดของข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง (Infodemic)

อย่าหลง ความปลอมที่ฉาบฉวย จนลืม ความจริงที่งดงาม ครับ

สุชัย เจริญมุขยนันท UbonConnect
25-10-64

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สุชัย เจริญมุขยนันท

สุชัย เจริญมุขยนันท

นิเทศศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หลักสูตรโปรดิวเซอร์ เนชั่น วิทยากรพิราบน้อย โครงการเผยแพร่ความรู้ทางวิทยุ มูลนิธิหมอชาวบ้าน วิทยุเนชั่น ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยประจำจงอุบลราชธานี ผู้จัดการศูนย์ข่าวประชาสังคมอุบลราชธานี ปัจจุบัน เลขาธิการมูลนิธิสื่อสร้างสุข ผู้อำนวยการทีวีชุมชนอุบลราชธานี E : [email protected] F : ทีวีชุมชนอุบลราชธานี T : 0818786440 LINE : SUCHAINEWS