X

เพชรบูณ์-กมธ.ที่ดินฯ/ปปช.พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ติดตามแก้ปัญหาที่ดินป่าโคกตาด

เพชรบูรณ์-กมธ.ที่ดินฯ/ปปช.พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ติดตามแก้ปัญหาที่ดินป่าโคกตาด อ.เมืองฯ หลังผลรังวัดที่ดิน นสล.ที่ 159 พบออกนอกกรอบ 10,000 ไร่

วันที่ 23 ตุลาคม นายอภิชาติ ศิริสุนทร ประธาน กมธ.ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติฯ,นายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษก กมธ.ปปช., นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล และนายทวีศักดิ์ ทักษิณ 4 ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลพร้อมคณะ ลงพื้นที่ตำบลป่าเลา อ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อติดตามและพบปะชาวบ้าน ต.ป่าเลาและ ต.นางั่วที่ได้รับผลกระทบการแก้ปัญหาที่ดินแปลงป่าโคกตาด ซึ่งทางราชการออกหลักฐาน นสล.ที่ 159 เนื้อที่ 1,977ไร่เศษ นอกกรอบที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งเลี้ยงสัตว์ป่าโคกตาด 10,000 ไร่ กระทั่งไปทับที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน จนถูกดำเนินคดี 26 รายและศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกและขับไล่ โดยชาวบ้านได้พยายามต่อสู้มาโดยตลอดว่า นสล. เลขที่ พช.159 ดังกล่าวมีการออกโดยมิชอบ

นายชูชาย บุญรอด ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า หลังจากทางกรมที่ดินได้ดำเนินการรังวัดที่ดินแปลง นสล.ที่ 159 ตามคำเรียกร้องของชาวบ้าน ปัจจุบันได้รับแจ้งผลการรังวัดแล้วว่า แนวเขตมีความคาดเคลื่อน และอยู่นอกกรอบที่ดินสาธาณประโยชน์แปลงป่าโคกตาด 10,000 ไร่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการเพิกถอนตามระเบียบกฎหมายที่ดิน จากนั้นชาวบ้านก็จะนำผลการพิจารณาเพิกถอนที่ดิน นสล.ที่ 159 ดังกล่าว ยื่นต่อศาลเพชรบูรณ์ หลังจากทางศาลเพชรบูรณ์เลื่อนการไต่สวนไปเดือนเมษายนปี 2566 หลังทางอำเภอเมืองและเทศบาลตำบลนางั่ว ฟ้องบังคับคดีขับไล่ชาวบ้านออกจากที่ดินดังกล่าว

นายชูชายกล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้ากรณีที่ชาวบ้านยื่นร้องต่อศาลปกครองล่าสุดศาลปกครองสั่งให้ทางสำนักงานบังคับคดีลงพื้นที่ตรวจสอบ และให้นายอำเภอเมืองรายงานว่า 66 รายที่ไปฟ้องศาลเป็นใครทำไมไม่ทำอะไร และชาวบ้านชุดใหม่ 40 กว่ารายที่ถูกดำเนินคดีมาอย่างไง

นายธีรัจชัย พันธุมาศ กล่าวว่า ในอีกราว 3 สัปดาห์จะเชิญทางจังหวัดและทางกรมที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบไปรายงานต่อ กทธ.ปปช.อย่างเป็นทางการ ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับกระทบก็จะได้นำผลการตรวจสอบรังวัดที่ดิน นสล.ที่ 159 ที่คาดเคลื่อนเพื่อใช้เป็นหลักฐานนำไปขึ้นศาล เพื่อขอรื้อฟื้นคดีที่ชาวบ้านถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์แปลงนี้ขึ้นมาใหม่

นายอภิชาต สิริสุนทร กล่าวว่า เรื่องนี้คิดว่ายังไม่จบง่าย และต่อไปต้องพูดกันเรื่องสิทธิที่ชาวบ้านกลุ่มนี้จะได้รับต่อไป แม้จะกันแนวเขตออกแล้วก็ใช่ว่าจะได้รับสิทธิเพิ่ม และจะไม่ใช่ที่ดินสาธารณประโยชน์อีกต่อไป โดยสถานะอาจจะเป็นป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ก็ได้ ก็อาจต้องสู้ต่อให้มีการพิสูจน์สิทธิ ปัญหาเรื่องการนำที่ดินสาธารณะไปออกโฉนดโดยมิชอบ โดยมีกลุ่มทุนและมีผู้หลักผู้ใหญ่ได้ประโยชน์ ปัญหาคือรัฐมีนโยบายทวงคืนเกิดปัญหาำปไม่เป็น ทำให้มีการขยับแนวเขตกระทั่งไปทับที่ดินประชาชน เพื่อเอาตัวรอดให้มีเนื้อที่ครบตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ก่อน จึงเป็นปัญหาในระบบราชการ

“หลังจากมีการสรุปแนวเขตที่ดินแปลงนี้ชัดเจนแล้ว ต้องมีการรังวัดและเพิกถอนจะเป็นกฤษฎีกาหรือกฎหรือกฎกระทรวงอะไรก็ตามแต่ ขั้นตอนต่อไปชาวบ้านต้องทวงสิทธิรวมรวมข้อมูลไว้ เพราะเดี่ยวอาจจะต้องเจอข้ออ้างข้อกฎหมายต่างๆ ตามมาอีก”นายอภิชาติกล่าว…

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน