เพชรบูรณ์-ตัวแทน 4 ตำบลเขาค้อ ยื่นจดหมายเปิดผนึกพร้อมให้กำลังใจผู้ว่าฯ หนุนเดินหน้าแก้ปัญหาที่ดินเขาค้อ ด้านพ่อเมืองฯยันไม่มีวาระซ่อนเร้น (ชมคลิป)
วันที่ 20 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าของรีสอร์ทชื่อดังที่ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ ขึ้นป้ายต่อต้านการแปลงป่าสงวนเป็นที่ราชพัสดุ ล่าสุดเวลา 09.00 น. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ กลุ่มประชาชนชาวเขาค้อซึ่งอ้างเป็นตำแทน 4 ตำบลได้แก่ ต.เขาค้อ ต.สะเดาะพง ต.ริมสีม่วงและต.หนองแม่นา จำนวนราว 30 คน นำโดยนางบุปผา จันทร์เพ็ง ประธานชมรมคนรักเขาค้อ ได้เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจกับนายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติ ที่กองทัพภาคที่ 3 ส่งคืนกรมป่าไม้ พร้อมยื่นหนังสือเปิดผนึกสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่ดิน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดยนางจันทร์เพ็ญ ระบุว่า ชาวเขาค้อใน 4 ตำบลอยู่ในพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งข้อเท็จจริงประชาชนบนเขาค้อขึ้นไปอยู่บนเขาค้อตั้งแต่ปี 2520 ป่าสงวนเพิ่งประกาศเมื่อปี 2529 ทับที่ดินชาวบ้านอีกทีหนึ่ง จึงยืนยันว่าชาวเขาค้อทั้ง 4 ตำบลไม่ใช่ผู้บุกรุกป่า ตลอดเวลาเป็นความทุกข์ของชาวเขาค้อ ผู้ว่าฯตั้งแต่นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ มาถึงนายกฤษณ์ คงเมือง พยายามจะแก้ไขปัญหา โดยร่วมกับหัวหน้าส่วนเพชรบูรณ์ ทั้งป่าไม้ ทสจ.,ทหาร, ตำรวจ ฯลฯ ในขณะที่ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการรับฟังการแก้ไขปัญหา
“โดย 3 แนวทางที่นำเสนอไปแล้วทั้ง คทช. การขอใช้ตามมาตรา 16 และการเป็นที่ราชพัสดุ ขอให้ดำเนินการต่อไป แต่หากข้อใดเดินไปไม่ได้ก็หาช่องทางใหม่ ตอนนี้ประชาชนมีข้อมูลมีมติ ครม.วันที่ 25 มกราคม 2528 ที่ให้เปิดป่าผืนใหญ่ตั้งแต่ทุ่งสมอ สะเดาะพง หนองแม่นา ให้จัดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินและได้รับอนุญาตให้จัดที่ดินมาแล้ว ฉะนั้นหากคทช.ไปไม่ได้ การขอใช้ที่ดินตามมาตรา 16 มีปัญหา ที่ราชพัสดุไปไม่ได้ ให้หยิบมติครม.มาแก้ไขต่อ หากยังไปไม่ได้ขอหาช่องทางอื่นไปเรื่อยๆ ขอเพียงผู้ว่าฯ คณะกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดอย่าได้ท้อแท้ อย่าหวั่นไหว ขอให้เอาวิกฤติมาเป็นโอกาสเป็นพลังเพื่อสู้ต่อไป”นางบุปผากล่าว
ในขณะที่นายกฤษณ์ได้กล่าวแสดงความขอบคุณพร้อมชี้แจงว่า ผู้ว่าฯที่ผ่านมาทุกท่านมองปัญหาและจัดปัญหาเขาค้อเป็นอันดับ 1 ของจ.เพชรบูรณ์ ยืนยีนว่าแม้ช่องทางที่นำเสนอไปแล้วจะติดขัด ถ้ามีช่องทางอื่นหรือช่องทางที่ไปพบหลักฐานใหม่ขึ้นมาให้รีบนำเสนอ เพื่อจะนำไปสนับสนุนแนวคิดในการแก้ปัญหา ปัจจุบันมีการดันเรื่องไปถึง คทช. โดยคณะทำงานแก้ไขปัญหากำลังจะออกมาดูพื้นที่ เพื่อหาทางสนับสนุนแนวทางของจังหวัดในราวเดือนนี้ เมื่ออีกด้านทราบข้อมูลเลยมีการขึ้นป้ายดิสเครดิสจังหวัดและพวกเราด้วย ก็ขอให้สบายใจทางจังหวัดไม่ท้อถอยและไม่หวั่นไหวต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อไปพาดพิงถึงผู้ใหญ่ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะดำเนินการอย่างไร
“ด้วยความบริสุทธิ์ใจขอยืนยันตรงนี้ว่าผมและอดีตผู้ว่าฯหลายท่าน ไม่มีวาระแอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้นเจตนาคือให้เพชรบูรณ์เดินไปข้างหน้าให้ได้ ทั้ง ด้านความเดือดร้อนของประชาชนปัญหาเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว”นายกฤษณ์กล่าว
ทั้งนี้สำหรับเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกจากชาวเขาค้อ โดยสรุปนอกจากให้กำลังผู้ว่าฯ ในการแก้ไขปัญหาที่ดินเขาค้อที่สั่งสมมานานเกือบ 40 ปีแล้ว ยังอ้างมติ ครม.วันที่ 25 มกราคม 2518 ให้จัดที่ดินแปลงใหญ่สองข้างทางให้แก่ชาวบ้าน แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังมิได้ดำเนินการ ให้แล้วเสร็จตามประมวลกฎหมายที่ดิน ก่อนที่จะประกาศเป็นเขตป่า สงวนเขาปางก่อ-วังชมภูทับที่ทำกินเดิมของชาวบ้าน และหน่วยงานราชการทั้งหมดในพื้นที่ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2529 กรมป่าไม้มิได้กันพื้นที่ออกก่อนประกาศ ทำให้ชาวบ้านและหน่วยราชการอยู่แบบผิดกฎหมาย ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าคนเขาค้อบุกรุกป่าสงวน และถูกดำเนินคดีตามที่มีผู้ไม่หวังดีแจ้งร้องทุกข์กล่าวโทษมาตลอด ชาวเขาค้อจึงขอให้ผู้ว่าฯแก้ไขแก้ปัญหาป่าสงวน ที่กองทัพภาค 3 ส่งกลับคืนกรมป่าไม้ นำเสนอความต้องการของคนเขาค้อในประเด็นนี้ และช่วยผลักดันการแก้ไขที่ดินในพื้นที่ตามมติครม. 18 มกราคม 2518 ตามสิทธิของคนในชุมชนนี้ด้วย
