เพชรบูรณ์-จนท.ลุยฝ่าลมฝน-หมอก ปิดคำสั่ง คสช. ให้รื้อเองอีก 3 รีสอร์ทภูทับเบิก เหลืออีกรายเดียวรอพนักงานอัยการสั่งฟ้อง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ส.ค.61 คณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ภูทับเบิก ประกอบด้วยป่าไม้, ฝ่ายปกครอง, ตำรวจ, ทหารในพื้นที่ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ นำโดยนายชิต อินทรนก ป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ ลงพื้นที่ภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า เพื่อทำการปิดประกาศคำสั่งหน.คสช.ที่ 35/59 ให้ 3 รีสอร์ทได้แก่ ภูข้าวฟ่าง,ชิลล์แลนด์,ภูการ์เด้นท์ ทำการรื้อถอนบ้านพักตากอากาศและอาคารสิ่งปลูกสร้างเอง หลังจากทางพนักงานอัยการหล่มสักมีสั่งฟ้องรีสอร์ททั้ง 3 รายหลังถูกเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมในข้อหาบุกรุกป่า โดยในคำสั่งดังกล่าวแจ้งให้รีสอร์ทเหล่านี้รื้อถอนสิ่งปลูกเองภายใน 30 วัน และแจ้งเตือนอีก 7 วัน หากยังเพิกเฉยทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินรื้อถอนให้และคิดค่าใช้จ่ายทางรีสอร์ทในภายหลัง
ทั้งนี้ระหว่างคณะเจ้าหน้าที่ทำการปิดคำสั่งรีสอร์ททั้ง 3 แห่ง ปรากฏว่ามีฝนตกและลมพัดแรง ขณะเดียวกันยังมีหมอกลงหนาทึบอีกด้วย จนทำให้คณะเจ้าหน้าที่ต้องฝ่าลมฝนและหมอกไปทำการปิดคำสั่งดังกล่าว อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังเหลือรีสอร์ทบ้านกลางหมอกอีกเพียงแห่งเดียว ที่อยู่ระหว่างรอพนักงานอัยการหล่มสักมีคำสั่งฟ้อง จากนั้นจะเข้าสู่ขบวนการปิดคำสั่ง หน.คสช.ที่ 35/59 เพื่อให้ทำการรื้อถอนเองเช่นเดียวกับรีสอร์ทอื่นๆที่ถูกจับกุมดำเนินคดีก่อนหน้านี้
ข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ พ.อ.พงษ์เพชร เกษศุภะ หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน. นำคณะเจ้าหน้าที่ป่าไม้,พม.จังหวัด,ทหาร ตรวจสอบรีสอร์ทบนภูทับเบิก โดยพบว่ามีรีสอร์ทที่ถูกยึดคืนพื้นที่และทุบรื้ออาคารสิ่งปลูกสร้างไปแล้ว หลังจากศาลมีคำพิพากษาสิ้นสุด และยังสั่งให้ผู้ประกอบการและบริวารออกจากที่เกิดเหตุ แต่ภายหลังมีผู้กลับเข้ามาทำประโยชน์ในที่ดินแปลงดังกล่าวอีก นอกจากนี้ยังพบรีสอร์ทบางส่วนมีการก่อสร้างอาคารห้องพักเพิ่มเติมใหม่ รวมทั้งมีการต่อเติมบ้านพักตากอากาศที่สร้างคั่งค้างจนเสร็จสิ้นจำนวนกว่า 10 แห่ง ล่าสุดยังไม่มีความชัดเจนว่าทางคณะกรรมการแก้ไขปัญหาภูทับเบิกจะดำเนินการอย่างไร หลังพบรีสอร์ทเหล่านี้มีการฝ่าฝืนหรือขัดคำสั่งเจ้าพนักงานและคำสั่งศาลอีกด้วย
