อีเอ เปิดตัวรถยนต์เอนกประสงค์ 5 ที่นั่ง SPA1 ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ทุกชิ้นส่วนผลิตขึ้นในประเทศคันแรก ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล ครั้งที่ 40 มอเตอร์โชว์ 2019 หลังเตรียมผุดโรงงานเปิดสายการผลิตที่ จ.ฉะเชิงเทรา ในช่วงปลายปีนี้ด้วยสนนราคาเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาทเศษ พร้อมเอาใจลูกค้าให้เลือกเฉดสีได้ตามความต้องการ
วันที่ 26 มี.ค.62 เวลา 11.30 น. นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารในกลุ่มอีเอ (E@) ผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงานทดแทน กล่าวเปิดเผยว่า ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 40 (2019) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มี.ค.62 – 7 เม.ย.62 ที่เมืองทองธานี ได้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเอนกประสงค์ แบบ 5 ที่นั่ง “MINE Mobility” รุ่น สปาวัน (SPA1) มาจัดแสดงสินค้าในงานดังกล่าวด้วย
โดยจะเปิดให้ลูกค้าผู้สนใจยานยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทนจองสิทธิ์ในการซื้อเป็นครั้งแรกในประเทศ ในราคาเริ่มต้นที่คันละประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งรถยนต์เอนกประสงค์รุ่นนี้ผลิตขึ้นภายในประเทศไทยโดยฝีมือคนไทย ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าของบริษัทไมน์ โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น จำกัด และเตรียมที่จะก่อตั้งโรงงานและสายการผลิตขึ้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มทำการผลิตได้ในช่วงไตรมาตรที่ 3 ของปีนี้
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าไมน์ (MINE) รุ่น สปา1 (SPA1) นี้ถูกแบบโดยฝีมือคนไทยตัวถังผลิตจากอลูมิเนียมไม่เป็นสนิม และชิ้นส่วนประกอบผลิตจากพลาสติกแข็งใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน สามารถใช้เดินทางได้ประมาณ 200-250 กม. ต่อการชาร์ทไฟฟ้า 1 รอบชาร์ท ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ขนาด 95 กิโลวัตต์ 127 แรงม้า สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 140 กม./ชม. และประหยัดพลังงานได้มากถึง 1 ใน 5 ของเงินที่ใช้ในการเติมน้ำมันหรือประมาณ กม.ละ 50-60 สตางค์เท่านั้น
ถือเป็นนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงของคนไทยคันแรก ที่จะนำออกมาจำหน่ายเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งหากลูกค้าสนใจที่จะลงชื่อจองรถยนต์ไฟฟ้า MINE รุ่น SPA1 ภายในงานนี้ จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าที่สั่งจองไว้ได้ ในช่วงสิ้นปี2562 นี้เช่นเดียวกัน
ส่วนการดำเนินการก่อสร้างโรงงานนั้น เราได้พยายามที่จะเลือกเข้าไปก่อตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างไฮเทค จึงได้ดูสถานที่เอาไว้หลายแห่ง เนื่องจากเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ในกระบวนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ MINE นั้นเป็นเทคโนโลยีใหม่ จึงต้องการที่จะเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีบรรยากาศที่ดีเหมาะสมกับคำว่าไฮเทค เพื่อที่จะสามารถได้บุคคลากรที่ดีเข้ามาร่วมงาน ที่ผ่านมาได้มีการเจรจากันไว้และยังรอทางอีอีซีด้วย นายสมโภชน์ กล่าว
และกล่าวต่อว่า ในวันนี้ได้มีการลงนามความร่วมมือ หรือทำเอ็มโอยู (MOU) ร่วมกันกับสมาคมแท็กซี่ ซึ่งมีความสนใจที่จะนำเอารถยนต์ของเรา จำนวนประมาณ 3,500 คัน ไปทำรถแท็กซี่อีวี ซึ่งจะช่วยลดมลพิษและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ขับรถแท็กซี่ด้วย นายสมโภชน์ กล่าว
