X
รพ.สนามชนาดใหญ๋

เดินหน้า ผุด รพ.สนามแห่งที่ 3 อบจ.แม่ทัพหลักโยกงบ 12 ล้านแก้วิกฤตขาดเตียง

ฉะเชิงเทรา – เดินหน้า ผุด รพ.สนามแห่งที่ 3 ใน จ.ฉะเชิงเทรา อบจ.แปดริ้ว แม่ทัพหลักโยกเงินจากหลายโครงการที่จัดขึ้นไม่ได้ในช่วงโควิด 19 ระบาด หันมาอุดหนุนงานด้านการปรับปรุงพื้นที่พร้อมเร่งสร้างเตียงสนามเสริมให้ทันต่อสถานการณ์การระบาดของโรคที่ยังรุนแรงต่อเนื่อง 12 ล้านบาท ขณะพ่อเมืองเดินสายสร้างความเข้าใจ ปชช. หลังบังคับใช้กฎเข้มล็อคพื้นที่วันแรก

วันที่ 12 ก.ค.64 เวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าในการเร่งปรับปรุงพื้นที่เพื่อสร้าง รพ.สนามแห่งที่ 3 ใน จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งถือเป็น รพ.สนามขนาดใหญ่ ที่สามารถรองรับผู้ป่วยได้มากสูงสุดถึง 2 พันเตียงว่า มีความคืบหน้าไปมากแล้วหลังจาก นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้ปรับโยกเงินงบประมาณที่เคยใช้ในการจัดฝึกอบรมตามโครงการต่างๆ ซึ่งเคยกระทำมาในทุกๆ ปีช่วงไม่มีการระบาดของโรคโควิด 19 จำนวน 12 ล้านบาท

โยกงบมาทำ

เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงสถานที่ภายในบริเวณโกดังสินค้าเทกองของท่าเรือสินค้าเอกชนใน อ.บ้านโพธิ์ ริมแม่น้ำบางปะกงที่เสนอยินยอมให้ทาง จ.ฉะเชิงเทรา ใช้ในการจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่ และเป็น รพ.สนามแห่งที่ 3 ของ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยการนำเครื่องจักรกลงานหนักเข้าไปทำการปรับปรุงพื้นที่ และจัดสร้างเตียงผู้ป่วยชั่วคราวขึ้นมาอีกอย่างน้อย 500-1,000 เตียง

แม่ทัพหลัก

โดยนายกิตติ ระบุว่า โรงพยาบาลสนามที่กำลังเข้ามาปรับปรุงพื้นที่แห่งนี้ มีขนาดพื้นที่ 12,000 ตารางเมตร อยู่ห่างจากชุมชนสามารถรองรับผู้ป่วยเบื้องต้นได้มากถึง 500 -1,000 เตียง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับผู้ป่วยโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้ได้ส่งทีมกองช่างเข้ามาทำการสำรวจสถานที่ เพื่อเตรียมการติดตั้งระบบไฟฟ้า น้ำประปา ห้องน้ำ และระบบการสื่อสารให้แก่ รพ.สนามแห่งนี้

เตรียมพร้อมรับมือผู้ป่วย

ในส่วนของการปรับปรุงพื้นที่ได้เข้ามาสนับสนุนเครื่องจักรกลงานหนัก คนงาน และเงินงบประมาณในการเข้ามาปรับเกรดเกลี่ยหน้าดินบดอัดพื้นที่ การจัดสร้างเตียงสนาม ตามระเบียบที่สามารถนำเงินงบประมาณมาใช้จ่ายได้ โดยเป็นการโยกเงินงบประมาณมาจากหลายกอง ที่เคยใช้ในการจัดฝึกอบรมตามโครงการต่างๆ ที่ไม่สามารถจัดขึ้นได้จากการระบาดของโรคโควิด 19 นำมาสนับสนุนเป็นเงินประมาณ 12 ล้านบาท นายกิตติ ระบุ

แก้วิกฤตขาดเตียง

ขณะเดียวกัน นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจต่อประชาชน หลังจากทาง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีการประกาศใช้มาตรการควบคุมโรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ขอความร่วมมือจากประชาชนไม่ออกจากบ้านช่วงเวลา 23.00 น.ถึง 04.00 น. ของวันถัดไปยกเว้นมีเหตุจำเป็น

โกดังสินค้าท่าเรือบ้านโพธิ์

เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เป็นเวลา 14 วันระหว่างวันที่ 12 – 25 ก.ค.64 ยังภายในร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในจังหวัด ร้านค้าในตลาด ร้านค้าแผงลอย และห้างสรรพสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าผู้ประกอบการต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยพบว่าภายในร้านได้มีการปรับลดจำนวนเก้าอี้ลงเพื่อเว้นระยะห่าง มีจุดบริการวัดอุณหภูมิและเจลล้างมือ พนักงานในร้านทุกคนสวมหน้ากากอนามัย

รับพื้นที่

ซี่งในขณะที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมภายในตลาดทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ผู้ค้าได้ร้องขอผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ช่วยเจรจาขอลดราคาค่าเช่าแผงลงบ้าง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบของโรคระบาดโควิด 19 ด้วย เนื่องจากไม่มีลูกค้าเข้ามาจับจ่ายในตลาด จึงทำให้รายได้ลดลงไปมากกว่าครึ่ง ก่อนที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมตามห้างสรรพสินค้า และด่านตรวจคัดกรองโรคโควิด 19

ลงพื้นที่ทำความเข้าใจ ปชช.

ยังที่บนถนนสุวินทวงศ์ด้านฝั่งขาเข้ามาจากพื้นที่ กทม. ใน ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา และด่านบนถนนสาย 314 ฉะเชิงเทรา–บางปะกง หน้าปั๊มน้ำมันบางจาก ใน อ.บ้านโพธิ์ ก่อนที่จะมอบนโยบายให้แต่ละด่าน สกัดรถขาเข้าที่มาจากกรุงเทพ และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด โดยแนะนำว่า ควรมีหน่วยหน้าด่านในการสื่อสาร เมื่อพบเห็นยานพาหนะคันใดขับมาผิดสังเกต

ผู้ค้าให้ความร่วมมือดี

หรือมีแผ่นป้ายทะเบียนที่มาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด ให้เรียกตรวจ และเมื่อพบว่ามาจากพื้นที่เสี่ยงให้สอบถามถึงภารกิจรวมถึงการฉีดวัคซีน และขอให้แสกนการรายงานตัวการเข้าพื้นที่ผ่านทางคิวอาร์โค้ด โดยใช้ความระมัดระวังและคำนึงถึงความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยไม่ให้กระทบต่อการสัญจรไปมาของประชาชนในเส้นทางด้วย

เดินตลาด

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้การระบาดของโรคโควิด 19 ใน จ.ฉะเชิงเทรา ยังคงมีอัตราการระบาดค่อนข้างสูงโดยทีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวน 97 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 6,718 ราย เสียชีวิต 30 ราย  จากการระบาดระลอกแรก 21 รายเสียชีวิต 1 รายระลอกสอง 28 ราย และระลอกล่าสุด 6,669 ราย เป็นผู้ป่วยภายในจังหวัด 4,073 ราย เข้ามาทำการรักษาจากนอกพื้นที่ 630 ราย ผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 2,596 ราย เสียชีวิตในเรือนจำ 2 ราย เสียชีวิตนอกเรือนจำ 27 ราย

ให้นโยบายด่านตรวจ

ติดเชื้อเพิ่ม 12 ก.ค.64

เร่งผุดโรงพยาบาลสนาม ให้ทันรับมือ 2 พันเตียงหลังคลัสเตอร์ใหญ่จ่อทะลักจาก รง.

ตื่นกระแสวอล์กอิน รับวัคซีนที่ รพ.ดังแปดริ้ว สุดท้าย ปชช.ผิดหวังตามกัน

ตื่นกระแสวอล์กอินรับวัคซีนที่ รพ.ดังแปดริ้ว สุดท้ายผิดหวังเป็นเพียงเปิดรับลงทะเบียนไว้เท่านั้น

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน