X
หนูน้อยผู้ต้านทานโรค

หนูน้อยปอดเหล็ก อยู่กับผู้ป่วยโควิดนานนับเดือนแต่กลับไม่พบอาการใด ๆ ในร่างกาย

ฉะเชิงเทรา – หนูน้อยปอดเหล็ก กินนอนอยู่กับผู้ป่วยโควิด 19 มานานแรมเดือนแต่กลับไม่พบอาการที่ส่งผลกระทบทำให้ร่างกายระคายเคืองใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งที่ผู้คนรอบข้างล้วนมีอาการป่วยด้วยกันทั้งครอบครัวอย่างถ้วนหน้า และรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต แต่เจ้าตัวเล็กจอมแกร่งกับร่าเริงวิ่งเล่นได้อย่างปกติ ตามประสาวัยซนตลอดทั้งวัน ทำหลายฝ่ายงุนงงและยากเกินจะอธิบายได้อย่างแน่ชัด ถึงความทรหดต่อโรคร้ายนี้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ท่ามกลางวิกฤติการระบาดของโควิด 19 ที่ยังคงรุนแรงต่อเนื่องในสังคม

วันที่ 19 พ.ค.64 เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยเรื่องราวประหลาดสุดน่าทึ่งจาก น.ส.พัชมน ธนรุ่งวิทย์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/61/1 ม.1 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ป่วยด้วยโรคโควิด 19 ที่ได้รับการรักษาจนหาย และทางแพทย์ได้อนุญาตให้กลับมาพักที่บ้านได้แล้วว่า น้องแอล หลานสาววัย 2 ขวบ 4 เดือน ซึ่งเป็นบุตรของน้องสาวคนสุดท้องวัย 43 ปี ที่ป่วยด้วยโรคโควิด 19 ด้วยเช่นกัน จากการมีอาชีพเป็นผู้ช่วยพยาบาลในสถานพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

กลับมาบ้านแล้ว

ก่อนที่จะนำเชื้อกลับมาแพร่สู่คนในบ้าน จนทำให้ติดเชื้อกันหมดทั้งครอบครัวรวม 5 คน และยังทำให้ น.ส.แสงเงิน ธนรุ่งวิทย์ อายุ 76 ปี ผู้เป็นมารดาเสียชีวิตลงจากการติดเชื้อโรคโควิด 19 ในครั้งนี้ไปด้วยนั้น แต่กลับมีหลานสาวซึ่งยังอยู่ในวัยไร้เดียงสา ในขณะที่ทุกคนป่วยกันทั้งบ้านจึงทำให้ไม่มีคนดูแล จึงต้องนำไปกินนอนอยู่ด้วยยังที่ รพ.บางน้ำเปรี้ยว พร้อมกันกับตน น้องสาวคนรองวัย 48 ปี และผู้เป็นมารดาวัย 76 ปี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 เม.ย.64 ที่ผ่านมา

น.ส.พัชมน ธนรุ่งวิทย์

แต่เป็นที่น่าแปลกใจอย่างมาก ที่หลานสาววัยซนรายนี้กลับไม่มีอาการป่วยใดๆ จากเชื้อโควิด 19 ปรากฏให้เห็นเลยแม้แต่น้อย และทางแพทย์ก็ไม่ได้ให้ยาในการรักษาใดๆ หลังจากเข้าไปรับการรักษาอาการต่อเด็กด้วย เนื่องจากไม่มีอาการ อีกทั้งหลานสาวยังคงวิ่งเล่นซุกซนได้ตามปกติ ทั้งยังอยู่ด้วยกันกินนอนกับตนและน้องสาวคนรอง ที่นอนพักรักษาอาการป่วยจากโรคควิด 19 ด้วยกันในโรงพยาบาล จนถึงขณะนี้หลานสาวก็ยังไม่เคยปรากฏอาการป่วยจากโรคนี้ออกมาให้เห็นเลย

น้องแอล ผู้ทรหดต่อโรคร้าย

ทั้งที่ต้องอยู่กินนอนกับตนมาโดยตลอดถึงเกือบ 1 เดือนเต็ม นับจากหลังมีการตรวจพบเชื้อจากคนในบ้านและทราบผลยืนยันเมื่อวันที่ 22 เม.ย.64 ที่ รพ.พุทธโสธร และถูกมารับตัวไปทำการรักษายัง ที่ รพ.บางน้ำเปรี้ยว ในวันที่ 23 เม.ย.64 โดยครั้งแรกนั้นทาง รพ.พุทธโสธร แจ้งยืนยันผลว่าพบเชื้อจากการสวอปหาเชื้อของหลานสาวด้วย แต่เมื่อไปอยู่ยังที่ รพ.บางน้ำเปรี้ยว พร้อมกันนั้นกลับไม่แสดงอาการ ทั้งที่มีการเอ็กซเรย์ปอด วัดไข้ วัดความดันในทุกๆ 4 ชม. ซึ่งทุกอย่างเป็นปกติทั้งหมด

หนูน้อยปอดเหล็ก

และเมื่อมีการตรวจหาเชื้อจากหลานสาวอีกครั้ง หลังจากพวกตนนอนพักรักษากันมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ กลับไม่พบเชื้อในร่างกายของหลานสาว และยังไม่มีอาการใดๆ อีกเช่นเดิม ทั้งผลจากการเอ็กซเรย์ปอด ก็ยังไม่พบเชื้ออีกด้วย ขณะที่พวกตนโดยเฉพาะผู้เป็นมารดา คือ น.ส.แสงเงิน นั้น มีอาการหนักมากจนถึงขั้นเสียชีวิต เนื่องจากมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับความดันและเบาหวาน ซึ่งเป็นโรคของคนแก่อยู่ก่อนแล้ว

เชื้อร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อโรคได้

ส่วนตนมีอาการไข้ขึ้นปวดเมื่อยตามร่างกาย มีอาการเจ็บคอ และเหนื่อยง่ายหายใจไม่สะดวกในระหว่างการรักษา แพทย์ต้องให้ออกซิเจนเพิ่มที่โพรงจมูก และมีเชื้อโควิด 19 ลงไปที่ปอดบางส่วน ในการรักษาจึงมีการตรวจวัดอุณหภูมิอย่างต่อเนื่อง และมีการให้ยาฆ่าเชื้อรวมถึงยาที่เกี่ยวข้องตามอาการ แต่ไม่ถึงขั้นที่ต้องให้ตนนอนคว่ำ ซึ่งโดยส่วนตัวนั้นก็ยังคิดว่าเชื้อค่อนข้างรุนแรง เพราะตนมีอาการหลายอย่างค่อนข้างมาก

เพิ่งได้กลับบ้าน

ขณะที่น้องสาวคนรองนั้น มีเพียงอาการไอแต่ไม่มีไข้ ขณะที่น้องสาวคนเล็กซึ่งเป็นมารดาของเด็กนั้น ถูกตรวจพบเชื้อก่อนเป็นรายแรกหลังจากมีอาการไข้ขึ้นและเจ็บคอ ก่อนเดินทางไปตรวจรักษาและถูกตรวจพบเชื้อโควิด 19 ได้ถูกแยกนำไปทำการรักษาก่อนยังที่ รพ.พุทธโสธร และได้รับอนุญาตให้กลับบ้านมาได้ก่อนนานแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พ.ค.64 ที่ผ่านมา ส่วนน้องสาวคนรองได้กลับบ้านมาก่อนเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว

เด็กผู้มีภูมิคุ้มกันตนเอง

สำหรับตนและหลานสาววัย 2 ขวบเศษนั้น เพิ่งกลับออกมาได้เมื่อวานนี้เอง และยังต้องกักตัวอีกเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้หลานสาววัย 2 ขวบ หรือน้องแอลไม่มีอาการอะไรจากโรคนี้เลยนั้น ตนเชื่อว่าอาจเป็นเพราะตนได้ให้อาหารเสริม ที่อาจจะช่วยทำให้ร่างกายของเด็กได้สร้างภูมิต้านทานโรคมาตั้งแต่ยังเล็กๆ เนื่องจากตนเป็นผู้เลี้ยงดูหลานคนนี้มาเองกับมือ จึงทำให้เขามีภูมิต้านทานต่อโรคได้ดี แต่ก็ไม่คิดว่าจะสามารถต้านทานโรคร้ายแรง ที่มีคนเป็นแล้วถึงขั้นเสียชีวิตได้มากถึงขนาดนี้

โควิด19 ยังต้องถอย

ส่วนทางเจ้าหน้าที่ผู้ให้การรักษาตนและผู้ป่วยโควิด 19 ที่ตนได้ไปนอนรักษาอยู่นั้น ก็ได้ให้ข้อมูลไปในทำนองเดียวกันเกี่ยวกับเรื่องภูมิต้านทานในร่างกายของเด็ก ที่อาจถูกสร้างขึ้นมาเองและรักษาอาการได้ด้วยภูมิต้านทานของตนเอง ทั้งที่ในครั้งแรกได้มีการยืนยันว่าตรวจพบเชื้อ ครั้งที่ 2 กลับตรวจไม่พบเชื้อหลังผ่านมาได้ 7 วัน และยังมีการตรวจเป็นครั้งที่ 3 หลังจากเข้าไปอยู่ด้วยกันยังในสถานพยาบาลแล้วครบ 14 วัน ผลตรวจก็ยังไม่พบเชื้ออีกเช่นเดียวกัน

กลับบ้านได้แล้ว

ในขณะที่ตนเองนั้น ถูกตรวจพบเชื้อมาโดยตลอด แม้จะผ่านการรักษามานานจนครบ 14 วันแล้วก็ตาม ยังถูกตรวจพบเชื้อมาอย่างต่อเนื่อง จึงต้องนอนพักรักษาอยู่อย่างยาวนานจนถึงเกือบ 1 เดือนเต็มและได้กลับบ้านเป็นรายสุดท้ายของครอบครัวเมื่อวานนี้ (18 พ.ค.64) โดยที่คนในครอบครัวมีอาการป่วยด้วยโรคโควิด 19 รวม 4 คน ไม่มีอาการ 1 คน และเสียชีวิต 1 คน น.ส.พัชมน กล่าว

และกล่าวว่า ส่วนพิธีศพของมารดา จะทำการปรึกษากันภายในครอบครัวและญาติในการที่จะนำอัฐิมาประกอบพิธีทำบุญทางศาสนาอีกครั้ง หลังจากที่ตนได้กักตัวจนครบ 14 วันแล้ว และสำหรับผลกระทบต่อการดำรงชีวิตจากคนรอบข้างก็อาจมีเกิดขึ้นในชุมชน และสังคมนั้น ตนทำใจยอมรับได้และไม่ได้คิดอะไรมากนัก

ไม่ใช่คนดัง ไม่มีเมรุเผาศพหลังป่วยโควิด 19 ตายญาติวอนสื่อหาทางช่วย

หาที่เผาได้แล้ว เหยื่อโควิด 19 แปดริ้ว หลังหลายวัดยื่นมือตอบรับช่วยเหลือพิธีศพ

ไม่มีเมรุเผาศพแม่ป่วยโควิดตาย ลูกวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน