ปิกอัพเลี้ยวตัดหน้าถูกรถสิบล้อบรรทุกหินพลิกคว่ำทับคนขับดับคาที่

ราชบุรี      เมื่อเวลา 12.35น. วันที่ 17 เม.ย. 66  ร.ต.อ.คชา  อ่อนเหลา  ร้อยเวร  สภ.ปากท่อ  จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถปิกอัพถูกรถบรรทุกสิบล้อพ่วงพลิกคว่ำทับรถมีคนติดอยู่ในซากรถด้วย  เหตุเกิดบริเวณจุดกลับรถหน้าสำนักงานกรมที่ดินสาขา อ.ปากท่อ  ม.4   ต.ดอนทราย   จึงประสานขอรถตัดถ่างให้เข้าไปช่วยตัดถ่างในที่เกิดเหตุ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ ราชบุรี   ในที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ   สีเทา  หมายเลขทะเบียน ผข – 2770 ราชบุรี  ถูกรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว  หมายเลขทะเบียน ตัวแม่   82-3007 สมุทรสาคร   ตัวพ่วง หมายเลขทะเบียน  82-3006  สมุทรสาคร  ซึ่งบรรทุกหินคลุกมาเต็มคันรถ พลิกคว่ำตะแคงข้างทับรถปิกอัพอยู่  ซึ่งภายในซากรถมีคนขับรถเสียชีวิตติดอยู่ด้านในทราบชื่อต่อมาคือ นายเสถียร  ยังสิทธิ์  อายุ 62 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 90/1 ม.2 ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี  และทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นหญิงทราบชื่อต่อมาคือ นางหอมหวน  ยังสิทธิ์  อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียชีวิต  ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปากท่อไปก่อนหน้านี้แล้ว  อาการไม่สาหัส   ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอรถแบคโฮ จากนายวัชระ  อินทร์พรหม กำนัน ต.ดอนทราย  ให้มาช่วยยกรถบรรทุกสิบล้อขึ้น  เนื่องจากส่วนหัวของรถบรรทุกสิบล้อนั้นทับรถปิกอัพจนแบนราบ  และใช้รถยกดึงรถปิกอัพที่ถูกทับจนแบนราบออกมา  ก่อนจะช่วยกันโกยก้อนหินออกจากตัวรถและทำการตัดถ่างงัดร่างผู้เสียชีวิตออกมา  ใช้เวลานานกว่า  1 ชั่วโมง  จึงสามารถนำผู้เสียชีวิตออกมาได้และส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลปากท่อต่อไป

จากการสอบถามนายบุญเลิศ   แหลมกล้า  อายุ 44 ปี   ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกสิบล้อแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด  ก็ให้การว่า ตนเองได้ขับรถสิบล้อบรรทุกหินมาจากตำบลห้วยยางโทน มุ่งหน้าจะไปส่งที่ท่าจีน  จ.สมุทรสาคร โดยขับมาตามปกติอยู่ด้านเลนส์ขวาเพราะจะถึงสี่แยกปากท่อต้องเลี้ยวขวาไปทางสมุทรสาคร   แต่พอมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นจุดกลับรถ ได้มีรถปิกอัพที่วิ่งตีคู่มาทางด้านซ้ายได้เลี้ยวตัดหน้าเพื่อจะกลับรถในระยะกระชั้นชิด  ทำให้ตนเบรครถไม่อยู่เพราะเป็นรถหนัก  ตัวพ่วงที่บรรทุกหินคลุกมาเต็มคันรถจึงสะบัดทำให้รถพลิกคว่ำไปทับรถปิกอัพดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายบุญเลิศ  แหลมกล้า คนขับรถบรรทุกสิบล้อ มาเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ซึ่งไม่พบค่าแอลกอฮอล์ในร่างกาย และได้เก็บรวมรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อนจะดำเนินการต่อไป