X

สงขลา”ทุเรียนโอวฉี่สวนลุงจิน”ออกให้ชิมแล้ว กก.500 ไม่จองต้องบอกว่ามีสิทธิ์อด

สงขลา-สะเดา ออกประเดิมให้กินแล้วทุเรียนสายพันธุ์โอวฉี่ “สวนลุงจิน”เเม้ผลเล็กแต่ราคาไม่เกรงใจใคร เคาะราคาที่กิโลกรัมละ 500 บาท เนื้อสุกออกสีเหลืองอมส้ม ดุจดั่งทองคำ รสชาติหวานนุ่มคล้ายครีมเค้ก อยากกินต้องจองล่วงหน้า ขนาดชาวมาเลเซียที่เคยได้กินบอกว่าอร่อยสุดยอด ยังต้องจองข้ามปี 

ในปัจจุบันกระแสนิยมการปลูกและการบริโภคทุเรียน จัดว่ามาแรงไม่มีตกจริงๆ ด้วยราคาที่ยั่วยวน ทำให้เกษตรกรจำนวนมากในหลายพื้นที่หันมาปลูกทุเรียน นอกจากสายพันธุ์ยอดนิยมอย่างพันธุ์หมอนทองที่โด่งดังแพร่หลายไปทั่ว หรือพันธุ์อื่นๆ อาทิเช่นพวงมณี ก้านยาว ชะนีฯลฯ

สำหรับสวนลุงจิน สวนพืชเกษตรผสมผสานเนื้อที่ 40 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ม.3 บ.ม่วง ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ก็มีการปลูกทุเรียนมากกว่า 400  ต้น ประกอบด้วยพันธุ์หมอนทอง หลงลับแล กระดุมทอง นวลทองจันทร์ มูซังคิง ทุเรียนพันธุ์ ‘ราชานนท์’ สายพันธุ์จากจังหวัดนนทบุรี ที่เป็นสายพันธุ์หายาก ก็มีปลูก

แต่ที่กำลังฮอตสุดในตอนนี้คือพันธุ์ “โอวฉี่” หรือหนามดำ ที่ว่ากันว่าแหล่งกำเนิดสายพันธุ์อยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ด้วยความที่ให้ผลดกเต็มต้น มีทรงผลสวย เปลือกบาง เมล็ดเล็ก เนื้อสุกเป็นสีเหลืองอมส้ม เหมือนทองคำ เนื้อละเอียดเนียนคล้ายครีมเค้ก รสชาติหวานมัน มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื้อเยอะ อายุต้นประมาณเพียง 3-4 ปี ก็มีดอกและติดผลแล้ว จึงกลายเป็นสายพันธุ์ที่นิยมปลูกอย่างรวดเร็ว

คุณพงศกร แย้มมยาสุจริต หรือ กร อายุ 30 ปี เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่หันมาศึกษาและลงมืออย่างจริงจังในการดูแลทุเรียนในสวนซึ่งตกทอดมาจากครอบครัวภรรยา และแบ่งหน้าที่ช่วยเหลือกันระหว่างพี่ๆน้องๆ

เป็นคนรุ่นใหม่แต่ทำไมจึงหันมาทำการเกษตร

แรงบันดาลใจหลักคืออยากสานฝันของป๊าจินต์ (พ่อภรรยา ) ซึ่งแกชอบทุเรียนมาก ทั้งๆ ที่ตนเองไม่มีพื้นฐานในด้านการเกษตรมาก่อนเลย จึงพาตัวเองมาเป็นเกษตรกรตัวน้อยๆ ในสวน จากที่ไม่รู้อะไรเลยจนกระทั่งครอบคลุมได้หมดแล้ว การปฎิบัติควบคู่ไปกับการศึกษาจะนำเราไปสู่ความสำเร็จเอง

ทุเรียนพันธุ์โอวฉี่ในสวน กระแสตอบรับ

มีประมาณ 20 ต้น ไม่ได้เป็นสวนเดียวที่ปลูก แต่เป็นสวนแรกๆที่ได้รับผลผลิตนี่นับว่าเป็นปีที่ 2 ใน อ.สะเดามีปลูกแต่ยังไม่ได้รับผลผลิต วันก่อนมีลูกค้าชาวมาเลเซียซึ่งจองไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วมาซื้อไป 4-5 ลูก ซึ่งได้แกะให้เขาชิมสดๆ เขาบอกว่าสุดยอดมาก ซึ่งทุเรียนโอวฉี่หรือหนามดำมีรสชาติหวานมัน กลิ่นเป็นเอกลักษณ์

ราคาขาย

ทั้งนี้เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่หายาก  และผลขนาดไม่ใหญ่มากประมาณ 1.2- 1.5 กิโลกรัม ปีที่แล้วผลที่หนักสุดประมาณ 3 กิโลกรัม ในส่วนของราคาก็อิงจากใน จ.จันทบุรี ซึ่งขายอยู่ที่ 500 -600 บาท  ส่วนในประเทศมาเลเซียซึ่งโอฉี่เป็นพันธุ์หลักๆของเขา ราคาอยู่ที่ 800-900 บาท ซึ่งสูงกว่าบ้านเราเกือบเท่าตัว โดยราคาที่สวนขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 500 บาท และจากประสบการณ์ของคนทำทุเรียนจะรู้ว่าราคานี้ไม่แพงเลย ด้วยสภาพอากาศอะไรต่างๆ

การดูแลทุเรียนพันธุ์โอวฉี่ และอนาคตของทุเรียน

สายพันธุ์โอฉี่ชอบดินร่วนปนทราย ต้องมีการทำลูกทำใบค่อนข้างง่าย แต่ต้องทำเป็นโปรแกรมต่อเนื่องรวมถึงการใส่ปุ๋ยต่างๆ ทั้งนี้ที่ดูราคาแล้วคาค่อนข้างสูงนอกจากจะหายากแล้ว ยังเป็นเพราะว่าทุกคนปลูกได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำให้เป็นผลผลิตขึ้นมาได้ง่ายๆ ในอายุ 3 ปี 4 ปี

“ทุเรียนปลูกเยอะก็จริงแต่ถามว่าได้ผลผลิตเยอะตามที่ปลูกหรือเปล่า ซึ่งผมมองว่าอีกหลายปีกว่าทุเรียนจะล้ม ยากครับ เพราะว่าผลผลิตที่ได้มามันน้อย อย่างเช่นปีนี้ปัญหาแล้งจัดลามมาตั้งแต่ภาคตะวันออกมาจนถึงภาคใต้ เสียหายไปหลายเปอร์เซ็น ซึ่งเป็นปีที่เรียกว่าเซียนสะอื้นเพราะเซียนหลายๆ คนก็เจ็บเหมือนกัน สภาพดินฟ้าอากาศเราควบคุมไม่ได้ เราควบคุมปุ๋ยควบคุมยา ควบคุมคนได้ แต่เราไม่สามารถสั่งให้ฝนตกได้ ทั้งนี้น้ำเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการปลูกทุเรียน”

สำหรับผลผลิตทุเรียนพันธุ์โอวฉี่ในสวน ปีนี้ผลผลิตมากกว่าปีที่แล้วเนื่องจากมีความชำนาญ และอายุของต้นทุเรียนที่เพิ่มขึ้น แต่กระนั้นยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด หรือลูกค้าที่สั่งจองกันเข้ามา อย่างไรก็ตามหากใครสนใจก็สามารถสอบถามหรือติดต่อได้ที่ โทร.081 930 5338 หรือทางเพจhttp://Suphisara Suphisara Chinakkarapong https://www.facebook.com/kornkaset.sadao?mibextid=LQQJ4d  และ https://www.facebook.com/suanlungjin?mibextid=LQQJ4d ได้ทั้งสั่งซื้อทุเรียนหรือสอบถามเทคนิคการดูแลทุเรียน ซึ่งคุณกรบอกว่ายินดีเผยแพร่ความรู้ให้กับผู้ที่สนใจจริงๆ

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ภูมริน มหันตมรรค

ภูมริน มหันตมรรค

เคยเป็นสื่อทีวีในฐานะทีมช่างภาพตั้งแต่ยุคเปิดตัว ITV. และทำข่าว นสพ.ท้องถิ่นมาก่อน และหยุดไปช่วงนึง 4 ปี เนื่องจากย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่ กลับมาก็เริ่มใหม่ในสื่อทีวี และ นสพ. จนกระทั่งปัจจุบัน 77 ข่าวเด็ด