สงขลา ผู้เดือดร้อนบ้านร้าว-ทรุด ย่านสิงหนคร พบกลุ่มทนายใจดี ชงฟ้องเรียกค่าเสียหาย

สงขลา-สะเดา กลุ่มลูกบ้านเจอบ้านทรุดรวมตัว เดินทางนำหลักฐานมอบให้กลุ่มทนายใจดี ฟ้องร้องค่าเสียหาย เบื้องต้นพบเอกสารขออนุญาตการก่อสร้าง มีหลังการออกเอกสารการโอน ส่วนแบบแปลนถูกต้อง สำคัญที่ในการสร้างจะสร้างตามแบบจริง ๆ หรือไม่

5 ก.ย. 2565 จากกรณี ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์ จากลูกบ้านโครงการบ้านจัดสรร ย่านหมู่ 6 ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา  ว่ามีชาวบ้านทั้งหมด 5 ครอบครัว ประสบปัญหาเจอบ้านทรุดตัว และมีรอยร้าว หวั่นบ้านจะถล่มลงมา ซึ่งที่ผ่านมาได้แจ้งทางเจ้าของโครงการฯ ให้ดำเนินการรับผิดชอบ แต่ทางเจ้าของโครงการฯกลับปัดความรับผิดชอบ ทั้งนี้ได้ร้องทุกข์ไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา แต่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

ล่าสุดลูกบ้านจากโครงการฯดังกล่าว ที่ได้รับความเดือดร้อน มีบ้านเลขที่ 197/41 ,197/45 ,197/46,197/51 และ 197/52 ได้รวมตัวกันพร้อมนำเอกสารต่างๆเกี่ยวกับบ้าน ที่ซื้อมาจากเจ้าของโครงการฯ ในราคา 1.6 ล้านบาท มายืนต่อ ว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงค์ หรือ ทนายชัช กลุ่มทนายใจดี ที่สำนักงานทนายใจดี ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อร้องขอความเป็นธรรม

ทางด้าน ว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงค์ ทนายความกลุ่มทนายใจดี บอกว่าเบื้องต้นตนได้รับเอกสารเรื่องของใบอนุญาตก่อสร้าง สัญญาการซื้อขาย โฉนดและก็แบบแปลนบ้าน ซึ่งทางเจ้าของโครงการฯชี้แจงไปยัง สคบ.สงขลา  เรื่องราวดังกล่าว และรูปต่างๆ เป็นความเสียหายเกิดขึ้นจริง และเกิดความเสียหายพร้อมๆกันทั้ง 5 หลัง ซึ่งจริงๆแล้วโครงการนี้มีทั้งหมด 7 หลัง โดยหลังจากนี้จะได้ประสานทางเทศบาลสิงหนคร ฝ่ายช่าง ฝ่ายโยธาและจะประสานโยธาจังหวัดสงขลา

ให้ร่วมเข้ามาตรวจสอบสาเหตุ ว่าบ้านทั้ง 5 หลังที่ทรุดตัวหรือร้าว เกิดมาจากสาเหตุอะไรกันแน่ อย่างที่เค้ากล่าวอ้างว่าบ้านทรุดนั้น เกิดจากภัยธรรมชาติจริงหรือป่าว หรือเป็นการก่อสร้างที่ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกแบบ และเชื่อว่าจะทราบผลสรุปตรงนี้แน่นอน จากนั้นสิทธิผู้บริโภคทั้ง 5 ราย สามารถใช้สิทธิ์ทางศาลเพื่อฟ้องร้องค่าเสียหายต่อเจ้าของโครงการได้

ส่วนความผิดปกติที่ตรวจสอบพบ พบว่ามีการขออนุญาตก่อสร้าง หลังจากที่มีการโอนไปก่อนแล้ว ซึ่งจะเป็นการขออนุญาตย้อนหลังหรือเปล่า ซึ่งตนจะเข้าไปตรวจสอบข้อมูล พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลสิงหนคร ส่วนที่จะมีวิศวกรควบคุมหรือไม่ ซึ่งในเอกสารไม่มีลายมือชื่อของวิศวกร และจะต้องเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง  ส่วนแบบแปลนที่ได้มาตนตรวจสอบแล้ว เป็นการออกแบบที่ถูกต้อง สำคัญที่ว่าเวลาก่อสร้างได้ทำตามแบบหรือไม่

ด้านข้อกฎหมายนั้น คดีนี้จะอยู่ในรูปคดีทางแพ่ง แต่ถ้าหากตรวจสอบพบว่า มีเจตนาซึ่งรู้อยู่ว่าบ้านหลังดังกล่าวมีสภาพที่ไม่ดี หรือ ชำรุดทรุดโทรม หรือไม่ได้มาตรฐานอยู่แล้วซึ่งกรณีนี้จะพบน้อยมาก แต่ยังมีการขาย ก็จะเข้าข่ายเป็นคดีอาญาการฉ้อโกง หลอกขายอะไรประมาณนี้ ทนายชัชฯบอก