X

ด่านสะเดาคุมเข้มโควิดฯ หลังพบระบาดในมาเลย์ใกล้ชายแดน ส่วนคนไทยยังกลับได้

สงขลา – สะเดา  ด่านพรมแดนสะเดาวุ่น เร่งคุมเข้มคนขับรถขนส่งสินค้า เข้า – ออก อยู่ในประเทศได้ไม่เกิน 7 ชั่วโมง หลังจากพบฝั่งมาเลเซียใกล้ชายแดนไทย โควิด – 19 ระบาดหนัก ติดเชื้อแล้วกว่า 20 ราย นายด่านยันไม่มีการปิดด่าน เผยด่านสะเดานำเข้า –ส่งออก สินค้าหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจทั่วประเทศ และยังไม่ห้ามคนไทยเดินทางกลับบ้าน

7 ส.ค.63 ที่ด่านพรมแดนสะเดา  ยังคงมีรถขนสินค้าเข้า-ออก ระหว่างประเทศ เป็นจำนวนมาก ท่ามกลางความเข้มงวด เนื่องจากมีรายงานว่าพบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด – 19 ที่รัฐเคดาห์ ซึ่งติดกับชายแดนไทย หลังจากที่คนมาเลเซียเดินทางกลับจากต่างประเทศ แต่ไม่ยอมกักตัว มีการแอบออกไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร

ภายหลังทราบว่าตนเองติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 จึงยินยอมแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจหาเชื้อที่ร้านอาหารดังกล่าว พบว่าลูกจ้างของร้านอาหารติดเชื้อรวม 6 ราย ซึ่งร้านอาหารดังกล่าวเป็นร้านอาหารเล็กๆ ตั้งอยู่ที่ เขตกูปังปาซู รัฐเคดาห์ ห่างจากด่านพรมแดนสะเดาประมาณ 18 กิโลเมตร และเป็นร้านที่ผู้ขับรถขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ นิยมไปรับประทานอาหาร

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา นายอาทิตย์ วิสุทธิสมาจาร นายด่านศุลกากรสะเดา ได้เชิญสมาคมโลจิสติกส์จังหวัดสงขลา ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าในด่านสะเดา ตัวแทนออกของ เจ้าหน้าที่หน่วยซีอาร์คิว และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการขนส่งสินค้า มาประชุมชี้แจงมาตราการคุมเข้มในการตรวจคัดกรองคนขับรถสินค้าที่เข้า-ออกด่าน

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลากำหนดมาตรการตาม พรบ.ฉุกเฉินด้วยความเข้มข้น มีการคัดกรองทำประวัติคนขับรถจากประเทศมาเลเซีย ให้สามารถติดตามตัวได้ พร้อมทั้งควบคุมคนขันรถไม่ให้เข้าไปในชุมชน เช่นที่ อ.สะเดา อ.หาดใหญ่ และที่ จ.สงขลา คนขับรถขนส่งสินค้าต้องกรอกแบบฟอร์ม และคัดกรองอย่างเข้มข้น และอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 7 ชั่วโมง หากมีความจำเป็นอยู่เกินต้องขออนุญาตกับนายอำเภอสะเดา ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป และในประเทศมาเลเซียก็เช่นกันห้ามคนขับรถคนไทยอยู่เกิน 7 ชั่วโมงเช่นกัน

ส่วนการระบาดของโรคโควิด – 19 ที่รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย พบมีผู้ติดเชื้อแล้วประมาณ 20 ราย และมี และยังต้องรอผลตรวจวันนี้อีก ซึ่งได้ประสานด่านศุลกากรมาเลเซียในการตรวจเข้มคนไทยเช่นกัน รวมการรายงานความคืบหน้า ของการแพร่ระบาดเชื้อโควิดใกล้ด่านมาเลย์ เราจะประเมินสถานการณ์ทุก 7 วันและทุก 14 วัน และยังคงยืนยันไม่มีการปิดด่านพรมแดนสะเดา เพราะจะกระทบต่อระบบขนส่งอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการขนส่งสินค้าเป็นห่วงโซ่อุปทานในการผลิตและอุตสาหกรรมทั่วประเทศ

ในส่วนของการเดินทางกลับของคนไทยที่ตกค้างอยู่ในประเทศมาเลเซียทางด่านพรมแดนสะเดา ในวันนี้ยังคงมีการเดินทางกลับตามปกติ แม้จะมีหนังสือ ที่ สข 0018.2 / 13596 เมื่อ 6 ส.ค. 63 เรียน ปลัดกระทรวงมหาดไทย เรื่องมาตรการกำหนดแนวทางการผ่านจุดผ่านแดนทางบก ใน จ.สงขลา ลงนามโดย นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา

ซึ่งรายละเอียดข้อ 1.เห็นชอบในหลักการให้ปิดจุดผ่านแดนถาวรด่านสะเดา โดยไม่อนุญาตให้บุคคลทุกสัญชาติเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นระยะเวลา 14 วันโดยขอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ โควิด – 19 เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ อนึ่งที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีเหตุผลจำเป็น ดังนี้

1.1มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ โควิด-19 ในรัฐเคดาห์ เป็นบริเวณที่มีพรมแดนติดกับ จ.สงขลา และผู้ที่จะเดินทางกลับสู่ราชอาณาจักรทางด่านสะเดา จะต้องเดินทางผ่านพื้นที่แพร่ระบาดดังกล่าว ซึ่งจะทำให้เกอดความเสี่ยงในการสัมผัส และอาจติดเชื้อไวรัส โควิด – 19 ได้

1.2 จำนวนบุคคลสัญชาติไทย ที่เดินทางผ่านเข้าสู่ราชอาณาจักรผ่านด่านสะเดา ในห้วง 15 วันที่ผ่านมา (  20 ก.ค. – 5 ส.ค. 63 ) มีแนวโน้มลดลง โดยมีจำนวนเฉลี่ยประมาณ วันละ 17 – 25 คน โดยในห้วงที่มีการปิดจุดผ่านแดนถาวรด่านสะเดานั้น ผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อขอกลับสู่ราชอาณาจักร ยังคงสามารถเดินทางโดยผ่านช่องทางจุดผ่านแดนถาวรเบตง จ.ยะลา  จุดผ่านแดนถาวรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และจุดผ่านแดนถาวรด่านตำมะลัง จ.สตูลได้

ทั้งนี้ยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีกหลายข้อ แต่จากรายงานพบว่าเป็นหนังสือที่ทำถึงกระทรวงมหาดไทย  เพื่อขออนุมัติ ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด – 19  วันนี้ ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้า หรือผลบังคับใช้แต่อย่างใด

 

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ภูมริน มหันตมรรค

ภูมริน มหันตมรรค

เคยเป็นสื่อทีวีในฐานะทีมช่างภาพตั้งแต่ยุคเปิดตัว ITV. และทำข่าว นสพ.ท้องถิ่นมาก่อน และหยุดไปช่วงนึง 4 ปี เนื่องจากย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่ กลับมาก็เริ่มใหม่ในสื่อทีวี และ นสพ. จนกระทั่งปัจจุบัน 77 ข่าวเด็ด