ไก่ทอดกะปิ-ไก่ทอดขมิ้น เคล็ดลับความอร่อยที่แตกต่าง

สองอัตลักษณ์ความอร่อย “ไก่ทอดขมิ้น” สูตรเด็ดหาดใหญ่ เน้นคุณภาพคู่สมุนไพร ด้าน “ไก่ทอดกะปิ” อ.จะนะขายวันละ 150 กก. เล็งปั้นผงสำเร็จรูปไก่หมัก

นายสกลเดช โชติช่วงเมธา เจ้าของโอเล่ข้าวมันไก่ทอดขมิ้น บริเวณ ถนนจิระนคร ซอยอนุตราคลินิค อ.หาดใหญ่ จ สงขลา กล่าวว่า ไก่ทอดขมิ้นเป็นสูตรที่ตนคิดค้นขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เมื่อก่อนจำหน่ายบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี เอ็กตร้า อ.หาดใหญ่ แต่ย้ายมาจำหน่ายบริเวณ ถนนจิระนคร ซอยอนุตราคลินิค อ.หาดใหญ่เมื่อ 5 ปีที่แล้วเมื่อก่อนทำงานรับเหมาก่อสร้างแต่อาชีพนี้ต้องมีทุนหนาเมื่อไม่มีเงินก็ทำงานลำบาก ประจวบเหมาะกับตัวเองเป็นคนรักในการทำอาหาร จึงมองหาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้แรกๆ จำหน่ายไก่ทอดสูตรธรรมดาทั่วไป แต่เพราะเป็นคนไม่ชอบทำอะไรตามคนอื่น จึงมองหาสิ่งที่แตกต่าง และคิดว่าการนำสมุนไพรมาหมักในไก่จะสร้างความแปลกใหม่ และขมิ้นเป็นสมุนไพรที่ทุกคนสามารถทานได้ และมีรสชาติอร่อยกลมกล่อม น้ำจิ้มมีรสชาติเด็ด สามารถเติมได้ตลอด

นายสกลเดช กล่าวต่อว่า ร้านโอเล่ข้าวมันไก่ไก่ทอดขมิ้น จำหน่ายทั้งไก่ทอดขมิ้น ปลาทอดขมิ้น ไก่ต้ม ทานพร้อมข้าวมัน หรือ ข้าวสวย ราคาจานละ 40-50บาท ไก่ทอดจะกรอบหอมกลิ่นขมิ้น น้ำซุปมีความกล่อมกล่อม ปริมาณข้าวค่อนข้างเยอะ ลูกค้าทานเสร็จจะอิ่มพอดีไม่มีบ่นว่าให้ข้าวน้อย

 “สิ่งสำคัญที่ทำให้ร้านโอเล่ไก่ทอดขมิ้นยืนหยัดอยู่ได้ 10 ปี เพราะผมยึดมั่นในคุณภาพ เช่น ข้าวสาร ใช้ข้าวสารที่มีราคาสูงกว่าร้านอื่น เพื่อคุณภาพที่ดีกว่า” นายสกลเดช กล่าว และว่า

แม้หาดใหญ่จะถือเป็นดินแดนแห่งไก่ทอด มีสูตรไก่ทอดหลากหลาย มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ละร้านจะมีสูตรเด็ดแตกต่างกันไป แต่ร้านของตนก็ไม่เน้นแข่งขันกับใครจะแข่งกับตัวเองมากกว่าที่เลือกมาขายที่นี่ เพราะแถวจุติตรงนี้เป็นทำเลทอง มีลักษณะพิเศษตรงที่มีลูกค้าตลอด ในหาดใหญ่หากเป็นย่านอื่นๆทั่วไปเศรษฐกิจจะซบเซา แต่ย่านนี้เมื่อปิดภาคเรียน จะมีเด็กนักเรียนมาเรียนพิเศษเป็นจำนวนมาก ลูกค้าจะเยอะช่วงพักเที่ยง11.30 น.เป็นต้นไป สามารถรองรับลูกค้าได้ในช่วงนี้ประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่เป็นพนักงาน และ นักเรียน กระแสตอบรับดีมากวันหนึ่งใช้ไก่สดประมาณ 30 กิโลกรัมแม้ทางจังหวัดสงขลาจะมีนโยบายสนับสนุนไก่ทอดสูตรต่างๆ แต่ทางร้านยังไม่ได้รับการติดต่อเพื่อส่งเสริมแต่อย่างใด อนาคตอยากให้ทางร้านยืนหยัดต่อไปคงมาตรฐานทั้งการบริการที่ดี ราคาคุ้มค่าเหมาะกับยุคสมัย

ด้าน นางรอมเล๊าะ โลงโดะ เจ้าของกะละห์ไก่ทอดกะปิ บริเวณห้าแยกจะนะอ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งจำหน่ายมานานกว่า13 ปี เผยว่า มีสูตรเฉพาะโดยหมักกับกะปิที่คิดค้นขึ้นเอง มีทั้งทานกับข้าวเหนียวข้าวหมก และข้าวยำ เป็นอาหารพื้นเมืองเนื่องจากเห็นว่ากะปิเป็นเครื่องปรุงทีมีความเข้มข้น และมีความหอมเฉพาะ โดยต้องสั่งกะปิเฉพาะจาก อ. เทพา ซึ่งไม่ใส่สี“ไก่ทอดที่ร้านจะกลมกล่อม มีความมัน สิ่งสำคัญที่ลูกค้าติดใจ มองว่าราคาไม่แพง เช่น ปีกไก่ 10 บาท คอไก่ 5 บาท น่องไก่ 18 บาท”ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวจากสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเดินทางไปหาดใหญ่จะแวะมาทานก่อน รวมทั้งลูกค้าต่างชาติ ทุกวันจะหมักไก่วันละ 150 กิโลกรัม

นางรอมเล๊าะ กล่าวว่า ตระกูลของตนผูกพันกับอาชีพค้าขายมาโดยตลอดทุกคนจะค้าขาย เพราะมองว่า เป็นอาชีพอิสระจะหยุดขายวันไหนก็ได้ และตั้งใจจะให้ลูกๆ สืบทอด จึงได้จดลิขสิทธิ์ “ไก่ทอดกะปิ” โดยไม่คิดจะไม่ขยายสาขา หรือ ขายแฟรนไชน์ “ภาคภูมิใจมากเนื่องจาก มีโอกาสเข้าเฝ้า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯเพราะไก่ทอดกะปิถูกจัดเป็นอาหารเพื่อให้พระองค์ทรงเสวยด้วย ท่านตรัสมาว่า ไก่ทอดกะปิมีสูตรหมักยังไง วินาทีนั้นตื่นเต้นมาก ไม่คิดว่าชาตินี้จะมีโอกาส”

ด้าน นายดุลลาเต๊ะ โลงโดะ สามีเผยเคล็ดลับความสำเร็จว่า อยู่ที่เน้นความสดใหม่ น้ำมันที่ทอดต้องเปลี่ยนทุกวัน ไก่ต้องหมักกับกะปิทุกวัน ไม่เน้นความหวานเนื่องจากไก่ทอดบางเจ้าเน้นหมักกับผงชูรส “เริ่มคิดถึงอนาคตของไก่ทอดกะปิแต่ไม่ได้มองว่าจะขายแฟรนไชส์ แต่มีแนวคิดที่จะจำหน่ายเป็นผงสำเร็จรูปสำหรับหมักในไก่” นายดุลลาเต๊ะ กล่าว