นายกแจ๊ส ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ส่ง จนท.ย้ายมิเตอร์ไฟฟ้าริมแม่น้ำรับพายุไลอ้อนร็อค

ปทุมธานี นายกแจ๊ส ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคส่ง จนท.ย้ายมิเตอร์ไฟฟ้าริมแม่น้ำรับพายุไลอ้อนร็อค

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ตุลาคม 2564 ที่บริเวณสะพานปทุมธานี 1 ตำบลบางปรอก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ร่วมกับนายกฤษดา พงษ์เสริม ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าชำนาญการลงเรือ 2 ลำ เพื่อย้ายมิเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่กับเสาไฟฟ้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเตรียมรับระดับน้ำทะเลหนุนสูงสุดกชอีก 30-50 เซนติเมตร ในวันที่ 10 ตุลาคม 2564 และรองรับพายุไลอ้อนร็อคที่จะพัดเข้าประเทศไทยในวันที่ 11 ตุลาคม 2564 นี้

จากที่ กรมชลประทานเผยในวันที่ 10 ต.ค.นี้ จะเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูงสุด คาดว่า จะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 30-50 ซม. บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จ.ปทุมธานี นนทบุรี และ กทม. ซึ่งได้เสริมเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายออกทะเล นอกจากนี้ ยังใช้ทุ่งพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อตัดยอดน้ำหลาก ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นำโดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี , ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต ร่วมกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปทุมธานี ย้ายมิเตอร์ไฟฟ้าให้สูงจากระดับน้ำบริเวรริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าเป็นอันตรายกับประชาชน

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า หลังจากที่เราได้นำเรือสำรวจโดยมีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปทุมธานี และนักศึกษาอาชีวะเทคนิคปทุมธานี ร่วมช่วยเหลือพี่น้องชาวปทุมธานีที่ตลาดเก่าแก่อิงน้ำ ทั้งนี้เราได้เห็นตามเสาไฟฟ้าที่มีมิเตอร์ไฟฟ้าเริ่มหมิ่นเหม่น้ำจะถึงมิเตอร์ไฟฟ้าแล้ว จึงจะเร่งด่วนตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่ง 2 อำเภอคือ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปทุมธานีจึงระดมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าพร้อมเรือของอบจ.จำนวน 2 ลำ เพื่อดำเนินการย้ายมิเตอร์ไฟฟ้าให้เสร็จภายใน 2 วัน ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านพบว่าเขาหวาดกลัวเรื่องไฟฟ้า บางบ้านต้องปิดไฟเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายกับคนในบ้าน เราจึงต้องช่วยเหลือต่อไป นอกจากนี้ผมได้จัดหาอุปกรณ์ตรวจสอบกระแสไฟในน้ำเพิ่มเติมเพื่อกระจายให้ทั่วถึงในทุกพื้นที่ ก่อนที่น้ำทะเลจะหนุนสูงขึ้นอีก 30-50 เซนติเมตร ในวันที่ 10 ตุลาคม 2564

ในส่วนของแนวคันกั้นน้ำเราได้สำรวจทุกวัน รวมถึงเตรียมแท่งแบริเออร์เพื่อที่กั้นหากน้ำเอ่อล้นขึ้นมาอย่างผิดปกติ ประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในแนวคันกั้นน้ำ ผมคาดว่าจากการเตรียมพร้อมมาหลายเดือนเราสามารถป้องกันได้ ซึ่งเมื่อวานผมได้ร่วมประชุมกับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี ที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา หากน้ำท่วมทในส่วนนี้จะทำให้น้ำผ่านไปยังยังเมืองเอกย่านรังสิตประชาชนในเขตเศรษฐกิจจะเสียหายเยอะ เมื่อเราได้สำรวจแล้วก็มั่นใจว่าจากที่เราป้องกันทั้งหมด ทั้งนายธวัชชัย อึ้งอัมพรวิไล นายกเทศมนตรีเมืองบางกะดีและทีมผู้บริหารการประชุมก็เครียดพอสมควร แต่เมื่อลงสถานที่จริงก็สบายใจได้ว่าเรามีการเสริมอะไรไปบ้างทั้งเครื่องสูบน้ำ กระสอบทราย แท่งแบริเออร์ เชื่อว่าแนวหลังเขื่อนจะไม่มีปัญหา ซึ่งตอนนี้เราเป็นห่วงชาวบ้านพี่น้องประชาชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำมากกว่าเพื่อว่าน้ำเอ่อสูงขึ้นทุกวัน.