นครปฐม – ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งโอนคดียิงสารวัตรแบงก์ เข้าสอบสวนกลางทั้งหมด ส่วนการดำเนินคดีเอาผิดตำรวจละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 และฮั้วประมูล เป็นหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 ท่ามกลางกระแสแจ้งข้อหา มาตรา 157 ผกก.สน.พญาไท
วันที่ 17 กันยายน 2566 ความคืบหน้าคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ สารวัตรตำรวจทางหลวง ในส่วนที่พบพยานหลักฐานเพิ่มเติมนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามคำสั่งโอนสำนวนการสอบสวนคดี จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ไปยัง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่อง กับคดียิงสารวัตรแบงก์
ยกเว้นการสอบสวนสืบสวน ในคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และคดีฮั้วประมูล บริษัทของกำนันนก จะยังคงสอบปากคำ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพราะเป็นพื้นที่เกิดเหตุ รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ที่มีความเข้าใจพื้นที่และพื้นเพของคนร้ายและตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนกลาง และสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ได้ปักหลักทำงาน ที่ห้องปิ่นทองและห้องเสสะเวช กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อเตรียมพยานบุคคลและหลักฐานอื่น ๆ แต่ยังไม่ปรากฏนายตำรวจนายอื่นที่ถูกเรียกเข้ามาสอบเพิ่ม หลังจาก พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพญาไท และพลขับ เข้ามาให้ปากคำเมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) ซึ่งวันนี้ ยังไม่มีใครมาเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า จะมีการแจ้งข้อกล่าว พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผกก.เบิ้ม และ พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท ตามมาตรา 157 (ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่) แต่พิจารณาความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ผกก.เบิ้ม เนื่องจากเสียชีวิตไปแล้ว สำหรับพ.ต.อ.กฤษฎาพร ถูกแจ้ง นอกจาก มาตรา 157 แล้ว ยังอยู่ระหว่างพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา ให้การเท็จเพิ่มเติมด้วย คาดว่าไม่วันนี้ หรือไม่เกินวันอังคารนี้ จะมีการสรุปข้อกล่าวหา
ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนพากันไปปักหลักที่ บช.ภ.7 เพื่อรอ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่เดินทางไปประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยเฉพาะการแจ้งข้อกล่าวหาตำรวจในคดีเพิ่มเติม และจะมีการแถลงข่าวภารยหลังการประชุม 
