X

ผอ.ทอง​ โต้หนังสือพิมพ์บางฉบับลงแจ้งทุจริต สหกรณ์ครูโคราช ฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน

ผอ.ทอง​ โต้​หนังสือพิมพ์บางฉบับลงแจ้งทุจริตสหกรณ์ครูโคราช ฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน

วันที่ 11กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 เวลา13.00 น. ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู นครราชสีมา นายสมศักดิ์ จักสาร ประธานกรรมการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด เป็นประธานการแถลงข่าว แถลงข้อเท็จจริงที่ถูกกล่าวหาและร้องเรียนจากสมาชิกบางกลุ่มและหนังสือพิมพ์บางฉบับโดยมี นายทอง วิริยะจารุ ประธานที่ปรึกษา พร้อมคณะกรรมการตำเนินการบริหารชุด ที่ 62 ครบทีม โดยมีสมาชิกสหกรณ์พร้อมด้วยนายกสมาคมฯ สส.นม. สมาคมๆ ส.ฌ.นม. สมาคม ฌ.ส.นม. การแถลงข้อเท็จจริงที่ถูกกล่าวหาและร้องเรียนจากสมาชิกบางกลุ่มและหนังสือพิมพ์บางฉบับโดยรายละเอียดดังนี้

1. การแถลงข่าวกรณี ที่ถูกกล่าวหาจากสมาชิกบางกลุ่มและหนังสือพิมพ์บางฉบับการลงข่าวของกองบรรณาธิการแห่งหนึ่ง เรื่อง ดีเอสไอรับไต่สวน 4 เรื่องใหญ่ทุจริตสหกรณ์ครูโคราชฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน

 

(1) กรณี นำเงินฝากสหกรณ์คลองจั่น จำนวนเงิน 650 ล้านบาท และออกตั๋วสัญญาใช้

เงินโดยไม่มีธนาคารรับรอง ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ กระทำ

ความผิดฐานร่วมกันทุจริตฟอกเงิน

(2) กรณี เงินฝากสหกรณ์ๆเคหะสถานเมืองโคราช จำนวน 35 บาท และสหกรณ์ฯ ออก

ระเบียบว่าด้วยเงินกู้สามัญเพื่อการเคหะ พ.ศ. 2561 ให้สมาชิกกู้เงินไปซื้อบ้านแปลงละ 850,000

บาท ซึ่งอาจจะทำให้กิดความเสียหาย เป็นเงิน35 ล้านบาท สมาชิกกู้เงินซื้อบ้านพร้อมที่ดิน

(3) กรณี สหกรณ์ๆเก็บเงินค่าประกันชีวิตตามโครงการ 1-2 -3 และไม่นำส่งบริษัท

ประกันเจ้าพระยาประกันภัย(มหาชน) และกระทรวงการคลังสั่งเพิกถอนใบประกอบอนุญาตธุรกิจ

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 สหกรณ์ฯ ปกปิดซ่อนเร้นการค้างจ่ายสินไหมทดแทนให้กับทายาทโดย

ธรรม เมื่อเสียชีวิต จำนวน 129 ราย

 

(4) กรณี สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด

สมาคมฯ สส.นม. สมาคมๆ ส.ฌ.นม. สมาคม ฌ.ส.นม. ถูกจัดตั้งโดยผิดกฎหมาย

2. กรณี นายสำคัญ จงโกเย็น นายวันชัย ศิริธีระพัฒน์ นางรัชนี กิจพนาพรกับพวกได้เข้าร้องเรียนต่อรองนายทะเบียนสหกรณ์ๆร้องตรวจสอบ กรรมการเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จการตั้งหนี้สงสัยจะสูญ สหกรณ์ครูโคราชโกงเงินสมาชิกกว่า 45 ล้านบาทนำเงินไปฝากสหกรณ์ฯ คลองจั่น และ สหกรณเคหะสถาน เมื่อ วันที่ 22 มกราคม 2563

(1)ปี พ.ศ 2556 สมาชิกบางกลุ่ม ไปร้องเรียนต่อสหกรณ์จังหวัดนครราชสีมาฯ

และทำการตรวจสอบเอกสาร มีความเห็นว่าดำเนินการเป็นไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฏหมายสหกรณ์ พรบ. ข้อบังคับ และระเบียบ

(2).ปี พ.ศ. 2559 สมาชิกบางกลุ่ม มีการยื่นฟ้องคณะกรรมการฯ ต่อศาลแขวงนครราชสีมา เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ 802/2559 แดงที่ 769/2560 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1076/2559 แดงที่ 770/2560 ผลการดำเนินคดีศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง

3. กรณี นายสัมนา ฉัตรบูรณจรัส กับพวก ได้ร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI )กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ตามหนังสือ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ ยธ 0805 /808 ลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 กรณีการร้องขอให้ตรวจสอบคณะกรรมการผู้จัดการ และเจ้าหน้าที่สหกรณ์ มีพฤติการณ์ร่วมกันทุจริตทำการฟอกเงิน และการกระทำความผิดอื่นที่ทำให้เกิดความเสียหาย

(1) กรณีการนำเงินร่วมลงทุนกับสหกรณ์ฯคลองจั่น ช่วงปี พ.ศ. 2554-2555

(2) กรณีการนำเงินร่วมลงทุนจำนวนกับสหกรณ์ๆเคหะสถาน จำนวน 35 ล้านบาท

(3) กรณี ให้สมาชิกกู้ซื้อบ้านพร้อมที่ดินจากสหกรณฯเคหะสถาน จำนวน 29 แปลง

(4) กรณีทายาทสมาชิก ไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทนกับบริษัทเจ้าพระยาประกันภัย ปี

2560-2561

(5) กรณีเรียกเก็บเงินประกันชีวิตจากสมาชิก ช่วงเดือนเมษายน 2561-ถึงเดือนมกราคม 2562

3.1 สหกรณ์ได้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงในวันที่11 มิถุนายน 2562 ณ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI ) กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณาแล้วให้ยุติการสืบสวนและมีคำสั่งไม่รับกรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษให้แจ้งผู้ร้องนายสัมมนา ฉัตรบูรณจรัสและกรมส่งเสริมสหกรณ์เพื่อทราบตามหนังสือ ที่ ยธ 0805/ 1410 ลงวันที่ 9 กันยายน 2562

4. กรณี นายสัมนา ฉัตรบูรณจรัส กับพวก ได้ร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI )กองธุรกิจการเงินนอกระบบตามหนังสือที่ ยธ 0812.4 / 1005 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2562กล่าวหาคณะกรรมการ มีลักษณะเป็นการระดมทุนอันอาจเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527และที่แก้ไขเพิ่มเติม

(1) กล่าวหาคณะกรรมการดำเนินโครงการเสริมสร้างอาชีพให้แก่สมาชิกโดยบังคับชื้อน้ำลำไยสกัด ( P 80 ) และให้ค่าแนะนำในการชักชวนสมาชิกรายอื่นให้ซื้อสินค้า

4.1 สหกรณ์”ได้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงใน วันที่18 มิถุนายน 2562 กองธุรกิจการเงินนอก

ระบบ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าวไม่เข้าค่ายความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และไม่มีลักษณะเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1)(ก)(ข)(ค)หรือ(จ) อธิบดีกรมสอบสวนกรณีพิเศษจึงมีคำสั่งให้ยุติการสืบสวนและ มีคำสั่งไม่รับกรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ ตามหนังสือที่ ยธ 0812.4 / 257 ลงวันที่ 28 มกราคม 2563

5. กรณี นายวันชัย ศิริธีรพัฒน์ นางรัชนี กิจพนาพร นางสำเนา ศิริธีรพัฒน์ และพวกแถลงการณ์ (1) กล่าวหาว่าคณะกรรมการเลือกปฏิบัติและใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายกับสมาชิกที่ยื่นฟ้องศาลปกครองกลางกรณีการคำนวณเงินเดือนคงเหลือ 30% ลงวันที่ 7 ธันวาคุม 2562

6. กรณี นายวันชัย ศิริรีพัฒน์ นางรัชนี กิจพนาพร นางสำเนา ศิริธีรพัฒน์ และพวกร้องเรียนให้นายทะเบียนสหกรณ์ให้ดำเนินการฟ้องคดีแทนตามมาตรา 21 พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ.ลงวันที่ 6 มกราคม 2563

(1) กล่าวหาว่าคณะกรรมการเลือกปฏิบัติและใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายกับสมาชิกที่ยื่นฟ้อง ศาลปกครองกลางกรณีการคำนวณเงินเดือนคงเหลือ 30%

(2) กล่าวหาคณะกรรมการร่วมกันปลอมและใช้ตั่วสัญญาปลอมในการลงทุนกับสหกรณ์”คลองจั่น

(3) กล่าวหาคณะกรมการจัดทำรายงานประจำปีตั้งแต่ปี 2554 – 2560 เกี่ยวกับสหกรณ์อันเป็นเท็จต่อมวลสมาชิก

(4) กล่าวหาคณะกรรมการ นำเงินไปฝากกับสหกรณ์เคหะสถานๆจำนวน 35 ล้านบาทสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงเกี่ยวกับธรุกิจของระบบสหกรณ์(5) กล่าวหาคณะกรรมการเก็บเงินค่าประกันชีวิตตามโครงการ 1-2-3 และไม่นำส่งบริษัทประกันเจ้าพระยาประกันภัย และกระทรวงการคลังสั่งเพิกถอนใบประกอบอนุญาตธุรกิจเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 ปกปิดซ่อนเร้นการคงจ่ายสินไหมทดแทนให้กับทายาทโดยธรรม เมื่อเสียชีวิต จำนวน 129 ราย

(6) กล่าวหาคณะกรรมการ โครงการสร้างอาชีพให้แก่สมาชิกโดยบังคับซื้อน้ำ(P 80 )น้ำสกัดลำไยและให้ค่าแนะนำในการชักชวนสมาชิกรายอื่นให้ซื้อสินค้า

(7) กล่าวหาคณะกรรมการ ตกแต่งบัญชีและไม่ปฏิบัติเป็นไปตามระเบียบและคำแนะนำของนายทะเบียนการจัดสรรกำไรประจำปื 2561 ด้วยจำนวนเงินที่ไม่ถูกต้อง

จากการกล่าวหาคณะกรรมการดังกล่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI ) กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ได้

พิจารณาแล้วเห็นว่า ให้ยุติการสืบสวนและมีคำสั่งไม่รับกรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ ตามหนังสือที่ยธ 0805/1410 ลงวันที่ 9 กันยายน 2562กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI ) กองธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าวไม่เข้าค่ายความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน จึงมีคำสั่งให้ยุติการสืบสวนและ มีคำสั่งไม่รับกรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ ตามหนังสือที่ ยธ 0812.4 / 257 ลงวันที่ 28 มกราคม 2563

นอกจากนั้นนายกสมาคมฯทั้ง 3 สมาคม  ได้ร่วมกันชี้แจงสื่อมวลชนในจังหวัดนครราชสีมา การร้องเรียนดังกล่าวมีผลกระทบในการปล่อยกู้ของสหกรณ์ โดยสมาชิกที่ไปร้องเรียนนั้น ขาดคุณสมบัติในการกู้เงินกับสหกรณ์ จึงไม่สามารถที่จะกู้เงินกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูได้ เนื่องจากจากตรวจสอบพบว่าเงินเดือนเหลือไม่ถึง30% ตามเกณฑ์ ทางสหกรณ์ก็ไม่อนุมัติ แต่ถ้าเหลือเกิน 30 %  ทางเราก็จะอนุมัติตามความต้องการของสมาชิกทุกราย ซึ่งเราก็จะมีระเบียบมามารองรับอยู่แล้ว ผู้บริหารมิได้ดำเนินการตามข้อกล่าวหา

ในส่วนของฌาปนกิจ ตนเคยเป็นเหรัญญิกมาก่อนถึง 5 สมัย จึงขอเรียนว่า ฌาปนกิจของสมาชิกสหกรณ์ที่มีอยู่ 3 สมาคมโดยแต่ละสมาคม ได้จัดตั้งขึ้นมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีการจดทะเบียน และมีการรับรองโดยนายทะเบียนท้องที่  การประชุมแต่ละครั้ง จะมีนายทะเบียนกลางมาร่วมเป็นสักขีพยานตลอด  ดังนั้นในเรื่องของการทุจริตตนขอยืนยันว่าไม่มี เพราะว่าเป็นสมาคมที่มีความเข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจ่ายเงินค่าจัดการศพ เมื่อมีการเสียชีวิต ทางญาติมายื่นเอกสารขอรับเงินค่าจัดการศพ เจ้าหน้าที่ก็จะจ่ายเงินให้ทันที  เราเล็งเห็นความจำเป็นของทายาทผู้เสียชีวิตที่จะได้ไปจัดการศพให้สมเกียรติของแต่ละไม่เกิน 1 เดือนก็จะได้ในส่วนที่เหลือจนครบตามสิทธิ์

ส่วนในเรื่องที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการให้ข้อมูลเท็จในการประชุมใหญ่ที่ผ่านมาจึงทำให้สูญเสียเงินจำนวน 45 ล้านบาทนั้น ในเรื่องนี้ทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด เสียหายมาก จากการตรวจสอบคำร้องพบว่าผู้ร้องบางคนไม่ได้เป็นสมาชิก บางคนพ้นสภาพการเป็นสมาชิกไปแล้ว แต่ออกไปให้ข่าวตามสื่อมวลชนว่าคณะกรรมการโกงเงิน จำนวน 45 ล้านบาท จึงทำให้สมาชิกอาจจะเกิดการสับสนเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารซึ่งสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ​ เป็นสถาบันการเงินข่าวแบบนี้ทำให้มีความอ่อนไหว ซึ่งคนกลุ่มนี้ต้องการสร้างสถานการณ์ ให้เกิดความสั่นคลอนต่อสหกรณ์ฯ  แต่เราได้มีการประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้สมาชิกรับรู้มาโดยตลอด รวมไปถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 มีผู้แทน

ในส่วนการร้องเรียนไปยังกรมสอบสวนพิเศษ DSI ให้มีการตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการและประธานสหกรณ์ชุดปัจจุบัน  ทางสหกรณ์ได้เข้าไปให้ข้อมูลและถ้อยคำทุกข้อกล่าวหา ที่มีการร้องเรียนเข้าไปส่วนใหญ่ก็จะเรื่องเก่า ที่ขุดเอามาร้องใหม่  เมื่อ DSI สอบสวนเราเสร็จก็ตอบกลับมาแล้วว่าไม่มีมูล และไม่รับเป็นคดีพิเศษพร้อมจำหน่ายคดีออกจากระบบแล้ว ดังนั้นจึงขอฝากสื่อมวลชนกราบเรียนไปยังพี่น้องสมาชิกฯ ขอให้มีความมั่นใจในเรื่องของการบริหารงานของคณะกรรมการ และฝ่ายจัดการเงินไปตามกฎหมายข้อบังคับระเบียบ ทุกอย่างโปร่งใส และมีความซื่อสัตย์ต่อสมาชิกและสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด คณะกรรมการชุดนี้ทำงานด้วยใจและยึดมั่นความซื่อสัตย์และโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ นายสมศักดิ์ ประธานสหกรณ์ฯกล่าว

ทางด้านนายทอง วิริยะจารุ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากมีการลงข่าวก็รู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะสื่อน่าจะมีการตรวจสอบให้รอบด้าน ว่าสหกรณ์ฯ โกงเงินสมาชิก จริงหรือไม่หรือมีหลักฐานมาแสดงว่ามีการทุจริตในสหกรณ์ ซึ่งเมื่อมีการให้ข่าวของบุคคลบางคนและสื่อบางฉบับนำข่าวออกไปเสนอข่าวแต่ยังไม่มีการตรวจสอบก่อนถือว่าทางสหกรณ์ครูโคราชเสียหายและเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก   ซึ่งหลังจากนี้สหกรณ์ฯจะรวบรวมหลักฐานให้ฝ่ายกฎหมาย ฟ้องร้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะสหกรณ์เป็นสถาบันทางการเงิน และทางสหกรณ์ฯ มีทุนเรือนหุ้นถึง 16,700 กว่าล้านบาท และมีเงินฝากกว่า 6,000 ล้านบาท และมีสินทรัพย์มากกว่า 36,000 กว่าล้านบาท การมาลงข่าวอันเป็นเท็จทำให้เสียหายโดยขาดหลักฐานและข้อมูลความจริง จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดต่อไป

ทางนายทอง วิริยะจารุ ประธานที่ปรึกษากล่าวต่ออีกว่า พอไม่รับคำฟ้อง พอตอนหลังก็ไปแจ้งกรมส่งเสริมบ้างแจ้งDSIบ้างแล้วก็ไปลงข่าวหนังสือพิมพ์เขียนเป็นเรื่องราวขึ้นมาตรงนี้องค์กรเรามีความเสียหายมากๆเรานั่งพิจารณาเสียหายเยอะเลยท่านผู้ใหญ่ในกรม กระทรวงว่า ทำไมอย่างนี้ละ

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน