ชัยภูมิ – หวิดลุกลามบ้านข้างเคียงกลางชุมชนอีกเป็นจำนวนมาก จนท.ชาวบ้าน ช่วยกันตักน้ำมาดับช่วยกันอลหม่านทั้งชุมชน ก่อนที่จะช่วยกันสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามไปไหม้บ้านข้างเคียงไว้ได้ทัน ส่วนบ้านต้นเพลิงวอดทั้งหลัง เจ้าของบ้านต้นเพลิงเผยก่อนไปไปทำบุญวันสงกรานต์ที่วัดในหมู่บ้าน เสียบปลั๊กกาน้ำร้อนทิ้งไว้ คาดอุปกรณ์เป็นบ้านไม้เก่าและอุปกรณ์สายไฟฟ้าใช้การมานาน น่าจะเกิดร้อนจัดเป็นเหตุให้ไฟฟ้าลัดวงจรไปบ้านตัวเองจนเสียหายวอดทั้งหลังครั้งนี้ขึ้น จนท.เตือนก่อนออกจากบ้านพึงระวังช่วงหน้าร้อนจัด!
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 เม.ย.62 ร.ต.อ.อัศวิน พรมนอก สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเพลิงไหม้บ้านกลางชุมชน อยู่เลขที่ 221 บ้านช่อระกา หมู่ 18 ตำบลนาฝาย อำเภอเมืองชัยภูมิ ซึ่งไฟกำลังจะลุกไหม้ไปยังบ้านข้างเคียงที่อยู่ติดกันอีกหลายหลัง
จึงเร่งประสานขอสนับสนุนรถดับเพลิงจาก อบต.นาฝาย และรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองชัยภูมิ รวม 3 คัน พร้อมเข้าร่วมกันเข้าไปช่วยดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านไม้เก่ายกสูง เพื่อเร่งช่วยกันสกัดไฟไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านค้างเคียง ซึ่งใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถช่วยกันสกัดเพลิงให้สงบลงได้
ท่ามกลางชาวบ้านจำนวนมาก กำลังแตกตื่นช่วยกันตักน้ำออกมาช่วยกันดับไฟ ทั้งใช้สายยางฉีดน้ำ ใช้ถังตักน้ำสาดกันจ้าละหวั่น จึงสามารถช่วยกันไม่ให้ไฟลุกลามไปไหม้บ้านข้างเคียงไว้ได้ ส่วนบ้านต้นเพลิงได้รับความเสียหายไปหมดทั้งหลัง เพราะเป็นบ้านไม้เก่ายกสูงเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดี
โดยมีนายบุญรอด ศรีจันทร์ เป็นเจ้าบ้านของ ซึ่งก่อนเกิดเหตุนายบุญรอดและคนในครอบครัว ได้ไปทำบุญวันสงกรานต์ที่วัดประจำหมู่บ้านไม่มีใครอยู่บ้าน ก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้ขึ้น ซึ่งมีนายบุญรอดฯ ได้อาศัยหลับนอนอยู่บ้านเกิดเหตุเพียงคนเดียว ส่วนภรรยาและลูกได้อาศัยอยู่บ้านหลังปลูกใหม่อยู่ด้านหน้า
ซึ่งนายบุญรอดฯ คาดว่าก่อนเกิดเหตุในตอนเช้าได้เสียปลั๊กกาน้ำร้อนทิ้งไว้ และสายไฟฟ้าในบ้านน่าจะมีสภาพเก่า และอากาศที่ร้อนคาดว่าไฟฟ้าจะลัดวงจร เป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ครั้งนี้ขึ้น
ขณะที่ ร.ต.อ.อัศวิน พรมนอก สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ หลังมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบสวนเจ้าของบ้าน คาดว่าเหตุการณ์เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเนื่องจากบ้านหลังดังกล่าว สร้างมานานหลายสิบปีสายไฟไม่เคยเปลี่ยนจึงอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร จนเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่วนมูลค่าความเสียหายน่าจะอยู่ประมาณหลักแสนบาท ซึ่งครั้งนี้โชคยังดีที่เพลิงไม่ลุกลามไปไหม้บ้านข้างเคียงเสียหาย ตามมาอีกเป็นจำนวนมากได้ จึงขอให้ประชาชนที่จะออกจากบ้านในช่วงวันหยุดสงกรานต์ ไปเที่ยวกับครอบครัวขอให้ช่วยกันตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าปิดให้สนิทเสียก่อน จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกได้
