ชัยภูมิ – หลังนั่งดื่มสุราในหมู่บ้านเป็นประจำ ก่อนเดินออกจากหมู่บ้านมาตามริมถนนมา อยู่ดีๆเดินไปเตะถูกวัตถุระเบิดดังกล่าวเข้าเต็มๆ ก่อนกลิ้งเข้าไปริมถนนหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวดัง ก่อนที่จะเรียกเจ้าของและคนใกล้เคียงมาช่วยกันดูถึงกับผงะจนแทบช็อกจนสร่างเมา เมื่อรู้ว่ากลายเป็นระเบิดสงครามของจริง ก่อนจะเร่งช่วยกันเร่งแจ้ง จนท. EOD มาเก็บกู้ไว้ได้ทัน!!
เมื่อเวลา 16.20 น.วันที่ 9 มกราคม 2562 เจ้าหน้าที่จากศูนย์ EOD ของสถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ รับแจ้งเหตุด่วนจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีคนพบวัตถุระเบิด คล้ายอาวุธสงครามตกอยู่บริเวณช่วงริมถนนห่างหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว 19 บาท ไม่ถึง 10 เมตร ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายชัยภูมิ-บ้านเขว้า ช่วงบ้านหนองบัวขาว ตำบลชีลอง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงเร่งจัดชุดเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิด EOD เร่งรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ
ซึ่งในที่เกิดเหตุ พบเป็นวัตถุระเบิดสงครามของจริง รุ่นน้อยหน่า ชนิด M 22 เจ้าหน้าที่จึงนำยางรถยนต์มาวางกันไว้รอตรวจสอบ และขอประชาชนที่ไม่เกี่ยวหลบออกจากพื้นที่ใกล้เคียงในรัศมีกว่า 500 เมตรไว้ก่อน ระหว่างทำการเก็บกู้วัตถุระเบิดดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาไม่นานถึง 10 นาที เจ้าหน้าที่ก็สามารถเก็บกู้วัตถุดังกล่าวไว้ได้ ซึ่งเป็นระเบิดที่ยังสามารถใช้งานได้แต่ยังไม่มีการถอดสลักออกจึงไม่สามารถทำให้ระเบิดได้ง่าย
ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสอบถามไปยัง นายนพรัตน์ สงกล้าหาญ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 9 ตำบลสามแยก อำเภอวิเชียร จังหวัดเพรชบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้ที่พบวัตถุดังกล่าวเป็นคนแรก ให้การว่า หลังวันนี้ตนเองได้นั่งดื่มสุราในหมู่บ้านหนองบัวขาว ก่อนที่จะเดินออกมาจากหมู่บ้านหนองบัวขาว เดินมาเรื่อยๆตามริมถนน เหมือนทุกวัน ก่อนที่ตนเองจะเดินมาถึงบริเวณช่วงหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวดังกล่าว เกิดไปเตะโดนวัตถุคล้ายระเบิดดังกล่าวริมถนนเข้าพอดี และลูกระเบิดดังกล่าวก็ได้กลิ่งเข้าไปใกล้หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวดังกล่าว
ก่อนที่จะเดินเข้าไปดูใกล้ๆเพื่อดูว่าเตะโดนอะไรกันแน่ ต้องถึงกับแทบช็อกจนแทบสร่างเมาเพราะเหมือนระเบิดสงครามมาก จึงรีบวิ่งมาบอกเจ้าของและคนในร้านก๋วยเตี๋ยวที่รู้จักกันให้ช่วยออกมาดูช่วยกัน จึงรู้ว่าน่าจะเป็นระเบิดของจริงแน่ ก่อนที่จะช่วยกันรีบโทรแจ้ง 191ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเก็บกู้วัตถุดังกล่าวไว้ได้อย่างปลอดภัยเพื่อนำไปทำร้ายทิ้งต่อไป
ซึ่งครั้งนี้โชคยังดีที่มีการรีบแจ้งจนท.ตร.มาตรวจสอบได้ทัน และไม่มีใครเป็นอันตรายจากระเบิดดังกล่าว ที่ยังไม่ได้ถอดสลักออก และไม่มีใครนำไปแกะเล่นจนเกิดระเบิดรุนแรงสร้างความเสียหายตามมาอีกเป็นจำนวนมากได้ และคาดว่าน่าจะเป็นของกลุ่มวัยรุ่นที่ขับขี่รถและนำติดตัวมาแต่กลัวเจ้าหน้าที่เรียกตัวสอบก่อนถึงด่านตรวจ จึงรีบโยนทิ้งไว้ข้างทางดังกล่าวขึ้น
