X

เตือนกินอึฉี่ขี้ไคลเสมหะฤาษีรักษาโรคลัทธิเพี้ยน เสี่ยงติดเชื้อถึงตายหลังพบ 11 ศพเก็บในสำนัก!

ชัยภูมิ – เสี่ยงติดเชื้อจาการรักษาแบบผิดๆตายคาสำนักฯ จนท.เร่งค้นหาร่างผู้เสียชีวิต 11 ศพ ส่งพิสูจน์ต่อเนื่อง หลังหมอปลา ประสานผู้ว่าฯ นำกำลังบุกเข้าตรวจสอบสำนักฤาษี ลัทธิเพี้ยนสั่งสอนให้สาวกกินอึ ขี้ไคล ฉี่ และเสมหะ รักษาโรค ต้องผงะพบ 11 ศพ ปล่อยให้เน่าทิ้งในโลงคากระท่อมสำนักอ้างรอทำพิธีช่วยให้ขึ้นสวรรค์ พร้อมสั่งปิดดำเนินคดีรุกป่าที่สาธารณะสร้างสำนักปฏิบัติธรรมลัทธิความเชื่อแบบผิดๆมอมเมา ปชช.ให้หลงงมงายมานานหลายปี ล่าสุดเบื้องเตรียมดำเนินคดี 2 ข้อหา พร้อมนำตัวฤาษีเจ้าสำนักฝากขังแล้ว ด้าน สสจ.เตือนกินของเสียจากร่างกายทั้งอึ ฉี่ ขี้ไคล เสมหะรักษาโรคตามลัทธิเจ้าสำนักฤาษีแบบผิด ๆ เสี่ยงติดเชื้อถึงตายเหมือน 11 ศพที่พบก็มีโอกาสเสี่ยงกลายเป็นศพด้วยได้ ยันหากการรักษาของสำนักดังกล่าวดีจริงคงไม่มีคนเสียชีวิตต้องเก็บศพไว้ในสำนักจำนวนมาก!

( 9 พ.ค.65 ) ล่าสุดความคืบหน้าต่อกรณีที่เกิดขึ้นทางด้าน นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อมทีมงานสื่อมวลชนหลายสำนัก  พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัฒนชัย  จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ และชุดสืบสวน ตร.ภูธรจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอคอนสาร จนท.กู้ภัยฯ เจ้าหน้าที่ สสจ.ชัยภูมิ

ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบสำนัก (ฤาษี) ปฏิบัติธรรมปลัดที่ตั้งอยู่กลางป่าในพื้นที่ หมู่ 2 ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการกักขังผู้มาปฏิบัติธรรมและรักษาโรคโดยวิธีการแบบแปลกประหลาดไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นกระท่อมไม้ชั้นเดียวมุงด้วยใบหญ้าคาภายในมีข้าวของวางรวมกองสูงไว้เกลื่อนเป็นจำนวนมาก หลังทางชุดนายไกรสร  กองฉลาด ผวจ.ชัยภูมิ นำกำลังด้วยตัวเองเพื่อเข้าตรวจสอบและเชิญตัวฤาษีเจ้าสำนักดังกล่าวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีมาแต่ตั้งเมื่อช่วงวานนี้ 8 พ.ค.65 ที่ผ่านมา

และวันนี้ชุดสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียดอีกครั้ง ตามกระท่อมต่างๆภายในสำนักดังกล่าว ซึ่งมีลูกศิษย์ของฤาษีเจ้าสำนักแห่งนี้ระบุว่ามีการเก็บศพไว้ภายในสำนักดังกล่าวด้วยรวม 11 ศพ และก็จะพบกับโลงศพภายในมีร่างผู้เสียชีวิต ตามจุดกระท่อมต่าง ๆ เพื่อเคลื่อนย้ายศพไปส่งตรวจพิสูจน์ยืนยันว่าเป็นบุคคลเป็นใครมาจากที่ไหนบ้างให้ชัดเจนต่อไป

โดยด้าน นายสมบูรณ์  ลูกศิษย์เจ้าสำนักฤาษี ที่อ้างตัวว่าเป็นพระบิดา เป็นใหญ่กว่าทุกศาสนา เผยว่า ตนเองเป็นคน ชาวอำเภอเกษตรสมบูรณ์ และได้ตัดสินใจมาอยู่ศึกษาแนวทางความคิดและวิถีชีวิตที่อาศรมฤาษีแห่งนี้เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาทางพระบิดา ก็จะกล่าวให้ ลูกศิษย์ผู้คนที่อยู่ร่วมกันในอาศรมแห่งนี้ ให้มีความเอื้อเฟื้อแบ่งปันและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายทั้งยังมีการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆโดยสมุนไพร ซึ่งเรื่องที่ใครจะกินขี้ไคลหรือเยี่ยว อะไรต่างๆของพระบิดานั้นก็อยู่ที่ความสมัครใจเอง ไม่ได้บังคับแต่อย่างใด เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่เอง

ขณะที่ทาง จนท.เอง จากนี้ไปหลังเข้าตรวจสอบร่างศพที่มีทั้งหมดแล้ว จะได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนที่วันนี้จะแจ้งดำเนินคดีตามกฎหมายในเบื้องต้น 2 ข้อหา กับฤาษีดังกล่าว ในข้อหาบุกรุกป่าหรือที่สาธารณะ และฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสาธารณสุข และควบคุมตัวส่งฝากขังที่เรือนจำภูเขียว เพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อไป รวมทั้งหลังมีผลตรวจยืนยันที่แน่ชัดเจนศพออกมาแน่ชัด หากพบการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมทั้งหมดโดยเร็วอีกต่อไป

รวมทั้งด้าน นายแพทย์วชิระ  บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยถึงกรณีที่ หมอปลา ได้ร่วมประสานขอกำลังจาก นายไกรสร  กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อ.ภูเขียว และ อ.คอนสาร เข้าตรวจค้นสำนักปฏิบัติธรรม เข้าข่ายตั้งเป็นลัทธิประหลาด ในพื้นที่ ต. ดงกลาง อ. คอนสาร จ. ชัยภูมิ พร้อมได้จับคุมตัวคนที่อ้างว่าตัวเองเป็นพระบิดาเป็นกว่าทุกศาสนา

ที่มีการรักษาโรคพิสดาร ทั้งกินปัสสาวะ ขี้ไคล เสมหะ  และแม้กระทั่งอุจจาระ โดยอ้างว่ากินแล้วจะหายจากโรคภัยต่างๆ และยังมีการพบศพอีก 11 ศพ ใส่ไว้ในโลงปล่อยให้เน่าเปื่อยเอง ที่มีการสร้างลัทธิความเชื่อให้ประชาชนที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่ว่าจะช่วยให้ศพผู้ตายได้ขึ้นสวรรค์นั้น

ซึ่งเบื้องต้นทาง จนท.สสจ.ที่ร่วมชันสูตรศพ ยังไม่พบว่ามีเอกสารยืนยัน 5 ศพ ว่าผู้เสียชีวิตในโลงเป็นใครมาจากไหน ที่ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ยืนยันหาว่าเป็นใครมาจากไหนให้ชัดเจนอีก

โดย นายแพทย์วชิระ  บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า การนำสารคัดหลั่งจากซากศพ หรือของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ มาดื่มทั้งน้ำปัสสาวะบ้าง ใช้ขี้ไคลในการรักษาโรคบ้าง หรือใช้กระทั่งเสมหะในการรักษาโรค สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นของเสียที่ร่างกายขับออกมาซึ่งอาจจะมีเชื้อโรคปนเปื้อนมาด้วย

และเสี่ยงต่อพี่น้องประชาชน ที่เชื่อว่าจะช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้นั้น ต้องระวังให้มากที่สุด โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ผู้ที่ไปรวมกลุ่มแบบนั้นไม่ได้ป้องกันตัวเอง ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย และอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาดก็ไม่ปลอดภัย ซึ่งยังเสี่ยงทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อโรคได้

และในกรณีที่เกิดขึ้นต้องขอเตือนพ่อแม่พี่น้องประชาชน ตอนนี้เรามีสวัสดิการรักษาพยาบาลมากมายที่รัฐบาลช่วยดูแลพี่น้องอยู่ อย่าได้ตกเป็นเหยื่ออย่าหลงเชื่อบุคคลแอบอ้างใช้เรื่องของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ในการสร้างความศรัทธาและทำให้ประชาชนหลงเชื่อและความรู้ที่ผิดๆในลัทธิต่างๆได้อีกเลย เพราะถ้าการรักษาแบบนี้ดีจริงคงไม่มีคนป่วยเสียชีวิตคาสำนักฯดังกล่าวเป็นจำนวนมากถึง 11 ศพ ที่พบในเบื้องต้นด้วย

และในวันนี้(9 พ.ค.65) ทางสำนักงานสาธารสุขจังหวัดชัยภูมิ ได้ลงพื้นที่เพื่อประสานการในการดำเนินการในเรื่องของการตรวจชันสูตรซากศพแล้ว รวมทั้งจะสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมในเรื่องอื่นๆ รวมทั้งให้ทุกอำเภอใน จ.ชัยภูมิ ได้สำรวจว่ามีการกระทำในลักษณะเช่นนี้อีกหรือไม่ ที่จะเป็นจุดเสี่ยงแหล่งเกิดโรคระบาดรุนแรงตามมาได้อีก และจะได้ดำเนินการในส่วนของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคคุ้มครองสวัสดิภาพความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนไม่ปลอดภัยในกรณีนี้ต่อสำนักฤาษีดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย

ซึ่งต้องขอย้ำฝากเตือนในการรับของเสียร่างกายมาใช้รักษาโรค เป็นเรื่องที่ไม่ควรนำเข้าสู่ร่างกาย ถึงขั้นรุนแรงทำติดเชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิตได้ ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องใน 11ศพ ที่พบในการเข้าตรวจค้นในสำนักฤาษีดังกล่าวในครั้งนี้ด้วย

ขณะที่สำหรับชื่อของเจ้าลัทธิสำนักประหลาดแห่งนี้ที่อ้างตัวเป็นพระบิดาเป็นใหญ่กว่าทุกศาสนาที่มีในครั้งนี้ ด้าน พ.ต.อ.วัฒนชัย  จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร ตรวจสอบทราบชื่อเจ้าสำนักฤาษีรายนี้แล้ว คือ นายทวีฯ อายุ 74 ปี เป็นชาว จ.ขอนแก่น ได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ป่าสาธารณะ บ้านกุดแคน หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ มาตั้งแต่ช่วงเมื่อ 10 ปีกว่าที่ผ่านมา และเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดัง มีผู้นับถือจำนวนมากเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันด้วยการอ้างตัวมีคุณวิเศษรักษาโรคต่างๆได้มาจนปัจจุบัน ก่อนที่จะถูกเข้าตรวจสอบของ จนท.ในครั้งนี้ ซึ่งในส่วนที่พบกระทำผิดในกฎหมายข้อใด จะได้เร่งรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีทั้งหมดในไม่ช้านี้โดยเร็วต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]