ชัยภูมิ – หลังเกิดน้ำท่วมหนักครั้งใหญ่สุดในรอบ 50 ปี เพิ่งผ่านพ้นมาได้ไม่กี่วัน ระดับน้ำในหลายพื้นที่เริ่มลดเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องเร่งตั้งหลักเตรียมรับมือหวั่นพายุจ่อเข้าประเทศไทยอีก 2 ลูก จ่อถล่มหนักซ้ำอีก เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายออกทุกจุดในตัวเมืองโซนเศรษฐกิจที่ยังมีน้ำท่วมขังเพื่อเปิดพื้นที่ไว้รองรับน้ำหากเกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุตามมาอีกได้ยังต้องจับตาอีกต่อเนื่องในช่วง 11-13 ต.ค.64 นี้!
( 7 ต.ค.64 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ สถานการณ์หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่หนักสุดในรอบกว่า 50 ปี ในตลอดช่วงเกือบ 2 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.64 ที่ผ่านมา เริ่มคลี่คลายลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้วในหลายพื้นที่ต่อเนื่อง และล่าสุดในทั่วประเทศยังต้องจับตาติดตามว่ายังจะมีพายุลูกใหม่จ่อผ่านเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยอีกต่อเนื่องรวม 2 ลูก ทั้ง‘ไลออนร็อก-คมปาซุ’ ประชาชนในทั่วประเทศไทยยังต้องรอลุ้นว่าพายุดังกล่าวจะพัดเข้าไทยในช่วง 11-13 ต.ค. 64 นี้ จะมีความรุนแรงอีกเท่าใด และหลายฝ่ายรวมทั้งในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เองที่เพิ่งผ่านพ้นวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่รอบ 50 ปี ผ่านมาได้ไม่กี่วัน และหวั่นว่าจะซ้ำรอยพายุเตี้ยนหมู่ หนักรุนแรงขึ้นอีกครั้งตามมาด้วยในครั้งนี้หรือไม่
หลายฝ่ายทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ได้มีการเร่งระดมเตรียมแผนการจัดการบริหารน้ำรับมือ สถานการณ์น้ำหลากท่วมที่อาจจะมาซ้ำอีกครั้งได้ ซึ่งล่าสุดด้านสถานการณ์น้ำในลำแม่น้ำชีที่ไหลผ่าน จ.ชัยภูมิ ทั้งหมดในขณะนี้ต่ำลงไปกว่าตลิ่งอยู่ที่ 1 เมตร ที่ลดลงมากแล้ว และยังเหลือภาพความเสียหายทิ้งไว้ในทั้งพื้นที่นาข้าวใกล้เก็บเกี่ยวแช่น้ำมานานกว่าสัปดาห์ เริ่มเน่าตายจำนวนมาก รวมทั้งตามไหล่ถนนริมถนนสายหลัก 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว สายประตู่สู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน ทางเชื่อมผ่านเข้าออกภาคกลางไปกรุงเทพฯ ถูกน้ำกัดเซาะเสียหายเป็นหลุมลึกเสียหายอีกหลายแห่ง
ซึ่งหลังน้ำลดในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ก็ยังต้องเร่งสูบน้ำระบายออกจากตัวเมืองให้มีพื้นที่รับน้ำจากพายุตัวใหม่ ที่จะผ่านเข้าประเทศไทยในช่วง 11-13 ต.ค.64 อีกครั้งนี้ด้วย พร้อมเร่งนำถุงชีพพระราชทาน 1,700 ชุด ไปเร่งมอบให้ผู้ยากจน ผู้เดือดร้อนจากถูกน้ำท่วมบ้านยังหนักสุด ได้บางส่วน ซึ่งในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมบ้านได้รับความเสียหายทั้งหมดครั้งนี้รวมกว่า 20,000 ครอบครัว
ซึ่งล่าสุดผลการสำรวจความเสียหายในพื้นที่น้ำท่วมใหญ่หนักสุดในรอบกว่า 50 ปี ของ จ.ชัยภูมิ ได้รับความเสียหายทั้งหมดทั้ง 16 อำเภอ มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 200,000 ไร่ เฉพาะนาข้าวกว่า 140,000 ไร่ ในพื้นที่ 108 ตำบล 1,169 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ มีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมเสียหายใน 25 ชุมชน รวมทั้งหมดกว่า 98,721 หลัง/ครัวเรือน
และโดยเฉพาะโซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมืองชัยภูมิ ถูกน้ำท่วมเสียหายหนักกว่า 20,000 หลัง/ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ถูกน้ำท่วมที่ผ่านมาช่วงกว่า 1 สัปดาห์รวม 15 ราย (ศพ)
ซึ่งทั้งทางด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ รวมทั้งนายธีวรา วิตนากร นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ ได้มีการระดม จนท.ติดตามสำรวจทางน้ำในแม่น้ำชีที่สถานีวัดน้ำบ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งล่าสุดแม่น้ำชีไหลผ่านต่ำกว่าตลิ่ง 1 เมตร หรือความสูงประมาณ 10 เมตร จากล้นตลิ่ง 11 -12 เมตร และยังมีน้ำที่ยังหลงเหลือท่วมตามพื้นที่การเกษตรอีกเป็นวงกว้าง
ทั้งในตัวเมืองโซนเศรษฐกิจกลางใจเมืองทั้งหมด และรอยต่อรอบนอกเมืองชัยภูมิ เทศบาลเมืองชัยภูมิ ก็มีการเร่งระดมติดตั้งเครื่องสูบระบายน้ำร่วมกับชลประทานจังหวัดชัยภูมิ เพื่อให้น้ำที่ยังท่วมขังในพื้นที่ต่างๆไหลลงสู่แม่น้ำชีโดยเร็วให้ทันในช่วงวันที่ 11-13 ต.ค.64 นี้ด้วย ซึ่งสถานีตรวจอากาศ จ.ชัยภูมิ คาดว่าจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่อีกในช่วงวันที่ 11 -13 ตุลาคม 2564 นี้ จากอิทธิพลพายุอีก 2 ลูกที่คาดว่าจะผ่านเข้าประเทศไทยในช่วงนี้ด้วย
โดย นายธีวรา วิตนากร นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองชัยภูมิ ยังคงเร่งลงพื้นที่นำถุงยังชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และจากทุกพระองค์ ที่ได้พระราชทานมอบแด่พสกนิกรในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ มาประมาณ 1,700 ชุดในวันนี้ด้วย
ซึ่งคาดว่า หากมีฝนตกหนักในพื้นที่อีกเหมือนพายุเตี้ยนหมู่ครั้งที่ผ่านมา การเร่งระบายน้ำออกตัวเมืองในขณะนี้ก็ยังช่วยไม่ให้เกิดความรุนแรงหนักเหมือนครั้งที่ผ่านมาอีกทางได้
